'มากุโระ กรุ๊ป' เผยความสำเร็จปี 64 สุดแกร่ง เติบโตแบบก้าวกระโดดขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย
09 Dec 2021

เอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง กรรมการบริหาร ร้านอาหารญี่ปุ่นมากุโระและกลุ่มธุรกิจในเครือมากุโระ กรุ๊ป


 

มากุโระ กรุ๊ป (Maguro Group) กลุ่มผู้นำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นและเกาหลีระดับพรีเมี่ยมของประเทศไทยโชว์ความสำเร็จธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นเติบโตแบบก้าวกระโดด พร้อมผนึกกำลังทุนจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำในภูมิภาคเอเชียกว่า 300 ร้อยล้านบาท สู่การขยาย 2 แบรนด์ใหม่ “SSAMTHING TOGETHER” ร้านอาหารเกาหลีระดับพรีเมี่ยม และ “TAIKO” ร้านซูชิและอาหารญี่ปุ่นแบบจานด่วนที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ เอาใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วยความคุ้มค่าและความแตกต่าง ตั้งเป้ายอดขายปี 2565 จำนวน 750 ล้านบาท รวมถึงการมุ่งหน้าเข้าตลาดทรัพย์ฯ​ ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้

 

เอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง กรรมการบริหาร ร้านอาหารญี่ปุ่นมากุโระ และกลุ่มธุรกิจในเครือมากุโระ กรุ๊ป เปิดเผยว่า

การดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจในเครือมากุโระ กรุ๊ป ในปี 2564 ที่ผ่านมานับว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก ถึงแม้จะอยู่ในช่วงวิกฤตของสถานการณ์โควิด แต่ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือทั้ง 10 สาขาก็ยังแข็งแกร่ง เนื่องจากมีการปรับตัวที่ดีทั้งแผนการตลาด และมาตรฐานสุขอนามัย โดยยังคงคุณภาพอาหารที่ดีเยี่ยม ทำให้มีฐานกลุ่มลูกค้าที่มั่นใจในแบรนด์มาใช้บริการอย่างตัวเนื่อง

รวมทั้งในปีนี้ ยังได้มีการขยายกิจการตามแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่กำหนดไว้ ได้รับเงินลงทุนจากนักลงทุนระดับสถาบันชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย เพื่อต่อยอดการขยายธุรกิจ โดยได้เปิดตัว 2 แบรนด์น้องใหม่SSAMTHING TOGETHERร้านอาหารเกาหลีพรีเมี่ยม และ TAIKO ร้านซูชิและอาหารญี่ปุ่นแบบจานด่วนที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ (Japanese Quality Fast Meal) เอาใจคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดขนาดใหญ่ (Mass) ที่มองหาความคุ้มค่าและความแตกต่าง โดยได้มีการเปิดตัวแบรนด์ SSAMTHING TOGETHER ในกันยายน 2564 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าเมกาบางนา และ “TAIKO” ที่สยามพารากอน โดยมั่นใจว่าทั้งสองแบรนด์น้องใหม่นี้จะเป็นอีกฟันเฟืองสำคัญขับเคลื่อน “มากุโระ กรุ๊ป” คว้าตำแหน่งหนึ่งในผู้นำธุรกิจอาหารในภูมิภาคเอเชีย โดยได้ตั้งเป้ายอดขายรวมของบริษัทอยู่ที่ 750 ล้านบาทในปี 2565 และมุ่งหน้าเข้าตลาดทรัพย์ฯ​ ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้

 

“เราได้มีการมองหาโอกาสเพื่อที่จะขยายธุรกิจออกไปในรูปแบบใหม่ๆ มาโดยตลอด และได้รับการติดต่อจากหลายๆ กลุ่มนักลงทุน ที่สนใจจะมาร่วมทุนในการขยายธุรกิจของเรา จากรากฐานการทำธุรกิจของเราที่มี DNA ที่แข็งแรง มีแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และมีแฟนคลับอยู่เป็นจำนวนมากทั่วกรุงเทพฯ” เอกฤกษ์กล่าว

 

 

โมเดลธุรกิจของ “มากุโระ กรุ๊ป” คือการขยายธุรกิจอย่างยั่งยืนและมั่นคง โดยมีแนวทางที่จะต่อยอดและขยายฐานธุรกิจให้กว้างขึ้น การได้รับเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันต่างชาติจะช่วยในการต่อยอดทางธุรกิจ ผ่านการสร้างแบรนด์ใหม่ ๆ รวมถึงการเปิดโอกาสการขยายธุรกิจผ่านช่องทางการร่วมลงทุน และควบรวมกิจการ (M&A) กับบริษัทอื่น ๆ ทั้งในและนอกอุตสาหกรรมร้านอาหารเช่นกัน โดยมีเป้าหมายให้เจ้าของบริษัทที่ต้องการผู้ลงทุนได้มีโอกาสเติบโตไปได้อย่างยั่งยืน โดยมี “มากุโระ กรุ๊ป” เป็นผู้ร่วมทุน และแชร์ประสบการณ์และความรู้ในธุรกิจอาหารร่วมกัน การต่อยอดทางธุรกิจโดยภายใต้ 2 แบรนด์ใหม่นี้ จะทำให้สามารถขยายสาขาได้มากกว่า 10 สาขารวมทุกแบรนด์ในแต่ละปี และจะทำให้มีอย่างน้อย 50 สาขาทั่วประเทศ ภายในปี 2566

 

ทั้งนี้ ปัจจัยในความสำเร็จตลอด 6 ปีที่ผ่านมาของ “มากุโระ กรุ๊ป” คือการดำเนินธุรกิจภายใต้วัฒนธรรมหลักของแบรนด์ นั่นคือ ‘Way of Giving More’ หรือ ‘วัฒนธรรมแห่งการให้มากกว่าที่ขอ’ ที่ตั้งใจถ่ายทอดความใส่ใจของอาหารทุกจานจากวัตถุดิบคุณภาพ ผ่านการปรุงที่เคารพในวัตถุดิบ และเข้าใจศิลปะของอาหารญี่ปุ่นที่สุดตามมาตรฐานของ “มากุโระ” จนเป็นที่ประทับใจของลูกค้ามาตลอด โดยผู้บริหารมีความต้องการที่จะถ่ายทอดวัฒนธรรมขององค์กรนี้ส่งต่อไปกับทุก ๆ แบรนด์ ทุกกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น กลยุทธ์อาจจะมีปรับเปลี่ยนไปเพื่อให้เหมาะกับแบรนด์นั้น ๆ แต่หัวใจหลักของผลิตภัณฑ์ คือความใส่ใจในการรังสรรค์อาหาร วัตถุดิบที่เลือกมา และการบริการของเราจะต้องเป็นไปตาม DNA ของ มากุโระ กรุ๊ป ทั้งหมด

 

นอกเหนือจากแผนการขยายตัวกิจการแล้ว มากุโระ กรุ๊ป ยังคำนึงถึงเรื่องการเจาะลึกข้อมูลของลูกค้า (Consumer Insight) เป็นอย่างมาก โดยมีการใช้กลยุทธ์ “Data Driven Marketing” ทำการวิเคราะห์ในเชิงของกลยุทธ์เพื่อค้นหาปัญหา (Pain Point) และความต้องการของลูกค้า เพื่อนำไปพัฒนาเมนูใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าหลากหลายกลุ่ม อาทิ เมนู Quick and Easy ที่เน้นความเร็ว ขนาดพอประมาณ ราคาจับต้องได้ มีให้บริการที่สาขาสยาม และสาขาเอสพลานาด ซึ่งเป็นกลุ่มคนทำงานและนักศึกษาที่มีเวลาพักกลางวันไม่นาน โดยเมนูจานด่วนที่มีคุณภาพเหล่านี้ ช่วยให้ขายได้เร็วขึ้น เกิดการหมุนเวียนวัตถุดิบที่เร็ว เข้าถึงคนกลุ่มใหญ่ได้มาก รวมถึงเป็นความตั้งใจที่อยากให้ลูกค้าได้รับประทานของดีในราคาที่เหมาะสม

 

 

ด้านภาพรวมตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะวัฒนธรรมการรับประทานของคนไทยและญี่ปุ่นมีความคล้ายกัน จึงทำให้มีร้านญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันมีร้านอาหารญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 21% จากปี 2561 แบ่งเป็นประเภทบุพเฟ่ต์ปิ้งย่าง ชาบู สุกี้ ราเมง และล่าสุดซูชิแบบโอมากาเสะก็เริ่มแพร่หลายมากขึ้น และจากข้อมูลประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ “เจโทร กรุงเทพฯ” เปิดเผยถึงผลการสำรวจตลาดอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยปี 2563 ว่า มีร้านอาหารญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นร้านอาหารประเภทซูชิเพิ่มขึ้นสูงสุดกว่า 504 ร้าน ซึ่งมากกว่าปี 2562 ถึง 50%

 
“แม้ว่าปัจจุบันตลาดธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นมีการแข่งขันที่สูงอย่างมาก แต่มากุโระยังสามารถสร้างจุดเด่นให้แตกต่างด้วยคุณภาพของอาหารในคอนเซปต์ “ใหญ่ สด คุ้ม” และเป็นร้าน Premium Mass ที่ทำอาหารให้มีคุณภาพแบบ Fine Dining ในราคาที่จับต้องได้ รวมถึงมีความชัดเจนในความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ และมุ่งมั่นสร้างวัฒนธรรม “การให้มากกว่าที่ขอ” (Give More)ให้อยู่ในทุกๆ ด้านของการบริการของเราอย่างต่อเนื่อง นั่นคือมอบอาหารที่มีคุณภาพและสร้างประสบการณ์ที่รู้สึกอิ่มเอมใจ ทุกครั้งที่เดินออกจากร้านมากุโระของเรา” นายเอกฤกษ์กล่าวปิดท้าย

 

[อ่าน 1,775]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Brother โชว์ศักยภาพ Domino N730i ดันไทยสู่มาตรฐานใหม่อุตสาหกรรมพิมพ์ ในงาน Labelexpo Southeast Asia 2025
AWC รายงานผลกำไรไตรมาส 1/2568 เติบโต 23% มูลค่าทรัพย์สินพุ่งกว่า 2 เท่า
ไอคอนคราฟต์ ชวนช็อปงานคราฟต์จากกลุ่มคนพิเศษ ในแคมเปญ "The Craft of Sharing" ตั้งแต่วันนี้ - 3 มิ.ย. 68
CKPower เผยกำไรสุทธิ Q1/2568 พลิกเป็นบวกแม้เป็นฤดูแล้ง
เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท โชว์ผลงาน กำไรไตรมาส1 พุ่ง 57% ทะยานสู่โหมดการเติบโตอย่างเต็มกำลัง
ออร์บิกซ์ ร่วมมือกับ Bitstamp ยกระดับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved