‘เอสซีจี’ เดินหน้าลงทุนในอาเซียน
14 Jul 2016

ผ่านไปแล้วกับไตรมาสแรกของปี 2559 สำหรับผลประกอบการบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี ซึ่งนับว่าเริ่มต้นดีตั้งแต่ต้นปี ด้วยรายได้จากการขาย 109,998 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสที่ผ่านมา พร้อมกำไรกว่า 13,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา


รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เผยว่า “สำหรับรายได้ที่เติบโตขึ้นมานั้น เนื่องจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจเคมีภัณฑ์ ซึ่งมีรายได้จากการขายในไตรมาส 1 อยู่ที่ 47,810 ล้านบาท กำไร 9,111 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 85% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ด้วยผลประกอบการธุรกิจร่วมที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง และธุรกิจแพคเกจจิ้ง ที่มีรายได้จากการขาย 18,847 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีกำไรกว่า 1,255 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 43% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากการบริหารจัดการต้นทุนและผลประกอบการที่ดีขึ้นของกลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์” 


ในทางกลับกัน ธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กลับมีผลประกอบการที่ลดลง ในไตรมาสที่ 1 เนื่องจากค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้น และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในทุกตลาด มีรายได้จากการขาย 45,880 ล้านบาท ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไร 3,290 ล้านบาท ลดลง 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  


สำหรับแนวโน้มการใช้ปูนซีเมนต์ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เชาวลิต เอกบุตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การเงินและการลงทุน เอสซีจี ให้ความเห็นว่า “ตลาดซีเมนต์เราแบ่งเป็น 3 เซกเมนต์ หนึ่งก็คือที่อยู่อาศัย 50% การใช้ซีเมนต์ในภาครัฐ 30% และอาคารพาณิชย์ 20% เซกเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดคือที่อยู่อาศัย ไตรมาสแรก ติดลบ 2% สะท้อนเรื่องของกำลังซื้อ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค อีกเซกเมนต์คือ อาคารพาณิชย์ ไตรมาสแรก โต 0% หรือเท่ากับปีที่ผ่านมา ส่วนซีเมนต์ในภาครัฐ เป็นเซกเมนต์เดียวที่มีการเติบโตสูงมาก เนื่องจาก ปัจจุบัน รัฐบาลพยายามเร่งรัดการพัฒนาต่างๆ การใช้จ่ายงบประมาณในภูมิภาค กระจายงบประมาณไปในท้องถิ่น ทำให้มีการใช้ซีเมนต์เพิ่มขึ้น ทั้งไตรมาสเติบโตอยู่ที่ 20% ซึ่งถือเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูง”


ในส่วนของการคาดการณ์การใช้ซีเมนต์ทั้งปี 2559 เชาวลิต กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราเชื่อว่า การเติบโตของซีเมนต์ปีนี้จะอยู่ที่ 3-5% ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการดำเนินโครงการใหญ่ๆ ของทางภาครัฐด้วย ถ้าออกมาตามที่คาดหมายก็มีโอกาสกระตุ้นการใช้ซีเมนต์และกระตุ้นความเชื่อมั่นของภาคเอกชนให้เพิ่มขึ้น แต่ถ้าไม่สามารถออกมาได้เต็มที่อย่างที่คาด ก็อาจจะมีการเติบโตต่ำกว่าที่ประมาณการณ์ไว้”  


ทั้งนี้ ธุรกิจของเอสซีจีในอาเซียนไตรมาสที่ 1 มีรายได้จากธุรกิจที่มีฐานการผลิตและส่งออกในอาเซียน 24,396 ล้านบาท หรือ 23% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน แบ่งเป็น รายได้จากธุรกิจที่มีฐานการผลิตในอาเซียน 12,586 ล้านบาท หรือ 12% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 21% จากปีที่ผ่านมา และ รายได้จากการส่งออกในอาเซียน 11,810 ล้านบาท หรือ 11% ของรายได้รวม ลดลง 14% จากปีก่อน โดยเอสซีจีมีทรัพย์สินรวมในอาเซียน นอกเหนือจากประเทศไทยมูลค่ากว่า 110,491 ล้านบาท หรือประมาณ 21% ของทรัพย์สินรวมของบริษัท ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 520,603 ล้านบาท ( ณ วันที่ 3 มีนาคม 2559)


“ด้านการลงทุนในอาเซียนมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีความคืบหน้าตามแผน โรงงานปูนซีเมนต์ในอินโดนีเซียและกัมพูชา เริ่มผลิตสินค้าแล้ว ส่วนในประเทศเมียนมา และ สปป.ลาว คาดว่าจะเริ่มเดินสายการผลิตได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2559 และกลางปี 2560 ตามลำดับ ซึ่งโครงการลงทุนเหล่านี้ ถือเป็นส่วนสำคัญในการขยายตัวของเอสซีจีในอาเซียน ทั้งนี้ เอสซีจียังคงขยายการลงทุน โดยให้ความสำคัญในการหาพันธมิตรที่ดำเนินธุรกิจเดิมอยู่แล้ว เพื่อพัฒนาธุรกิจให้เจริญเติบโตร่วมกันต่อไป” รุ่งโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย 


สำหรับอัตราการเติบโตของตลาดซีเมนต์ในประเทศเพื่อนบ้าน ไตรมาสที่ 1 กัมพูชา มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องกว่า 15% เวียดนามโตขึ้น 9% เมียนมาโต 10-11% และอินโดนีเซียโต 3% ซึ่งถือว่าดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ติดลบอยู่ 3% 

FYI

ในส่วนของสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) ในไตรมาสแรก เอสซีจีมียอดขายกว่า 42,262 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน คิดเป็น 39% ของยอดขายรวม โดยใช้งบประมาณงานวิจัยและพัฒนากว่า 900 ล้านบาท คิดเป็น 0.8% ของยอดขายรวม ซึ่งปีนี้เอสซีจีได้ตั้งงบประมาณสำหรับการวิจัยไว้ที่ 1% ของยอดขายรวม

 

[อ่าน 1,462]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศุภาลัย ผนึก ทีโอเอ ปั้นนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียว ผุดโปรเจกต์ยักษ์ ‘ฝ้ายิปซัม & สีรักษ์โลก’
KFC Thailand ครบรอบ 40 ปี เปิดตัว “แบมแบม กันต์พิมุกต์” 
Friend of KFC คนแรกของประเทศไทย
CMG ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ส่งแบรนด์ FitFlop ลุยตลาดเวียดนาม ปลื้มได้สิทธิ์ผู้แทนจำหน่ายเพียงรายเดียว
‘วิถี 8’ กุญแจสำคัญสร้าง ‘ผู้นำที่ใช่’ พิชิตความท้าทายในโลกธุรกิจยุคใหม่
ALLY ผนึก Mural ลงทุนซื้อหุ้นสมาคมมวยปล้ำสเปน
ไอคอนสยาม จับมือมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดแสดงผลงานนักศึกษา Prismatic
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved