ลาซาด้ากางแผนกลยุทธ์ส่งเสริม SMEs ไทยทั้งระบบสู่ซูเปอร์ อี-บิสิเนส หรือสุดยอดธุรกิจออนไลน์ ด้วย “ซูเปอร์-โซลูชั่นส์” โดยในงาน Lazada Mega Seller Conference 2019 ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจัดติวเข้มมอบความรู้แก่สุดยอดนักขายออนไลน์กว่า 2,000 ราย เตรียมพร้อมปั๊มยอดรับหลายแคมเปญสำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี
แจ็ค จาง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ลาซาด้า เล็งเห็นความสำคัญของ SME อันเป็นภาคธุรกิจที่มีความสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม โดยในปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SME ในประเทศไทยเป็นจำนวนกว่า 5,253,295 ราย
ทั้งนี้ หนึ่งในพันธกิจหลักของลาซาด้าคือการนำเสนอโอกาสที่เท่าเทียม เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ SMEs เพราะเชื่อว่าไม่มีแบรนด์ใดใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไปสำหรับการประสบความสำเร็จในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จึงต้องการส่งมอบความรู้และส่งต่อเครื่องมือสำคัญอย่าง “ซูเปอร์ โซลูชั่นส์” (Super-Solutions) เพื่อทำให้ผู้ประกอบการได้เติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับภาพรวมธุรกิจของลาซาด้าในระดับภูมิภาคตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2562 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่า มีจำนวนผู้ใช้บริการ (Buyers) เพิ่มขึ้นถึง 105% ส่วนกลุ่มผู้ขาย (Sellers) พบว่ามีการเติบโตขึ้นกว่า 90%
โดยในการส่งเสริมผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์มในช่วงสี่เดือนสุดท้ายของปี ลาซาด้าจะเน้นกลยุทธ์หลักใน 3 ด้าน
สำหรับแคมเปญสำคัญที่ลาซาด้าเตรียมไว้สำหรับกระตุ้นการสร้างยอดขายให้กับผู้ประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง อาทิ 9.9, 11.11 และ 12.12 ซึ่งถือเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของผู้ประกอบการในช่วงส่งท้ายปี ขณะเดียวกันยังมีแคมเปญ Payday ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ สิ้นเดือน และแคมเปญที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมายอย่าง Women's Festival ในเดือนตุลาคม แคมเปญ Momday Monday และ Trendy Tuesday เป็นต้น
ทั้งนี้ ลาซาด้าพบว่า การจัดแคมเปญเหล่านี้จะทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันที่สูงกว่าช่วงเวลาปกติ ทำให้เกิดการช้อปปิ้งในสินค้าหลากหลายประเภท อีกทั้งยังสร้างการสื่อสารระหว่างผู้ขายและลูกค้าได้มากขึ้น และกระตุ้นการเพิ่มจำนวนลูกค้าให้เกิดการติดตามร้านค้า
นอกจากแคมเปญที่ลาซาด้าเตรียมไว้นั้น ลาซาด้า ยังนำเสนอ “6 กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของผู้ประกอบการออนไลน์”
นอกเหนือจากการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs รายย่อยแล้ว อีกหนึ่งโครงการสำคัญที่ลาซาด้าเน้นย้ำคือการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อสนับสนุนการการสร้างรายได้ให้กับชุมชนทั่วประเทศโดยใช้ธุรกิจออนไลน์เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนในท้องถิ่น
โดยลาซาด้าได้ร่วมกับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ยกระดับผู้ประกอบการรากหญ้า และผลักดันสินค้าชุมชนเข้าสู่การค้าออนไลน์ ผ่านโครงการสมาร์ท วิลเลจ ออนไลน์ (Smart Village Online)
โครงการดังกล่าวนี้ ได้นำโมเดลจากชุมชนเถาเป่าจากประเทศจีนมาเป็นต้นแบบในการสร้างงานและส่งเสริมรายได้ผ่านอีคอมเมิร์ซ โดยได้ทำการคัดเลือก 5 ชุมชนที่มีความพร้อม ได้แก่ ชุมชนนาข่า จังหวัดอุดรธานี, ชุมชนด่านเกวียน จังหวัดนครราชสีมา, ชุมชนแม่พระประจักษ์ จังหวัดสุพรรณบุรี, ชุมชนควนขนุน จังหวัดพัทลุง และชุมชนใบชา จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นชุมชนที่มีสินค้าแสดงถึงอัตลักษณ์ของท้องถิ่น เป็นชุมชนเข้มแข็ง มีทักษะของการเป็นผู้ประกอบการ
ด้าน สุพัชเชษฐ์ เภาวะนิต รองประธานอาวุโสฝ่ายบริหารและพัฒนาธุรกิจผู้ประกอบการ บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ลาซาด้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับภาครัฐ ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลตลอดจนการร่วมพัฒนาระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยให้เติบโต
ทั้งนี้ ในฐานะที่ลาซาด้านั้น เป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่สำคัญของอาลีบาบาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสามารถนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านอีคอมเมิร์ซมาช่วยส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมในประเทศไทยได้”
สำหรับโครงการสมาร์ท วิลเลจ ออนไลน์ ได้เริ่มดำเนินการแล้วกับชุมชนนาข่าเป็นแห่งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ ลาซาด้าได้ลงพื้นที่สำรวจ สื่อสารกับชุมชนเป้าหมาย จัดกิจกรรมเวิร์คช้อป มีการทำโปรโมชั่นผ่านแอปพลิเคชัน จัดงานแสดงสินค้าชุมชนที่ผ่านการพัฒนาด้านดิจิทัลแล้วอย่าง “ผ้านาข่าชุมชนอัจฉริยะออนไลน์” และจากนี้จะเป็นการลงพื้นที่จัดกิจกรรมเวิร์คช้อปกับชุมชนที่เหลืออย่างต่อเนื่องในปีนี้