ดีแทค เน็ตทำกิน จับมือ ดีป้า มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย และ ยังแฮปปี้ (YoungHappy) เปิดโครงการ 'เน็ตทำกิน' ในภารกิจปั้นผู้ประกอบการวัยเก๋า 50+ เล็งยกระดับทักษะดิจิทัลให้ผู้สูงวัยอาศัยลำพังรุ่นแรก 250 คนให้พึ่งพาตนเองได้

ด้วยว่า 2564 ถือเป็นปีที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ Aged Society หรือ 'สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์' นั่นคือการที่มีคนอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% ของประชากรทั้งประเทศ และคาดการณ์ว่า ประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่ 'สังคมสูงอายุระดับสุดยอด' (Super- Aged Society) ในปี 2574 การจะขับเคลื่อนให้ประชากรอาวุโสเหล่านี้เป็นผู้ขับเคลื่อน "เศรษฐกิจสูงวัย" หรือSilver Economy จึงต้องติดอาวุธให้เหมาะสมกับยุคสมัยด้วย DigitalLiteracy หรือความรู้ความเข้าใจในการใช้ดิจิทัล และความพร้อมในการเป็นผู้ประกอบการ เพื่อที่จะทำให้คนเหล่านี้สามารถพึ่งพาตนเองได้ เป็นคนสูงวัยที่มีศักยภาพ และสามารถใช้ศักยภาพของตนเองที่มีเป็นทุนเดิมให้เกิดประโยชน์

ทั้งนี้ ชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค กล่าวถึงสังคมสูงวัยในภาพรวมว่า เมกะเทรนด์หนึ่งของโลกในศตวรรษที่ 21 ที่ต้องยอมรับคือ ในปี 2593 โลกกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย โดยเฉพาะจากการคาดการณ์ขององค์การสหประชาชาติที่ว่า ประชากรผู้สูงวัยโลกที่มีอายุกว่า 65 ปีขึ้นไปจะมีจำนวนกว่า 1,500 ล้านคน ขณะที่สัดส่วนผู้สูงวัยในประเทศไทยปัจจุบันก็สูงถึงประมาณ 20% และจะเพิ่มเป็น 28% ในปี 2576 โดยในอีก 30 ปีข้างหน้าคาดว่าประชากรกลุ่มเกษียณและเตรียมเกษียณสูงถึง 30 ล้านคน ดังนั้น หากผู้สูงวัยไม่สามารถก้าวทันดิจิทัลก็จะประสบปัญหาการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ ธนาคาร และบริการของภาครัฐ นอกจากนี้ คนเหล่านี้ยังต้องพัฒนาทักษะทางด้านดิจิทัล เพื่อเติมเต็มหรือเสริมศักยภาพสำหรับการสร้างรายได้เพิ่ม ดีแทคเน็ตทำกิน จึงมุ่งมั่นที่จะปิดช่องว่างดิจิทัลที่ส่งผลกระทบต่อผู้สูงวัยในประเทศไทย”

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า “เศรษฐกิจผู้สูงวัย ถือเป็น 1 ใน 5 สาขาเศรษฐกิจที่รัฐบาลตั้งเป้าจะพัฒนา โดยอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ให้กับผู้สูงวัย เพื่อให้เป็นผู้สูงวัยที่เข้มแข็งทั้งกาย-ใจ และเพื่อขับเคลื่อนแนวคิดเศรษฐกิจผู้สูงวัยในประเทศที่ปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องราว 5-10% ต่อปี นอกจากนี้ ดีป้า มองว่าการส่งเสริมให้เกิดความคุ้นเคยในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในระดับที่เหมาะสมยังช่วยส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัย ไม่ว่าจะเป็นการลดความเสี่ยงต่ออันตรายจากอุบัติเหตุผ่านเทคโนโลยี IoT การสร้างเกมเพื่อพัฒนาการทำงานของสมองในผู้สูงวัย การติดตามสุขภาวะสุขภาพเชิงดิจิทัล และการเข้าถึงการรักษาแบบออนไลน์”

ดังนั้น เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์เศรษฐกิจผู้สูงวัย ในส่วนของดีแทจึงต้องการเปลี่ยนจากประชากรผู้มีความเปราะบางสู่ประชากรที่มีคุณค่าและมีความหมายต่อสังคมอย่างยั่งยืน โดยได้ออกแบบให้ "โครงการ ดีแทคเน็ตทำกิน" ภารกิจปั้นผู้ประกอบการวัยเก๋า 50+ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาสังคมและเศรษฐกิจดังกล่าว

