'สมูท อี' เปิดตัวผลิตภัณฑ์บำรุงผิว CBD สารสกัดจากพืชกัญชงรายแรกของไทย
30 Nov 2021

 

ศิวกร พิทยานุกุล ผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ตลอด 29 ปีที่ผ่านมา แบรนด์สมูท อี ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคว่าเป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอางจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูงในการแก้ปัญหาผิว (รอยแผลเป็นและสิว) ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่คิดค้นมา เพื่อตอบสนองเรื่องความงาม และสุขภาพด้านผิวพรรณที่ดีของผู้บริโภค โดยมีแพทย์ทางด้านผิวหนังเป็นที่ปรึกษา และร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์มาโดยตลอด ส่งผลให้ สมูท อี เป็นแบรนด์ที่แข็งแรงมั่นคง และครองตำแหน่งยอดขายอันดับหนึ่งในร้านขายยาทั่วประเทศมาอย่างยาวนาน

 

 

“ล่าสุดสมูท อี เปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลผิว CBD (Cannabidiol) ซึ่งเป็นหนึ่งในสารพฤกษเคมี ที่สกัดได้จากพืชกัญชง ที่ค้นคว้าและสกัดโดยคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมูท อี ถือเป็นแบรนด์เวชสำอางรายแรกของไทยที่มีการประยุกต์ใช้สารสกัดจากพืชกัญชงเพื่อการดูแลผิว ซึ่งผลการวิจัยพบว่า มีสารกลุ่มกรดไขมันโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นสิว รูขุมขนกว้าง ผิวที่มีริ้วรอย เหี่ยวย่น ช่วยบำรุงผิวใช้ได้แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย โดยผลิตภัณฑ์ CBD ของสมูท อี มีทั้งรูปแบบเซรั่ม และครีม

ซึ่งปัจจุบันได้มีวางจำหน่ายแล้วตามร้านขายยาและช่องทางออนไลน์ รวมถึงจะมีการส่งออกไปขายในตลาด South East Asia และทั่วโลกอีกด้วย นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิ Cica ครีมเซรั่มสำหรับบำรุงและฟื้นฟูผิวแพ้ง่ายและเป็นสิวง่าย, Melatonin Sleep Lotion โลชั่นบำรุงผิวระหว่างเวลาพักผ่อนนอนหลับ และสมูท อี 2 in 1 Mask and Wash”

 

ศิวกร กล่าวต่อว่า ในปีนี้ สมูท อี ยังสามารถรักษายอดขายได้ดีแม้ในช่วงสถานการณ์โควิด -19 และได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากแบรนด์สมูท อี มีความเป็นเวชสำอางไม่ใช่ Beauty ผู้บริโภคจึงมีความเชื่อมั่นในการใช้ผลิตภัณฑ์สมูท อี ว่ามีคุณภาพปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ ใช้แล้วเห็นผลจริง แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายในประเทศอยู่ที่ 80% และต่างประเทศ 20% ซึ่งปัจจุบัน สมูท อี มีจำหน่ายใน 10 กว่าประเทศ สำหรับในปี 2565 บริษัทฯ มุ่งเน้นขยายตลาดไปใน South East Asia โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็น Global Brand พร้อมตั้งเป้าการเติบโตแบบ Challenge ไว้ที่ประมาณ 30% ในปีหน้า ซึ่งมี 3 ปัจจัยหลักที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายคือ 1. จากนวัตกรรมในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ 2. ช่องทางการจำหน่ายผ่านทางออนไลน์และร้านขายยา และ 3. การทำการตลาดต่างประเทศ

 

นอกจากช่องทางการจัดจำหน่ายหลักของสมูท อี ในห้างสรรพสินค้าและร้านขายยาทั่วประเทศแล้ว บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับช่องทางการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม “ออนไลน์” เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่นิยมการช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น

โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้ผ่านทางเว็บไซต์ Lazada, Shopee, Konvy รวมถึง https://smooth-e.com/ และทางเพจ Facebook : Smooth-E Thailand

พร้อมใช้กลยุทธ์ CRM เพื่อต่อยอดและรักษาฐานลูกค้าของสมูท อี ด้วยการจัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 29 ปี มอบผลิตภัณฑ์สมูท อี เป็นของขวัญให้กับแฟนพันธุ์แท้ ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์ และบอกเล่าความประทับใจที่มีต่อผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังเปิด “Smooth E Baby Face Club Thailand” ให้คำปรึกษาไขทุกปัญหาเรื่องผิวโดยแพทย์ที่ปรึกษาด้านความงาม และผิวพรรณของสมูท อี เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า Gen Y และ Gen Z อีกด้วย

 

“สำหรับภาพรวมตลาด Skin Care ในประเทศพบว่า ในแต่ละปีที่ผ่านมาตลาดความงามของไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 6-9% แต่เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีการล็อกดาวน์ประเทศ การชะลอตัวด้านเศรษฐกิจ ความกังวลด้านต่างๆ รวมถึงการใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเองเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้ตลาดความงามเปลี่ยนไป โดยสินค้ากลุ่ม Personal & Beauty Care นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 อยู่ในสภาวะติดลบ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในช่วงปี 2562 ตลาดสินค้าการดูแลส่วนบุคคลและความงามที่ติดลบเนื่องจากได้รับผลกระทบมาจากผู้บริโภคใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านน้อยลง และทำให้เกิดการใช้สินค้าและความถี่ในการซื้อสินค้ากลุ่มนี้ที่ลดลงตามมา

 

 

ส่วนแนวโน้มในปีหน้า คาดว่าสินค้ากลุ่มนี้ จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง เพราะช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ การค้าขายเริ่มฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ ผู้บริโภคเริ่มมีการใช้จ่ายเงินมากขึ้น หลังจากที่อัดอั้นการใช้จ่ายมานาน และแต่ละแบรนด์เริ่มกลับมาใช้งบประมาณในการทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์มากขึ้น จึงทำให้ตลาด Personal & Beauty Care เริ่มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ” 

   

[อ่าน 2,396]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไมเนอร์ โฮเทลส์ เปิดตัว 4 แบรนด์ใหม่ เสริมแกร่งพอร์ตโฟลิโอทั่วโลก
SC ผนึก 5 สถาบันการเงิน เสนอขายหุ้นกู้ 2 ชุด หุ้นกู้อายุ 3 ปี และ 4 ปี เปิดจองซื้อ 18 และวันที่ 21 – 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1’ ยางชั้นเยี่ยมที่พัฒนาขึ้นสำหรับรถไฮเปอร์คาร์ ‘เฟอร์รารี่ เอฟ80’ โดยเฉพาะ
นับถอยหลังเปิดตัว HYUNDAI SANTA FE ใหม่! ชูเครื่องยนต์ไฮบริด – 15 ก.ค. นี้
ออมสินโชว์ผลสำเร็จ 5 ปี “ธนาคารเพื่อสังคม” ช่วยคนไทย 13 ล้านชีวิต ส่งรายได้เข้ารัฐกว่า 9.6 หมื่นล้าน
ไอคอนคราฟต์ เผยเสน่ห์งานคราฟต์ไทยร่วมสมัย ผ่านแคมเปญ 'The Craft of Style'
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved