วัตสัน ประเทศไทย เผยวิสัยทัศน์ ประจำปี 2561ผสาน ออฟไลน์-ออนไลน์ เป็นหนึ่ง พร้อมโฟกัสตลาดผู้บริโภคยุคใหม่
15 May 2018


         วัตสัน ประเทศไทย ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย จัดงานแถลงวิสัยทัศน์ ประจำปี 2561 ขึ้น โดยภายในงานนี้มีหลายประเด็นธุรกิจที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการตั้งเป้าหมายทางธุรกิจ ที่วัตสันปรารถนาจะเชื่อมต่อการช้อปปิ้งระหว่างออฟไลน์กับออนไลน์เข้ากันอย่างอย่างไร้รอยต่อ (Seamless) ซึ่งวัตสันมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ความแข็งแกร่งในด้านร้านค้าสาขา ศักยภาพในด้านดิจิทัล และการเติบโตของดิจิทัลแพลตฟอร์มของวัตสันเอง คือสามส่วนผสมที่ลงตัวที่จะตอบสนองต่อความคาดหวังจากลูกค้าได้เป็นอย่างดีในโลกของการค้าปลีกยุคใหม่ โดยเน้นกลยุทธ์แบบ O+O หรือ Offline+Online ไม่มีสะดุดทุกการช้อปปิ้ง จะไม่มีการแยกหน้าร้านหรือหน้าแอพออกจากกันอีกต่อไป โดยนำข้อดีของทั้งสองรูปแบบมาผสานกันเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการช้อปปิ้งให้กับลูกค้า ในปีนี้วัตสันจึงยังให้ความสำคัญต่อการลงทุนทั้งในส่วนของสโตร์ควบคู่ไปกับออนไลน์สโตร์อย่างต่อเนื่อง


         ร็อด เร้าท์ลี่ย์ กรรมการผู้จัดการ ภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า “การหลอมรวมรูปแบบการช้อปปิ้งในสโตร์และออนไลน์สโตร์เข้าด้วยกันเป็นวิสัยทัศน์ของวัตสัน เพื่อมุ่งสร้างประสบการณ์ที่แสนพิเศษและน่าตื่นเต้นให้กับลูกค้า” การขยายสาขาอย่างรวดเร็วนั้นก็เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคในทุกพื้นที่ทั่วไทย ความแข็งแกร่งของแบรนด์วัตสันที่ผู้บริโภครับรู้ได้ถึงความมีนวัตกรรม มีความน่าเชื่อถือจากมาตรฐานของคุณภาพสินค้าที่จัดจำหน่าย และความหลากหลายของสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามที่มีให้เลือกไม่รู้จบ ตลอดจนวิสัยทัศน์เรื่อง O+O เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้วัตสันประสบความสำเร็จในรูปแบบ    ‘การช้อปปิ้งไร้รอยต่อ’ ที่จะนำพาความสะดวกสบายในการจับจ่ายมาสู่ผู้บริโภคไทยได้ทุกที่ทุกเวลา


         หลังการเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบ ในปี 2560 วัตสันออนไลน์ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยมียอดการจำหน่ายเติบโตสูงขึ้นถึง 3 เท่า ภายในระยะเวลา 12 เดือน และยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการวางรูปแบบออนไลน์สโตร์ให้สอดรับกับสโตร์ได้อย่างลงตัว โดยนำเสนอสินค้าที่หลากหลาย มีสินค้าพิเศษเฉพาะออนไลน์ และโปรโมชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน ผนวกกับข้อดีที่สามารถช้อปได้ทุกที่ทุกเวลาและการชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง ซึ่งวัตสันมั่นใจว่าแพลตฟอร์มออนไลน์จะเดินหน้าเติบโตขึ้นไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดในการฉลองครบรอบ 3 ปี วัตสันออนไลน์ ไปเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม หรือวันที่ห้าเดือนห้า มีการทำแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างและดึงดูดผู้บริโภคหน้าใหม่เข้าสู่แพลตฟอร์ม โดยมีหัวใจหลักอยู่ที่ความน่าเชื่อถือและความหลากหลายของสินค้าที่นำเสนอ สร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกการจับจ่ายที่วัตสัน เมื่อพิจารณาในฝั่งของลูกค้า จะพบว่าการที่มีทั้งสโตร์และออนไลน์สโตร์สามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายกว่าการมีช่องทางการขายอย่างใดอย่างหนึ่ง


         ในด้านสโตร์วัตสัน หลังจากการเปิด 50 สาขาใหม่ได้ตามเป้าในปี 2560 วัตสันมีแผนเปิดอีก 50 สาขาในปีนี้ โดยเมื่อถึงสิ้นปี 2561 วัตสันจะมีสาขารวมทั้งสิ้น 515 สาขา กระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศ ทั้งในปีนี้วัตสันยังมีการปล่อยรูปแบบร้าน (Store Format) คอนเส็ปต์ใหม่ออกมา โดยมีการนำร่องสาขาแรกไปแล้วที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ร้านคอนเส็ปต์ใหม่นี้เป็นรูปแบบที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเอาใจผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการประสบการณ์การช้อปปิ้งอันน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น ด้วยบรรยากาศที่สนุก การจัดแบ่งหมวดหมู่และจัดเรียงสินค้าที่ปรับปรุงให้ดีขึ้น วิธีใหม่ๆ ในนำเสนอแบรนด์ผลิตภัณฑ์ การจัดแสงสว่าง การนำอุปกรณ์ดิจิทัลเข้ามาผสมสผสานอย่างเห็นได้ชัดในร้านรูปแบบใหม่นี้


         “เราตั้งเป้าขยายร้านวัตสันในคอนเส็ปต์ใหม่นี้ ด้วยการปรับรุงสาขาเดิมประมาณ 75 สาขาภายในปีนี้ ควบคู่ไปกับการพัฒนาในด้านดิจิทัลแพลตฟอร์มและอีคอมเมิร์สให้ดียิ่งขึ้น โดยในปีนี้เราจะมีการลงทุนในธุรกิจเพิ่มด้วยงบประมาณรวมทั้งสิ้น 600 ล้านบาท แม้การช้อปปิ้งออนไลน์จะเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้มีผลต่อการเปิดสาขาใหม่ เนื่องด้วยในภาพรวมตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามของประเทศไทยยังขยายตัวได้ดี และเราเองเห็นว่าการช้อปปิ้งที่หน้าร้านยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตอบสนองต่อผู้บริโภคไทย” ร็อด เร้าท์ลี่ย์ กล่าวเสริม

 

          ขณะที่โปรแกรมสมาชิกวัตสันก็ยังคงเดินหน้าคว้าความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมียอดสมาชิกมากกว่า 4 ล้านคน ที่ใกล้ชิดกับแบรนด์ยิ่งขึ้น ด้วยช่องทางการสื่อสารที่เข้าถึง การมอบโปรโมชั่นที่พิเศษกว่าลูกค้าทั่วไป ตลอดจนการทำกิจกรรมพิเศษเพื่อสมาชิกโดยเฉพาะ ล่าสุดวัตสันได้ปล่อยบัตรสมาชิกระดับอีลีท (Watsons Elite Card) ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการตอบแทนแก่สมาชิกที่ผูกพันธ์กับวัตสันอย่างแนบแน่น มีการใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอ และเพื่อเป็นการดูแลลูกค้าระดับคุณภาพเหล่านี้ให้ดียิ่งขึ้น ทางวัตสันจึงเพิ่มสิทธิพิเศษสุดตื่นตา ที่ยกระดับขึ้นจากบัตรสมาชิกปกติให้กับสมาชิกระดับอีลีท 


         การเชื่อมต่อด้วยโซเชียลมีเดีย ยังคงเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ด้านลูกค้าของวัตสัน ด้วยยอดแฟนเพจในเฟสบุ๊ก 2.3 ล้านยูสเซอร์ และเกือบ 4 ล้านยูสเซอร์ ในไลน์เฟรนด์ การผสมผสานโซเชียลมีเดียที่หลากหลาย เป็นวิธีการที่วัตสันเชื่อมั่นว่าจะเพิ่มฐานสมาชิกให้เติบโตยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการสื่อสารระหว่างกันอีกด้วย


         ในส่วนสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือสินค้าตราวัตสัน (Watsons Own Brand) โดยในปี 2561 นี้ วัตสันมีแผนนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากหลากหลายประเทศ อาทิ เกาหลี ญี่ปุ่น อีกราว 150 SKU จากในปัจจุบันที่มีอยู่ 770 SKU โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา วัตสันประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในกลุ่มผลิตภัณฑ์เดอมาแอคชัน พลัส (Dermaction Plus Brand: DAP) ซึ่งเป็นกลุ่มเวชสำอาง โดยเฉพาะการส่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ Dermaction Plus by Watsons Alive Plankton และ Dermaction Plus by Watsons Advanced Sun ออกสู่ตลาด ตามด้วย Dermaction Cleansing Water ในปีนี้


         เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 22 ปี ของวัตสันในประเทศไทย ในปี 2561 นี้ วัตสันยังคงขยายการดำเนินงานในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ภายใต้สี่เสาหลักที่มีมาแต่แรกเริ่ม อันได้แก่ สถานที่ทำงาน (Workplace) ตลาดสินค้า (Marketplace) สิ่งแวดล้อม (Environment) และชุมชน (Community) โดยผสานเข้าเป็นเนื้อเดียวกันกับแนวทางการดำเนินธุรกิจในเมืองไทย ให้การช่วยเหลือผู้คนในกลุ่มต่างๆ ผ่านการระดมทุนสนับสนุนหน่วยงานหรือองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ อาทิ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ (บ้านพักฉุกเฉิน) มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มูลนิธิโรคหัวใจเด็ก ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นต้น ทั้งยังพยายามสร้างการมีส่วนร่วมจากพนักงาน คู่ค้า และลูกค้า อีกด้วย


         “เรากำลังมุ่งสู่ปีแห่งการลงทุนและการเติบโตอย่างมหาศาลของตลาดประเทศไทย เราตื่นเต้นกับโอกาสที่จะได้มอบการบริการที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้า ผ่านประสบการณ์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์แบบไร้รอยต่อ และเรายังคงเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตต่อยอดของตลาดผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพในประเทศไทย” ร็อด กล่าวทิ้งท้าย

[อ่าน 2,101]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศุภาลัย ผนึก ทีโอเอ ปั้นนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียว ผุดโปรเจกต์ยักษ์ ‘ฝ้ายิปซัม & สีรักษ์โลก’
KFC Thailand ครบรอบ 40 ปี เปิดตัว “แบมแบม กันต์พิมุกต์” 
Friend of KFC คนแรกของประเทศไทย
CMG ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ส่งแบรนด์ FitFlop ลุยตลาดเวียดนาม ปลื้มได้สิทธิ์ผู้แทนจำหน่ายเพียงรายเดียว
‘วิถี 8’ กุญแจสำคัญสร้าง ‘ผู้นำที่ใช่’ พิชิตความท้าทายในโลกธุรกิจยุคใหม่
ALLY ผนึก Mural ลงทุนซื้อหุ้นสมาคมมวยปล้ำสเปน
ไอคอนสยาม จับมือมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดแสดงผลงานนักศึกษา Prismatic
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved