“ผัดกะเพรา” อาจเป็นเมนูสิ้นคิดของใครหลายๆ คน แต่สำหรับคนที่คิดมาก การตามหา “ข้าวผัดกะเพรา” แซ่บๆ ที่รสชาติถูกปากสักจาน อาจเป็นเรื่องยาก เพราะปัจจุบันสูตรข้าวผัดกะเพราของแต่ละร้านได้ดัดแปลง พลิกแพลง กันจนเป็นรสชาติและเสน่ห์เฉพาะของแต่ละที่! แม้ในวันนี้ทั้ง “หน้าตา” และ “รสชาติ” จะเปลี่ยนไป แต่เชื่อเถอะว่า “ผัดกะเพรา” ยังเป็นเมนูโปรดของใครหลายๆ คน

ซึ่งเสียงยืนยันอีกด้านก็มาจากร้าน “อร่อยดี” นี่แหละ เป็นร้านอาหารสตรีทฟู๊ดในเครือ ซีอาร์จี ซึ่งมีสโลแกน รสชาติบ้านๆ กับจานที่คุ้นเคย ซึ่งบอกว่าตั้งแต่เปิดร้านมา เมนูผัดกะเพรา จัดเป็นเมนูขายดีที่สุดชนิดสั่งกันมาถล่มทลาย เป็นเมนูประจำร้านที่ใครๆ ก็ไม่พลาด มาต้องสั่ง หลังๆ ทางร้านจึงได้พัฒนานำวัตถุดิบอื่นๆ มารังสรรค์เป็นเมนูจานเด็ดเพิ่มเติม พร้อมตั้งหมวดหมู่ให้ลูกค้าได้เลือกตามความชอบในธีม “หฤโหดโคตรกะเพรา” เอาใจหนุ่มสาวสายกิน ให้ได้แซ่บปากเบิร์น เกินห้ามใจ เป็นการเฉพาะ โดยใครที่ได้ลองกินแล้ว ก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า … เผ็ดสะใจ จะคำไหน ๆ ก็เจอพริก สมชื่อ “หฤโหดโคตรกะเพรา” เผ็ดไฟลุกลาวาพริกเดือด!!!!

ร่ำลือกันขนาดนี้ วันนี้สายรีวิวอย่างเราจึงอดไม่ได้ที่จะมาแกะรอยความดังของเมนูฮอต ขอมาเจาะลึกร้าน “อร่อยดี” และแกะกล่องเมนูใหม่เอาใจหนุ่มสาวสายแซ่บ

ตำนานกะเพรา เมนูคู่ชาติ & คู่ร้าน

เคยสงสัยกันหรือไม่? กว่าจะมาเป็นเมนูยอดฮิต เส้นทางของเมนูนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร? ว่ากันว่าเมนู “ผัดกะเพรา” นั้น เป็นเมนูที่เพิ่งจะถูกคิดค้นมาในช่วงประมาณ พ.ศ. 2490 ช่วงสมัยนั้น จอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ออกนโยบายในเรื่องของการปฏิวัติวัฒนธรรม ท่านได้ทำการปฏิวัติวัฒนธรรมในประเทศครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการแต่งกาย การใช้ชีวิต หรือแม้กระทั่งอาหารการกินและในสมัยนั้นเอง ได้มีการจัดงานประกวดอาหารและขนมประจำชาติขึ้น แน่นอนว่าอันดับหนึ่งก็คือ “ผัดไทย” แต่เมนู “ผัดกะเพรา” เองก็ตามมาติดๆ ต่อมาหลังจากจบงานประกวด เหล่าบรรดาอาหารและขนมที่ได้รางวัล ก็มีการปรับปรุงสูตรโดยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เพื่อให้เข้ากับความเป็นไทยมากขึ้น …แต่ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่า “ผัดกะเพรา” แต่ในยุคเริ่มแรกนั้น กลับมีความแตกต่างกว่าในยุคปัจจุบัน เท่าที่รู้จะมีการแอบใส่น้ำพริกเผาลงไปเล็กน้อย เพื่อสร้างรสชาติแฝง แต่ถ้าหากไม่มีน้ำพริกเผาก็ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดแทน ทั้งนี้ประโยชน์ของกะเพรา (Holy basil) คือ ขับลม มีกลิ่นหอม

3 เหตุผลว่าทำไมต้อง “หฤโหดโคตรกะเพรา” ที่นี่

แรร์ไอเท็มของร้าน! เมนูหลักที่พลาดไม่ได้! ในโหมด หฤโหดโคตรกะเพรา เลือกวัตถุดิบ หมู ไก่ ตามใจ ความเด็ดที่เป็นสูตรลับเฉพาะอยู่ที่นี่ 1. สารพัดพริกเด็ด ที่เหมือนยกมาให้ทั้งสวน! เพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยพริกขี้หนูแห้ง (จินดา) และพริกขี้หนูจินดาแดง 2. กะเพรารสเด็ด สูตรดั้งเดิมโบราณ ผัดพริกแห้งผสมพริกสด และกระเทียม ทำให้มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ 3. ความลงตัวของความเผ็ด แซ่บ จนต้องร้องซี้ดดด รสชาติจัดจ้านสะใจสำหรับสายชอบกินเผ็ด

ถามว่า ทำไมต้องเผ็ด? เพราะคนไทยชอบกินเผ็ด แล้วทำไมคนไทยถึงชอบกินเผ็ด? ว่ากันว่า ทั้งที่ลิ้นของเรา ไม่มีต่อมรับรสเผ็ด (ลิ้นรับ รสหวาน เค็ม เปรี้ยว ได้เท่านั้น) แต่เมื่อเรากินอาหารเผ็ดๆ “สารเผ็ด” ในอาหารจะทำให้ส่วนที่มันสัมผัส เกิดความแสบร้อน ยิ่งอาหารมีสารเผ็ดมาก เราก็จะยิ่งแสบร้อนมาก โดย สารเผ็ดที่ป๊อปปูล่าร์ในไทย คงนี้ไม่พ้นจากพริกนี่แหละ จากข้อมูลพบว่า มนุษย์ กินรสเผ็ด มานานกว่า 23,000ปีคนสมัยก่อนอาจจะนำพวกสารเผ็ดๆ มาใช้เพื่อฆ่าแบคทีเรียในอาหาร แต่พอกินไปกินมาก็ติดใจ ในความเผ็ด โดยความเผ็ดอาจทำให้คนกินมีความรู้สึกเหมือน ตอน โดดร่ม หรือ นั่งรถไฟเหาะตีลังกา ที่เอาเราไปเหวี่ยงๆ ในอากาศ หัวใจแทบวาย แต่คนก็ชอบ และ ฟินไปกับมัน อีกทั้งมีงานวิจัยบางที่ กล่าวว่า การกินเผ็ดอาจช่วยลดน้ำหนักได้ โดยจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้ อีกทั้งพริกช่วยขับเหงื่อ ทำให้ความร้อนในกายถูกระบายออกมามากขึ้น

แบบนี้นี่เอง …. หฤโหดโคตรกะเพรา ถึงเป็นเมนูจานเด็ดที่ไม่ควรพลาดของที่นี่!

เคล็ดลับจานฮอต พร้อมเมนูใหม่พร้อมเสิร์ฟ

หฤโหดโคตรกะเพรา ของร้านอร่อยดี มีจุดเด่นอยู่ที่ กะเพราสูตรดั้งเดิมโบราณ, ผัดพริกแห้งผสมพริกสดกับกระเทียม, เพิ่มความเผ็ดด้วยพริกขี้หนูแห้ง (จินดา) และพริกขี้หนูจินดาแดงใช้วัตถุดิบหมูอย่างดี ผัดด้วยซอสสุดพิเศษ รสชาติกลมกล่อม ที่สำคัญเชฟและพนักงานของร้าน ใส่ใจความสะอาดได้มาตรฐานทุกขั้นตอน ด้วยอาหารปรุงสุก สะอาด สดใหม่ ทุกออเดอร์ ที่สำคัญแซ่บปากเบิร์นจัดจ้านสะใจอีกด้วย

ใครที่ได้ลองกินแล้ว ก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เผ็ดสะใจ จะคำไหน ๆ ก็เจอพริก สมชื่อ “หฤโหดโคตรกะเพรา” เผ็ดไฟลุกลาวาพริกเดือด ซึ่งในช่วงสิ้นปีนี้ ที่ลมหนาวมาเยือน ไล่ไปจนถึงการเฉลิมฉลองปีใหม่ ใครเบื่อมื้อหนัก อยากกินมื้อง่ายๆ เตรียมตัวเผ็ดซู้ดปากผ่านเมนูนี้ได้ ในราคาเบา ๆ เพียง 89 บาท เท่านั้น (โปรโมชั่น ตั้งแต่วันนี้ – 31 ม.ค. 65 ที่ร้านอร่อยดี ทุกสาขา)