บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเดินหน้าขยายแนวรบปี 2023 กับ กลุ่มเทคโนโลยีทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพ (Medical System & Healthcare) ซึ่งเป็นแผนระยะกลางที่มุ่งปูพื้นฐานเสริมความแกร่งให้กับ Sustainable Value Plan (SVP 2030) แผนธุรกิจในระยะยาวของฟูจิฟิล์มระดับโลก ที่ตั้งไว้สำหรับปีงบประมาณ 2030 ด้วยการพัฒนาคิดค้นนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง ภายใต้แคมเปญทั่วโลกของฟูจิฟิล์ม NEVER STOP ผสานกับจุดแข็งหลักของฟูจิฟิล์มที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการแพทย์ เพื่อมุ่งสู่การเป็น No.1 Total Medical Imaging Solution และมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม เพื่อสุขภาวะของโลกที่ดีขึ้น
NEVER STOP
ด้วยแคมเปญทั่วโลกของฟูจิฟิล์ม NEVER STOP ที่สื่อถึงปณิธานขององค์กรแห่งนี้ที่มุ่งพัฒนาคิดค้นนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งต่อเนื่องมาโดยตลอด แม้ฟูจิฟิล์มจะเคยประสบกับวิกฤติทางธุรกิจเมื่อครั้งที่ตลาดฟิล์มหดตัว เนื่องจากกระแสกล้องดิจิทัลเข้ามา Disrupt ธุรกิจ แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่แหลมคมกว่าแบบ Never Stop & Always Foresee จึงทำให้ฟูจิฟิล์มผ่านวิกฤติครั้งนั้นด้วยการนิยามธุรกิจของตนเองใหม่ โดยบูรณาการ 'เทคโนโลยีดิจิทัล' เข้ากับพื้นฐานความแข็งแกร่งของธุรกิจทางด้านการถ่ายภาพ
มร.ยูโตะ คุมาไก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงแผน และยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ว่า
"ฟูจิฟิล์ม มุ่งสร้างธุรกิจด้วยนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และมองไปถึงอนาคตข้างหน้า เพื่อสร้างธุรกิจใหม่เสริมธุรกิจเดิมที่ถดถอย สำหรับวิสัยทัศน์ปี 2023 (Vision 2023) นั้นบริษัทฯ จะมุ่งที่กลุ่มธุรกิจทางด้านการแพทย์ (Medical & Healthcare) ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของบริษัทฯ
พร้อมทั้งสร้างแพลตฟอร์มทางธุรกิจที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อที่จะสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วย 4 กลยุทธ์หลัก ดังนี้
โดยในส่วนของ Fujifilm Healthcare (บริษัทฟูจิฟิล์มควบรวมกับฮิตาชิ) เพื่อผสานเทคโนโลยี AI (ปัญญาประดิษฐ์) เพื่อเสริมทัพทางด้านเครื่องมือแพทย์ ทั้งด้าน MRI และ CT Scan และ อีกกลุ่มธุรกิจ Fujifilm Business Innovation เพื่อยกระดับการดำเนินงานในระดับโลกและทำให้บริการ และโซลูชั่นของธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น"
พร้อมกันนี้ แคมเปญทั่วโลก Never Stop มร.ยูโตะ กล่าวเสริมว่า
"ฟูจิฟิล์มได้จัดเตรียมแผนสื่อสารการตลาดในรูปแบบ Total Communication เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ฟูจิฟิล์มทางด้าน Medical & Healthcare ภายใต้แคมเปญ Never Stop เพื่อถ่ายทอดนวัตกรรมทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์มผ่านสื่อนอกบ้าน (Out of Home Media) ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ บริเวณทางด่วนดินแดง และหนังวีดิโอ Never Stop นวัตกรรมทางการแพทย์ ความยาว 30 วินาที ในโซเชียล มีเดีย และยูทูป เพื่อสื่อถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์ม และไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพ เพื่อสุขภาวะของโลกที่ดีขึ้น และยังเตรียมแผนทำสื่อประชาสัมพันธ์หนังวิดีโอ 120 วินาที และสื่ออื่นๆ ในราวเดือนธันวาคมนี้อีกด้วย”
บุกตลาด Medical & Healthcare
“พันธกิจหลักของฟูจิฟิล์ม ประเทศไทยนั้น นับเป็นการสานต่อแคมเปญ NEVER STOP อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขยายธุรกิจทางด้านการแพทย์ Medical & Healthcare อันเป็นหัวใจหลักของบริษัทฯ ด้วยการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีระดับสูง กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องมือแพทย์ เพื่อช่วยให้การวินิจฉัยโรคที่ชัดเจน และมีประสิทธิภาพแม่นยำมากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสการรักษาผู้ป่วยง่ายขึ้น ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการรักษา ลดภาระ และความเสี่ยงของแพทย์ โดยมุ่งเน้นใน 2 ส่วน คือ ด้านสารสนเทศ (Healthcare IT) และด้านอุปกรณ์การแพทย์ (Medical Equipment) ทั้งนี้ ฟูจิฟิล์ม ได้นำเทคโนโลยี AI มาช่วยให้แพทย์วินิจฉัยและรักษาโรคได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขึ้น”
ปัจจุบันฟูจิฟิล์มผลิตและจัดจำหน่ายเทคโนโลยีทางการแพทย์ต่างๆ มากมาย เช่น เครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลเคลื่อนที่ หรือ Portable Digital X-Ray, กล้องส่องตรวจระบบทางเดินอาหาร Endoscopy, เครื่องอัลตราซาวนด์ Sonosite, เครื่องตรวจเต้านม Mammography, ระบบสารสนเทศทางการแพทย์ PACS-Picture Archiving & Communication System ระบบการส่งรับจัดเก็บรูปภาพทางการแพทย์ (Medical Images) ในรูปแบบดิจิทัล ภายใต้ชื่อ Synapse ตอกย้ำการสร้างแบรนด์ฟูจิฟิล์มให้เป็น No.1 Total Medical Imaging Solution
ขณะที่ ฐาปกรณ์ จิตติเลิศวุฒิ Head of Business Unit, Medical Systems บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมถึงตลาดเครื่องมือทางการแพทย์ ว่า
"ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง แม้ในช่วงปี 2020 ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเติบโตแบบติดลบ 6% อันเป็นผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ มาตรการคัดกรองและการใช้จ่ายของภาครัฐเป็นการใช้เพื่อกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจ และเพื่อเป็นการเยียวยาประชาชน
นอกจากนี้การที่นักท่องเที่ยวยังไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ก็ส่งผลกระทบกับ Medical Tourism ซึ่งทำรายได้ให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก อีกทั้งเป็นตลาดของบริษัทฯ ด้วย ทว่าการเปิดประเทศครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจในภาพรวม และจะส่งผลต่อเนื่องให้ธุรกิจ Medical & Healthcare เติบโตได้ด้วย ที่สำคัญ ปัจจุบันเทรนด์รักษ์สุขภาพในสังคมไทยมีมากขึ้น ทำให้ดีมานด์สินค้าในตลาดนี้เพิ่มขึ้น และฟูจิฟิล์มได้รับความไว้วางใจจากโรงพยาบาลชั้นนำมากกว่า 100 แห่งแล้ว อาทิ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลสนาม ฯลฯ"
จุดขายสำคัญ “AI”
ในฐานะที่เป็นเบอร์ 1 ด้าน Total Medical Imaging Solution ฐาปกรณ์ กล่าวว่า
"ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ทำให้เป็นอุปสรรคกับการดูแลรักษาผู้ป่วย ดังนั้น หลายโรงพยาบาลจึงให้ความสนใจกับเครื่องเอกซเรย์ระบบดิจิทัล (Portable X-Ray FDR Nano with AI) ที่มีขนาดพกพาได้ และใช้เทคโนโลยี AI ภายใต้ชื่อ REiLI (ไลลิ) เพื่อตรวจภาพรังสีปอดได้อย่างทันท่วงที แล้วแสดงผลผ่านจอมอนิเตอร์ ทางทีมแพทย์ก็จะสามารถตรวจสอบความผิดปกติได้ทันที ทำให้ลดขั้นตอนและระยะเวลาตรวจ ซึ่งถือเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของแพทย์ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ฟูจิฟิล์ม ยังมีเครื่อง FDR XAir with AI ซึ่งเป็นเครื่องเอกซเรย์ขนาดเล็ก แบบพกพาเคลื่อนที่ได้ สามารถนำไปตรวจภาพเอกซเรย์ในกรณีตรวจฉุกเฉิน หรือภาคสนามที่ห่างไกล และพื้นที่จำกัด เพื่อเข้าถึงผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว"
ล่าสุด ฟูจิฟิล์ม ยังได้นำเข้าชุดตรวจโควิด-19 (Antigen Test) Ag Test สำหรับ Professional Use เพื่อใช้กับประชาชนทั่วไป โดยต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของบุคลากรทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์ทางด้านการป้องกันเชื้อโรคหรือแบคทีเรียต่างๆ เช่น สเปรย์แอลกฮออล์ Hydro Ag+ ที่ใช้ในโรงพยาบาล และในครัวเรือนที่กำลังจะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ตอกย้ำการสร้างแบรนด์ให้เป็น No.1 Total Medical Imaging Solution เพื่อให้วงการแพทย์มีเครื่องมือในการดูแลป้องกัน และวินิจฉัยที่ครบวงจรในทุกมิติการรักษา
นอกจากนี้ ฟูจิฟิล์มยังนำ AI ไปพัฒนากับเครื่องมือการแพทย์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้องส่องตรวจระบบทางเดินอาหาร Endoscopy และระบบการจัดการฐานข้อมูลการส่องกล้อง Envision Next ที่ช่วยบริหารจัดการข้อมูลของผู้ป่วย ลดขั้นตอนของบุคลากรทางการแพทย์ หรือเครื่อง Point of Care อัลตราซาวด์ที่เป็นผู้นำในตลาดอเมริกา Sonosite ที่สามารถตรวจคัดกรองผู้ป่วยเบื้องต้นในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล และเครื่องตรวจเต้านม Mammography with AI ทั้งด้านการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพและแม่นยำสูง เพื่อช่วยเหลือแพทย์ในการวินิจฉัยอีกด้วย
รับผิดชอบต่อสังคม
นอกจากการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้งแล้ว ฐาปกรณ์ กล่าวต่อไปว่า
"ฟูจิฟิล์มยังรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการช่วยเหลือ แบ่งปันให้กับสังคม (Contribution Society) ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักของฟูจิฟิล์มต่อสังคม ไม่ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะหนักอยู่ในขณะนี้ หรือความต้องการสนับสนุนเครื่องมือการแพทย์ ฟูจิฟิล์มก็จะให้ความช่วยเหลือในด้านอุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ และส่งทีมงานของฟูจิฟิล์มลงพื้นที่เสี่ยง เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่หน้างานอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นหน้าที่ และบทบาทสำคัญของฟูจิฟิล์มที่ต้องดูแลและช่วยเหลือสังคมและคุณภาพชีวิตของคนไทย เพื่อสุขภาวะที่ดีขึ้น”