realme เผยทิศทางธุรกิจ เตรียมเขย่าวงการไอทีไทยปี 65 เน้นพัฒนาเรือธง GT series ตั้งเป้าเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับ 3 ของไทย
17 Dec 2021

 

realme แบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำรอบเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อเป็นการขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้การสนับสนุนเผยแพร่ข่าวสารของแบรนด์ด้วยดีมาโดยตลอด ภายในงาน ผู้บริหารยังได้แถลงผลการดำเนินงานปี 2564 ที่ realme ประสบความสำเร็จในการส่งมอบสมาร์ตโฟนครบ 100 ล้านเครื่องทั่วโลกตามไทม์ไลน์ พร้อมกับก้าวขึ้นสู่แบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับ 6 ของโลกได้สำเร็จ  สำหรับตลาดเมืองไทย realme เป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับ 5 ซึ่งบริษัทฯ ได้เตรียมวางกลยุทธ์ธุรกิจและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เน้นลงทุนพัฒนาสมาร์ตโฟนระดับเรือธงตระกูล GT series เพื่อนำเสนอสมาร์ตโฟนพรีเมียมล้ำสมัยสำหรับหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ตั้งเป้าขึ้นแท่นแบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับ 3 ของไทยในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้  realme จะเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในระบบ 5G และ AIoT เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่กำลังก้าวสู่  Smart Life ได้อย่างคุ้มค่า

 

นายศิรศร เบญจาธิกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ เรียลมี ประเทศไทย กล่าวว่า “realme ขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ได้ให้การสนับสนุนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารของแบรนด์ด้วยดีเสมอมา และในโอกาสนี้เรามีความยินดีที่จะประกาศว่าปี 2564 ถือเป็นปีแห่งความสำเร็จครั้งสำคัญสำหรับ realme เพราะเราสามารถก้าวขึ้นเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับ 6 ของโลกได้เป็นครั้งแรกหลังจากก่อตั้งบริษัทฯ ได้เพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น”

 

“ความสำเร็จที่ผ่านมาของ realme เกิดจากการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ 4 ด้าน ได้แก่ 1) แนวคิดพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยมุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และนำเสนอสินค้าที่สอดคล้องกับค่านิยมของหนุ่มสาวที่ต้องการสมาร์ตโฟนล้ำสมัยและใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ 2) การส่งมอบสมาร์ตโฟนที่มีนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิ ระบบชาร์จ UltraDart 125W การใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 เป็นเจ้าแรก ๆ รวมถึงเทคโนโลยีกล้องความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ฯลฯ ในระดับราคาที่จับต้องได้ 3) ช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุมทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่ง realme ยังคงพัฒนาช่องทางการตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศต่าง ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้มากยิ่งขึ้น และ 4) พันธกิจ Dare to Leap ซึ่งเปิดรับคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน โดยพนักงานบริษัทมีอายุเฉลี่ยเพียง 29 ปี ทำให้บริษัทมีไอเดียการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่อยู่เสมอ”

 

 

ความสำเร็จของ realme ทั่วโลกในปี 2564

ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ realme ขึ้นแท่นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่ส่งมอบสมาร์ตโฟนได้ 100 ล้านเครื่องทั่วโลกได้เร็วที่สุดในโลก จากข้อมูลสถิติของ Strategy Analytics โดยส่งมอบได้ภายในเวลาเพียง 37 เดือนเท่านั้น นับเป็นความสำเร็จที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนโลก

 

ความสำเร็จนี้ในไตรมาส 2 และ ไตรมาส 3 ของปี 2564 ทำให้ realme ขยับขึ้นเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับ 6 ของโลกได้เป็นครั้งแรกหลังจากก่อตั้งแบรนด์มาเพียง 3 ปี จากการจัดอันดับของ Counterpoint ซึ่งถือเป็นปรากฎการณ์การเติบโตแบบก้าวกระโดด สู่การเป็นหนึ่งในแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนได้อย่างรวดเร็วที่สุดของโลก

 

ก้าวสู่แบรนด์ Top5 แม้เศรษฐกิจไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ผันผวน

สำหรับตลาดสมาร์ตโฟนของไทย รายงานการจัดอันดับของ Canalys ระบุว่าในไตรมาส 3 ของปี 2564 แบรนด์ realme ติดอันดับ 1 ใน 5 แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำในตลาด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมของผู้บริโภคที่แม้เมืองไทยจะกำลังเผชิญกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 มาตลอด 2 ปี แต่ผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงในระดับราคาที่คุ้มค่าของ realme สามารถครองใจผู้บริโภคและคว้าตำแหน่งแบรนด์ Top5 ได้สำเร็จ

 

กลยุทธ์ธุรกิจปี 2565 สู่แบรนด์สมาร์ตโฟนเจ้าตลาดในไทย

สำหรับในปีหน้า realme วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลากหลายกลุ่ม และจะนำเสนอสุดยอดเทคโนโลยีมากมายเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดไอที โดยจะพัฒนาให้สินค้ามีราคาที่จับต้องได้ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดต่างๆ ได้สบายกระเป๋ามากยิ่งขึ้น

