ถึงแม้จะบอกว่า YouTube แพลตฟอร์มวิดีโอยักษ์ใหญ่ของโลกเป็นบริการที่เปิดให้พวกเราได้ใช้งาน ‘ฟรี’แต่ข้อมูลล่าสุดนั้นได้มีการเปิดเผยว่า มีผู้คนกว่า 50 ล้านคนทั่วโลกที่ยอม ‘เสียเงิน’ ให้กับบริการที่ฟรีเช่นนี้
50 ล้านคนแล้ว
Google ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ YouTube นั้นได้ออกมาเปิดเผยว่า จำนวนสมาชิก (Subscribers) ของ YouTube Premium และ YouTube Music นั้นมีตัวเลขที่เดินมาถึง 50 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีคนที่ยอมเสียเงินเพิ่มขึ้น 15 ล้านคน เมื่อนับจากเดือนตุลาคมปี 2020 ที่ผ่านมา
ตัวเลขดังกล่าวรวมไปถึงผู้ที่อยู่ในขั้นทดลองใช้ฟรี 1 เดือน โดยที่ YouTube นั้นไม่ขอเปิดเผยว่า มีรายได้จากบริการ Subscribers อยู่ที่เท่าไร ตลอดจนการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อ 1 คนอยู่ที่เท่าไหร่ (บริการ Subscribers นั้นมีทั้งแบบเดี่ยวและครอบครัว) นอกจากนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่า มีลูกค้าที่ทดลองใช้อยู่ที่เท่าไรด้วย
ลีออร์ โคเฮน หัวหน้าฝ่ายดนตรีระดับโลกของ YouTube กล่าวว่า บริการ Subscribers นั้น “เติบโตอย่างน่าประทับใจ” ในเกาหลี อินเดีย ญี่ปุ่น รัสเซีย และบราซิล
ไม่มี ‘โฆษณา’ มากวนใจ
YouTube เปิดตัว YouTube Music ครั้งแรกในปี 2018 ซึ่งมีทั้งแบบฟรี แต่ต้องมีโฆษณา แต่ถ้าไม่ต้องการมีโฆษณาแล้วละก็จะต้องจ่าย $9.99 ต่อเดือน
ขณะที่ YouTube Premium นั้นมีราคา $11.99 ต่อเดือน ซึ่งผู้สมัครใช้งานสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของ YouTube Music ซึ่งนอกจากวิดีโอแบบไม่มีโฆษณาแล้ว ยังมีสามารถดาวน์โหลดวิดีโอเพื่อดูแบบออฟไลน์ และ เล่นขณะล็อกหน้าจอได้ด้วย
Midia Research ได้ยกว่า YouTube เป็นบริการเพลงแบบชำระเงินที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก กระนั้นตัวเลขที่ YouTube มีก็ยังถือว่า ห่างไกลกับคู่แข่งหลักในตลาดอยู่มากโข
ไม่ว่าจะเป็น Spotify ซึ่งไตรมาสล่าสุดรายงานว่า มีสมาชิกประมาณ 165 ล้านคน ขณะที่ Financial Times ประเมินว่า Apple Music มี 78 ล้านคน สาเหตุที่ไม่มีตัวเลขอย่างเป็นทางการของ Apple Music เพราะครั้งล่าสุดที่เจ้าพ่อผลไม้ยอมเผยจำนวนสมาชิกคือปี 2019 โดยบอกว่า มีจำนวนสมาชิกแตะระดับ 60 ล้านคนแล้ว
‘น้อยนิด’ เมื่อเทียบกับผู้ใช้งานรวม
ขณะเดียวกันตัวเลข 50 ล้านคนนั้นถือว่า ‘น้อยนิด’ เมื่อเทียบกับผู้ใช้งานรวมของ YouTube ที่มีตัวเลขกว่า 2,000 ล้านคนทั่วโลก
กระนั้นสื่อยักษ์ใหญ่หลายแห่งก็มองว่า จำนวน Subscribers ไม่ใช่ตัวเลขที่ YouTube ‘แคร์’ มากนัก เพราะรายได้หลักของเจ้าพ่อวิดีโอมาจาก ‘โฆษณา’
ไตรมาสที่ผ่านมารายได้จากโฆษณาของ YouTube เติบโตกว่า 84% เป็นมากกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2.36 แสนล้านบาทด้วยกัน ซึ่งหากวัดเฉพาะโฆษณาเพียงอย่างเดียว YouTube นั้นมีรายได้ที่ใหญ่พอๆ กับ Netflix เลยทีเดียว
แต่สิ่งที่แตกต่างคือ YouTube นั้นมีรายได้ 2 ทางคือ Subscribers และโฆษณา ซึ่งถูกมองว่า เป็นโมเดลที่ถูกต้อง เพราะจะทำให้ไม่ต้องพึ่งรายได้ทางใดทางหนึ่งเพียงอย่างเดียว
คนไทยยอมจ่ายมากขึ้น
หันกลับมาที่ประเทศไทยกันบ้าง แม้ YouTube Thailand จะไม่ขอเปิดเผยว่า ในจำนวน 50 ล้านคนที่ยอม ‘จ่ายเงิน’ นั้น เป็นคนไทยอยู่เท่าไหร่ แต่ ไมค์ จิตติวาณิชย์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด Google ประเทศไทย ก็บอกว่า “คนไทยยอมที่จะจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อ YouTube”
ในทางกลับกัน YouTube Thailand ได้เปิดเผยถึงพฤติกรรมของคนไทยในปี 2021 ที่ผ่านมาซึ่งรับชมวิดีโอบน YouTube มากขึ้นในหลากหลายหมวดหมู่ โดยหมวดที่ชอบเพิ่มมากที่สุดคือ ‘การเงิน’ เพิ่มขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ระหว่างเมษายน 2020 และ เมษายน 2021)
รองลงมาเป็นการรับชมวิดีโอประเภทคาราโอเกะ ที่เพิ่มขึ้นกว่า 70% นอกจากนี้หมวดเกษตรกรรมและออกกำลังกาย ก็มีจำนวนการรับชมที่เพิ่มขึ้นกว่า 50% ด้วยกัน
การรับชมที่เพิ่มขึ้นของคนไทยนั้นส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมที่ต้องอยู่บ้านในระหว่างเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งไม่เพียงแต่การรับชมที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่จำนวนชั่วโมงของคอนเทนต์ที่ถูกอัปโหลดบน YouTube เพิ่มขึ้นมากถึง 80%
ปัจจุบัน บนแพลตฟอร์ม YouTube มีช่องที่มีผู้ติดตามทะลุ 1 ล้านคนรวมกว่า 650 ช่อง และช่องที่มีผู้ติดตามกว่า 1 แสนคนรวมแล้วกว่า 7,000 ช่อง ซึ่งการเติบโตนี้สะท้อนถึงเนื้อหาที่หลากหลายและสร้างสรรค์โดยไม่ได้มีเพียงช่องโทรทัศน์ขนาดใหญ่ต่างๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงบุคคลในวงการโทรทัศน์ โปรดักชันเฮาส์ ค่ายเพลง ศิลปิน และครีเอเตอร์ทั่วประเทศอีกด้วย
บทความจากนิตยสาร MarketPlus Magazine Issue 139 October 2021