Renny Express  ช่วยยกระดับร้านค้าชุมชน พัฒนาการบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า  ให้สามารถแข่งขันกับมินิมาร์ทได้  ด้วยแพ็กเกจเพิ่มบริการรับ-ส่งพัสดุไปรษณีย์  เพียง 59,900 บาท  และแพ็กเกจครบบริการทั้ง สะดวกซื้อ สะดวกส่ง สะดวกจ่าย  ราคาเริ่มต้น 2 แสนบาท  พร้อมระบบเซอร์วิสในการพัฒนาตกแต่งร้านให้ไฉไลสะดุดตา  ฟรีค่าแฟรนไชส์  ค่าใช้จ่ายมีเพียงค่าประกันสินค้าและค่าตกแต่งร้านตามจริงเท่านั้น  พิเศษหากไม่มีทุน  เรนนี่มีบริการสินเชื่อสำหรับร้านที่ต้องการยกระดับอีกด้วย

อาลี  หญ้าปรัง  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรนนี่  คอปเปอเรชั่น จำกัด กล่าวถึงที่มาของแฟรนไชส์เรนนี่ เอ็กซ์เพรส ว่า

“ด้วยเรนนี่ คอปเปอเรชั่น  ดำเนินธุรกิจจำหน่ายตู้เติมเงิน ตู้จ่ายบิลอัตโนมัติ  ตู้กดน้ำหยอดเหรียญ  ตู้จำหน่ายเครื่องดื่ม  และตู้หยอดเหรียญหลากหลายประเภท  มีสินค้าตั้งบริการมากกว่า 1 หมื่นจุดทั่วประเทศ  นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ “เรนนี่ ไบค์” ซึ่งปัจจุบันมี 50 สาขาทั่วประเทศ  ดังนั้น 90% ของลูกค้าเรนนี่เป็นร้านค้าชุมชน จึงทำให้เราคลุกคลีและรู้จักไลฟ์สไตล์ของร้านค้าชุมชนเป็นอย่างดี  ต้องยอมรับว่า หากร้านเหล่านี้ไม่พัฒนา ในอนาคตโชวห่วยหรือร้านชุมชนอาจต้องล้มหายตายจากอย่างแน่นอน  เพราะถูกกลืนกินโดยคู่แข่งรายใหญ่ในตลาด  เรนนี่จึงคิดโมเดลธุรกิจ 2 รูปแบบ เพื่อช่วยยกระดับร้านค้าชุมชนให้มีความสวยงามน่าเข้ามาใช้บริการ  พร้อมมีบริการที่หลากหลายครบครัน  ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่เพิ่มขึ้น  ทำให้สามารถสร้างกำไรเพิ่มและแข่งขันได้

• โมเดลแรก Renny Express แฟรนไชส์ รับ-ส่งพัสดุ  ในราคาแพ็กเกจสุดคุ้มเพียง 55,900 บาท ก็สามารถเพิ่มบริการรับส่งพัสดุไปรษณีย์ในร้านได้ทันที  สร้างรายได้ได้ถึง 15% - 66.4% ต่อยอดการให้บริการที่สำคัญยังสามารถแบ่งชำระจ่ายได้
• โมเดลที่ 2 Renny Express  สะดวกซื้อ สะดวกส่ง สะดวกจ่าย เริ่มต้นเพียง 200,000 บาท (ค่าประกันสินค้า) สำหรับค่าตกแต่งร้าน จ่ายตามจริง  หากไม่มีเงินทุน  ทางเรนนี่ยังมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไว้รองรับด้วย  พร้อมระบบซอฟต์แวร์จัดทำและสรุปรายรับ-รายจ่าย  บริหารสต็อกสินค้า  และเติมสินค้าตลอดอายุสัญญา     

“ร้านชุมชนที่เป็นพาร์ทเนอร์กับเรนนี่ ทำหน้าที่คือขายของเพียงอย่างเดียว  พร้อมโอนเงินรายรับที่ได้เป็นรายวันเข้าบริษัท  ทางเรนนี่จะมีระบบหลังบ้านสรุปผลกำไรแสดงให้เห็นเป็นรายวัน  และโอนกำไรการขายทั้งหมดให้แก่ร้านค้าชุมชนพาร์ทเนอร์ทุกเดือน   ดังนั้นข้อดีของการเปลี่ยนโฉมร้านชุมชนมาเป็น Renny Express คือ สินค้าในร้านหลากหลายครบครันในต้นทุนที่ถูกลง  ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น โดยเราจะมีทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบ และคอยเป็นพี่เลี้ยงเทรนเรื่องการใช้งาน ซึ่งโปรแกรมทั้งหมดในร้านเป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่สะดวกและใช้งานง่าย   สำหรับเรื่องเงินทุนในการตกแต่งร้านนั้น  ทางเรนนี่ซัพพอทในเรื่องแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของร้านอีกด้วย"   

ทั้งนี้ คุณสมบัติหลักของผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Renny Express  คือ 

1. เป็นเจ้าของร้าน  

2. มีความพร้อมในการปรับปรุงพื้นที่ 

ร้านค้าชุมชนในประเทศไทยมีจำนวนมากกว่า 300,000 ร้าน  เรนนี่มองว่าอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับร้านค้าชุมชนเหล่านี้ให้มีความสวยงามน่าเข้าไปใช้บริการ  การจัดร้านสะอาด  มีระบบช่วยจัดการเรื่องยอดขาย  กับบริการที่ครบครัน  ก็จะทำให้สามารถแข่งขัน และดำเนินธุรกิจไปได้อย่างมั่นคงยาวนาน  แฟรนไชส์ Renny Express เพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2564 เบื้องต้นคือต้องลงไปพูดคุยปรับทัศนคติ ทำความเข้าใจกับร้านค้าต่าง ๆในฐานของเราให้เปิดใจรับ  จึงมีร้าน Renny Express เปิดให้บริการ 10 แห่งในกทม.  และตั้งเป้าขยายจุดบริการประมาณ 5,000 ร้านค้า”