 

ปี 2564 ที่ผ่านมา realme มองว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการทำตลาดสมาร์ตโฟนในระดับพรีเมียมได้ดีมาก และยังเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการเปิดตัวสมาร์ตโฟนตระกูล GT series ครบทุกรุ่น  หลังจากนี้ realme จะนำสมาร์ตโฟนสุดพรีเมียมในตระกูล GT Series นั่นคือ GT 2 series มาทำตลาดในไทย ซึ่งเป็นรุ่นพรีเมียมที่สุดของ realme พร้อมชูไฮไลต์ 3 เทคโนโลยีสุดล้ำเป็นครั้งแรกของโลก ทั้งการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมการถ่ายภาพ และเทคโนโลยีการสื่อสารขั้นสุด

 

ผลิตภัณฑ์ 5G และ AIoT เพื่อชีวิตยุคดิจิทัล

สืบเนื่องจากความสำเร็จในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ AIoT ในปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้ง realme Pad แท็บเล็ตรุ่นแรกของแบรนด์ที่ตีตลาดด้วยสเปกสุดคุ้ม, realme Book แล็ปท็อปรุ่นแรกของแบรนด์ และอุปกรณ์ AIoT อีกมากมายโดยแบรนด์ realme สามารถติดอันดับ 3 ในสินค้าประเภท Basic watch  และประเภท TWS ของเมืองไทยได้สำเร็จ ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีที่ 1,091% และ 188% ตามลำดับ

 

ในอนาคต realme จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้ง 5G และ AIoT โดยนำเสนอภายใต้แบรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ในชื่อ TechLife เพื่อตอบโจทย์ Smart Life ของผู้คนในปัจจุบันให้ครอบคลุมมากขึ้น

 

โดยในปี 2565 realme วางแผนจะเปิดตัวสมาร์ตโฟนระบบ 5G ให้ได้มากกว่า 30 รุ่น คิดเป็น 70% ของสัดส่วนสมาร์ตโฟนทั้งหมดและในอีก 2 ปีข้างหน้า realme จะลงทุน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก สำหรับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี 5G และพัฒนาผลิตภัณฑ์ 5G เพื่อก้าวเข้าสู่ยุค 5G อย่างเต็มตัว

 

realme จะยังคงเดินหน้าทำตลาด AIOT ตามกลยุทธ์หลักของแบรนด์ นั่นคือ 1+5+T เพื่อมุ่งหวังที่จะสร้าง realme Ecosystem ให้เกิดขึ้นอยู่รอบตัวผู้บริโภค

  • 1 แทน สมาร์ตโฟนที่จะเป็นศูนย์กลางการควบคุม Ecosystem ทั้งหมด
  • 5 แทนหมวดหมู่หลักของอุปกรณ์ AIoT ทั้งหมด ได้แก่ 1. อุปกรณ์หูฟังไร้สาย 2. อุปกรณ์สวมใส่ 3. โทรทัศน์ 4. แท็บเล็ต และ 5. แล็ปท็อป
  • T ย่อมาจากแบนด์ TechLife ซึ่งทั้งหมดนี้จะมี realme Link แอปพลิเคชันเชื่อมต่อกัน และสร้างเป็น AIoT ecosystem เพื่อให้ผู้ใช้งานอุปกรณ์ realme สามารถใช้งานร่วมได้อย่างเต็มรูปแบบ

 

“สำหรับประเทศไทยในปัจจุบัน realme ถือเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับ 5 ของประเทศ และด้วยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เตรียมเปิดตัวในปีหน้านี้ เราตั้งเป้าที่จะขึ้นไปอยู่ในอันดับ 3 ให้ได้ และเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า จะยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากกลุ่มผู้ใช้งานของเราเป็นอย่างดีเช่นเคย” นายศิรศร เบญจาธิกุล กล่าวสรุป

 


ติดตามข่าวสารและดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ realme ได้ที่เว็บไซต์ https://www.realme.com/

 

[อ่าน 1,853]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
BAM คว้ารางวัล ESG100 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สะท้อนความมุ่งมั่นสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ADAM Elements แกดจิตไอทีที่ออกแบบมาเพื่อชีวิตยุคดิจิทัล
เอไอเอส เดินเกมใหญ่! ปั้น AIS PLAY ศูนย์รวมคอนเทนต์อันดับ 1 พรีเมียร์ลีกครบฤดูกาล-ไทยลีกดูฟรี
PTG ติดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 ต่อเนื่องปีที่ 2 ขยับขึ้นอันดับ 48 สะท้อนการเติบโตยั่งยืน
EGCO Group ปิดดีลเข้าลงทุน 49% โรงไฟฟ้า “Downeast Wind” ในสหรัฐอเมริกา
Krungthai CIO ชู “Income Theme” รับมือเศรษฐกิจผันผวน ชี้โอกาสลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลก เสริมพอร์ตสร้างรายได้ระยะยาว
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved