เอ็ดมอนด์ เนียว คิม ซูน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจ “ช้าง” และ “เฟเดอร์บรอย” ตลอดปี 2560 ได้เดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบวิสัยทัศน์ 2020 ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ตั้งเป้าหมายในการเป็นผู้นำเบียร์อันดับหนึ่งของประเทศไทยและอาเซียนภายในปี 2020 ซึ่งทั้งสองแบรนด์ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคและมีภาพรวมความสำเร็จเป็นที่น่าพึงพอใจ
ในปีที่ผ่านมา “ช้าง” ได้สานต่อความสำเร็จ โดยได้รุกเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์ผ่านการเน้นสร้างประสบการณ์ตรงให้กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นกลุ่มมิลเลนเนียล ผ่านการจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อสร้างสีสัน และสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์อย่างต่อเนื่อง อาทิ การเปิดพื้นที่แห่งความสุขส่งท้ายปีกับ ‘ช้าง เซ็นซอรี่ เทรลส์’ (Chang Sensory Trails) ที่จัดขึ้นกว่า 40 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ด้วยการครีเอท ‘ช้าง ลิมิเต็ด เอดิชั่น’ บรรจุภัณฑ์ดีไซน์พิเศษต้อนรับเทศกาลปลายปี ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ขนาด 1.5 ลิตร (Champagne Bottle) ที่มีรูปทรงพรีเมี่ยม พร้อมเพิ่มความพิเศษด้วยการจับมือกับศิลปินระดับโลกอย่าง มร.สตีเวน วิลสัน ที่มาออกแบบบรรจุภัณฑ์ดีไซน์พิเศษภายใต้แรงบันดาลใจ ‘โกลเด้น โมเม้นต์’ ต้อนรับเทศกาลปลายปี ใน 2 รูปแบบ ได้แก่ขวดแก้วชริ้งค์แร็พ (Shrink Wrap) และไอซ์แพ็ค (Ice Pack) นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์สุดล้ำในรูปแบบแพ็ค 6 กระป๋องที่สามารถเติมน้ำแข็งเพื่อแช่เย็นได้ทันที ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มมิลเลนเนียลที่ชื่นชอบการสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และทำให้ภาพรวมของเบียร์ช้างดูแตกต่าง ทันสมัย น่าจับต้องมากขึ้น
สำหรับแบรนด์ “เฟเดอร์บรอย” ได้ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์อย่างเห็นได้ชัดผ่านบรรจุภัณฑ์ และฉลากผลิตภัณฑ์ที่ถูกพัฒนาให้ดูมีความทันสมัย เข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภค เพื่อสร้างความโดดเด่นในระดับพรีเมี่ยม สไตล์เบียร์เยอรมัน ตอบไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าที่เสริมสร้างภาพลักษณ์และมีรสชาติที่แตกต่าง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการตลาดที่น่าสนใจ อาทิ เฟเดอร์บรอย เรด เฟเธอร์ คลับ (Federbräu Red Feather Club) ที่มอบประสบการณ์เอ้าท์ดอร์ป๊อบอัพคลับสุดพรีเมี่ยม เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบประสบการณ์อาหารและเครื่องดื่มในสไตล์เยอรมัน ทำให้ “เฟเดอร์บรอย” สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในระดับพรีเมี่ยมโดยตรง ทั้งนี้ “เฟเดอร์บรอย” ได้กระจายสู่ช่องทางจำหน่ายต่างๆ ทั่วประเทศตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ปี 2560 และวางจำหน่ายในต่างประเทศโดยเน้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดหลัก ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี จะเห็นได้จากยอดขายที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด กว่า 338% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ล่าสุดทั้งสองแบรนด์ยังสามารถคว้ารางวัลจากเวทีการประกวดเบียร์ระดับโลก ในส่วนของเบียร์ช้างได้คว้ารางวัลชนะเลิศของประเทศไทย จากเวที World Beer Awards 2017 ในการแข่งขันประเภทเบียร์ลาเกอร์ (Lager Beer) ภายใต้สไตล์การผลิตเบียร์แบบ Helles / Münchner สำหรับแบรนด์เฟเดอร์บรอย สามารถคว้ารางวัลประเภทเบียร์ลาเกอร์ (Lager Beer) สไตล์ German Style Pale Ale จากเวที World Beer Awards 2017 และยังได้รับรางวัลการออกแบบบรรจุภัณฑ์จาก The International Beer Challenge ในปีที่ผ่านมาอีกด้วย
ซึ่งนับเป็นการตอกย้ำคุณภาพ รสชาติและดีไซน์บรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล “ทั้งสองแบรนด์มีภาพรวมความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ทั้งจากการได้รับรางวัลจากเวทีประกวดเบียร์ระดับโลก การันตีถึงคุณภาพที่ได้รับการยอมรับ และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค จะเห็นได้จาก 2 เดือนที่ผ่านมามียอดขายเพิ่มขึ้นติดต่อกัน นอกจากนี้ในส่วนของเบียร์ช้างยังคงสามารถครองความเป็นอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค (Top of mind) ถึงสองปีซ้อน จากผลสำรวจของ IPSOS บริษัทวิจัยชั้นนำระดับโลกอีกด้วย ทั้งนี้ สำหรับทิศทางในการดำเนินธุรกิจปี 2561 เราจะยังคงมีการรุกตลาดด้วยกิจกรรมการตลาดต่างๆ ที่จะช่วยสร้างสีสันและเซอร์ไพรส์ผู้บริโภค พร้อมเสริมแกร่งและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราเชื่อว่าแนวทางในการดำเนินธุรกิจต่างๆ จะช่วยให้เราครองความเป็นที่หนึ่งในใจผู้บริโภคได้ต่อไป พร้อมช่วยผลักดันยอดขายให้ขึ้นเป็นเบียร์อันดับหนึ่งในตลาด ภายในปี 2563 ตามวิสัยทัศน์ 2020 ทั้งนี้ภาพรวมตลาดในประเทศไทยช่วงปีนี้ คาดว่าจะมีความคึกคักยิ่งขึ้นทั้งจากบรรยากาศในช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง และกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัว นอกจากนี้ยังเป็นผลจากการแข่งขันในตลาด ที่ผู้ประกอบการต่างออกมาจัดกิจกรรมและแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาด ซึ่งช่วยกระตุ้นการจับจ่ายในกลุ่มผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี” เอ็ดมอนด์ กล่าวสรุป