ทั้งนี้ ชารัด กล่าวว่า “ดีแทคมองว่าดิจิทัลเทคโนโลยีจะเป็นตัวแปรสำคัญ (Key enabler) ที่จะส่งเสริมให้ผู้สูงวัยสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีในบั้นปลายชีวิต ส่งเสริมศักยภาพในการพึ่งพาตนเองของผู้สูงวัย ด้วยโครงการดีแทค เน็ตทำกิน” ในภารกิจปั้นผู้ประกอบการวัยเก๋า 50+ ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก 3 องค์กรพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย และธุรกิจเพื่อสังคมที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาผู้สูงวัย “ยังแฮปปี้” เพื่อสร้างเสริมทักษะและความรู้ในการค้าขายออนไลน์ การแสวงหาโอกาสในการทำธุรกิจดิจิทัล การให้ความรู้เพื่อรับมือกับภัยเสี่ยงบนโลกออนไลน์ให้ผู้สูงวัยด้วย โดยดีแทคจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงร่วมเป็นแอดมินเพจและช่วยแนะนำ แก้ไขปัญหาให้ผู้ประกอบการออนไลน์วัยเก๋าหน้าใหม่จนกว่าจะมีความมั่นใจและสานต่อดูแลธุรกิจออนไลน์ของตัวเองได้"  

ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ดีแทคโดยทีมงานดีแทคเน็ตทำกินจะรับผิดชอบการอบรมการตลาดออนไลน์ ให้บริการพี่เลี้ยงและหาจุดขายให้แก่ผู้สูงวัย ขณะที่ดีป้าให้ความอนุเคราะห์สนับสนุนโครงการและเชื่อมโยงพันธมิตรกับหน่วยงานรัฐอื่นๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยที่มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทยจะทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการและร่วมจัดการอบรมเกี่ยวกับการรับมือกับภายเสี่ยงในโลกออนไลน์ ในส่วนของ ยังแฮปปี้ นั้นจะรับผิดชอบทางด้านการคัดเลือกผู้เข้าอบรม รูปแบบและการบริหารกิจกรรม ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมุ่งเน้นที่กลุ่มผู้สูงวัยที่อาศัยอยู่ลำพัง ต้องการหารายได้เสริม โดยตั้งเป้าอบรมผู้สูงวัยจำนวนทั้งสิ้น 250 คนในระยะแรกนี้

ดร.ศรีดา ตันทะอธิพานิช กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย กล่าวว่า “นอกจากประเด็นการเข้าถึงเทคโนโลยีแล้ว ความรู้ความเข้าใจในการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy) เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญในการส่งเสริมผู้สูงวัยให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ไม่หลงเชื่อข่าวลวง/ข่าวปลอม ไม่ถูกหลอกลวง ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ, Romance Scam หรือการขายยาอาหารเสริมต่างๆ สามารถใช้ดิจิทัลสร้างความสุข ลดช่องว่างระหว่างวัยกับบุตรหลาน รวมถึงสามารถหารายได้ทางการใช้ดิจิทัล สร้างคุณค่าเสริมความแข็งแกร่งในการพึ่งพาตนเอง”

ในวาระที่องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้ปี 2564-2573 เป็นทศวรรษแห่งสูงวัยสุขภาวะดี (Decade of Healthy Ageing) ดีแทคในฐานะองค์กรเอกชนและ corporate citizenship ที่มุ่งนำเทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์สังคมจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนผ่านสังคมสูงวัยยุคดิจิทัลที่แข็งแรงผ่านองค์ความรู้และเทคโนโลยีดิจิทัล การสร้างสังคมดิจิทัลที่ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาส ดีทั่วดีถึง เพื่อชีวิตเท่าเทียม

ธนากร พรหมยศ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยังแฮปปี้ (YoungHappy) กิจการเพื่อสังคมที่มุ่งสร้างคอมมูนิตี้ผู้สูงวัย กล่าวว่า “ยังแฮปปี้ มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ ลดปัญหาทางด้านร่างกายและจิตใจที่เสื่อมถอยตามกาลเวลา ป้องกันโอกาสเสี่ยงในการเป็นผู้สูงวัยติดบ้านและติดเตียง เพื่อขยายช่วงเวลาของการเป็น Active Aging หรือผู้สูงวัยที่ยังคงแอคทีฟออกไปให้มากที่สุด ด้วยคอนเซปต์ ‘สนุก มีคุณค่า และพึ่งพาตัวเองได้’ ด้วย”