อาลีบาบา กรุ๊ป ยอดทะลุ 1.207 แสนล้านหยวน ในมหกรรม “11.11 โกลบอล ช้อปปิ้ง เฟสติวัล”
16 Nov 2016

          อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด (NYSE: BABA) เผยว่าบริษัทสามารถทำยอดซื้อขายสินค้ารวมมูลค่ากว่า 1.207 แสนล้านหยวน (1.78 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) ผ่านทางช่องทางค้าปลีกของบริษัทสำหรับลูกค้าในประเทศจีนและทั่วโลก และระบบชำระเงินออนไลน์ อาลีเพย์ ในมหกรรม “11.11 โกลบอล ช้อปปิ้ง เฟสติวัล” เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยจากยอดซื้อขายสินค้ารวมทั้งหมดนี้ มียอดซื้อขายผ่านอาลีเพย์บนอุปกรณ์พกพาคิดเป็นอัตราส่วนถึงร้อยละ 82

 
          “มหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ในปีนี้ ถือเป็นการเผยโฉมอนาคตของวงการค้าปลีกในยุคหน้า ที่จะผสมผสานทั้งความบันเทิง การค้าขาย และการโต้ตอบกับผู้บริโภคในรูปแบบใหม่ๆ ให้เกิดเป็นประสบการณ์ที่หลากหลายอย่างลงตัว” นายแดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว “ตลอดในทุกช่วงของการจัดงาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมช่วงก่อนเริ่มงาน งานกาล่านับถอยหลัง หรือตัวงานมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 24 ชั่วโมงนี้ เราพบว่ามีการติดต่อสื่อสารและโต้ตอบกันระหว่างผู้บริโภคและผู้ขายสินค้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มหกรรม 11.11 เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงอนาคตในยุคที่ธุรกิจค้าปลีกในโลกออนไลน์และออฟไลน์จะพลิกโฉมจนเกิดเป็นประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ สำหรับลูกค้าหลายร้อยล้านคนที่คุ้นเคยและสนใจในเทคโนโลยีโมบายและดิจิทัล”
 
          ในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงก่อนการเปิดฉากมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 อย่างเป็นทางการ ณ เวลาเที่ยงคืนวันที่ 11 พฤศจิกายน อาลีบาบา กรุ๊ป ได้ทำการถ่ายทอดสดงานกาล่านับถอยหลังให้ผู้ชมนับล้านได้ติดตามผ่านทางช่องทางออนไลน์และสมาร์ทโฟน ด้วยแอพ Youku Tudou, Tmall และ Taobao ทั้งยังมีการถ่ายทอดสดให้ชมกันทั่วประเทศจีนทางสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเจ้อเจียง ควบคู่ไปกับการแพร่ภาพสดในฮ่องกงและมาเก๊าเป็นครั้งแรก สำหรับงานกาล่านับถอยหลังนี้ จัดขึ้นที่ศูนย์กีฬาเซินเจิ้น ยูนิเวอร์ซิเอด ในเมืองเซินเจิ้น ทางตอนใต้ของประเทศจีน โดยมีแขกรับเชิญระดับซูเปอร์สตาร์จากทั่วโลกเข้าร่วมงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เดวิด-วิคตอเรีย เบ็คแฮม  สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน  โคบี ไบรอันท์ และโธมัส มุลเลอร์ เป็นต้น
 

          “ในปีนี้ เราได้สร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ชมที่ติดตามการถ่ายทอดสดงานกาล่านับถอยหลังของเรา โดยผู้ชมทุกท่านจะสามารถมีส่วนร่วมกับการแสดงบนเวทีได้แบบสดๆ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ” คริส ถัง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวเสริม “ผู้บริโภคที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่หน้าจอโทรทัศน์สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงได้ด้วยการเขย่าหรือจิ้มหน้าจอโทรศัพท์ ทั้งยังสามารถสแกนรหัสโปรโมชั่น พูดคุยกับผู้ชมท่านอื่น หรือเลือกซื้อสินค้าได้โดยตรง จนเกิดเป็นประสบการณ์ความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน”
 

          หลังจากที่เปิดฉากมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ไปได้เพียง 5 นาที ยอดซื้อขายสินค้าที่ชำระเงินผ่านทางอาลีเพย์ได้พุ่งสูงขึ้นเกินกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (6.8 พันล้านหยวน) ก่อนที่จะทะยานไปแตะระดับ 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (3.53 หมื่นล้านหยวน) ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง

 
          “ผู้บริโภคชาวจีนได้สั่งซื้อสินค้าในช่วง 1 ชั่วโมงแรกของมหกรรม 11.11 ในปีนี้ คิดเป็นมูลค่ามากกว่ายอดการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงในมหกรรม 11.11 ปี 2556 เสียอีก การเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการที่น่าทึ่งของมหกรรมช้อปปิ้งของเรา โดยระดับความสนใจและการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคในครั้งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคชาวจีนได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเน้นย้ำให้เห็นว่าการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของพวกเขา”

 


 

ไฮไลท์สำคัญจากมหกรรม “11.11 โกลบอล ช้อปปิ้ง เฟสติวัล” ประจำปี 2559

          · มูลค่าการซื้อขายที่ชำระเงินผ่านทางอาลีเพย์ สูงกว่า 1.207 แสนล้านหยวน (1.78 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากยอดในปี 2558 ถึงร้อยละ 32

          · มูลค่าการซื้อขายผ่านอุปกรณ์พกพาที่ชำระเงินผ่านอาลีเพย์ สูงถึง 9.9 หมื่นล้านหยวน (1.46 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) หรือคิดเป็นร้อยละ 82 ของยอดการซื้อขายรวมทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าอัตราส่วนร้อยละ 69 ในปีก่อนหน้า

          · อาลีบาบา คลาวด์ ประมวลผลคำสั่งซื้อที่อัตราสูงสุดถึง 175,000 คำสั่งต่อวินาที

          · อาลีเพย์ รองรับการทำธุรกรรมทางการเงินรวมทั้งสิ้นกว่า 1 พันล้านรายการตลอดวัน โดยมีอัตราการประมวลผลสูงสุดที่ 120,000 รายการต่อวินาที

          · ไช่เหนี่ยว เน็ตเวิร์ค ได้รับคำสั่งส่งสินค้ารวมกว่า 657 ล้านรายการ ผ่านทางช่องทางค้าปลีกของอาลีบาบา ทั้งในประเทศจีนและต่างประเทศ
 

          มหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ในปี 2559 นี้ ถือเป็นมหกรรมช้อปปิ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในระดับโลก นับตั้งแต่การถือกำเนิดขึ้นของเทศกาล 11.11 ในปี 2552 จึงทำให้ผู้บริโภคชาวจีนสามารถเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก ทั้งนี้ มีการซื้อขายสินค้าข้ามประเทศครอบคลุมทั้งสิ้นกว่า 235 ประเทศทั่วโลก โดยที่ราวร้อยละ 37% ของฐานลูกค้าทั้งหมดเลือกสั่งซื้อสินค้าจากแบรนด์หรือผู้ขายจากต่างประเทศ
 

          สำหรับประเทศที่มีมูลค่าการขายสินค้าให้ผู้บริโภคจีนสูงสุด ได้แก่ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และเยอรมนี ขณะที่แบรนด์ที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดในแต่ละภูมิภาค มีดังต่อไปนี้ :
 
· แบรนด์จากสหรัฐอเมริกา: แอปเปิล  ไนกี้  นิวบาลานซ์  เพลย์บอย  สเก็ตเชอร์ส

· แบรนด์จากยุโรป: ซีเมนส์  ฟิลิปส์  อาดิดาส  แจ็ค โจนส์  โอนลี่

· แบรนด์จากญี่ปุ่น: ยูนิโคล่  พานาโซนิค  ชาร์ป  โซนี่  เอสเค-ทู

· แบรนด์จากออสเตรเลีย / นิวซีแลนด์: ยีนส์เวสท์  อักก์  สวิสส์  แมคโคร  แบล็คมอร์ส

[อ่าน 1,083]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ซูเปอร์สปอร์ต X อาดิดาส จัดงานวิ่งกลางกรุง 'Supersports 10 Mile Run Series 2024 Bangkok Presented by adidas'
ทรู คอร์ปอเรชั่นชวนเที่ยวใต้แล “เกาะลับ สัญญาณล้ำ” เมืองสุราษฎร์ฯ สวยจังฮู้
มาสด้าเผยเทคโนโลยีแห่งอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าพลังโรตารี่ Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV
นีเวีย ซัน จับมือ วัตสัน “เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย”
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ปลื้ม “โครงการมิวนีค เจริญกรุง” ยอดขายปังทะลุ 1,000 ล้านบาท ภายใน 1 วัน
HARLEY-DAVIDSON® เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2024 ชูไฮไลท์รุ่น CVO™ Road Glide™ ST
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved