
บมจ.เครือไทย โฮลดิ้งส์ (TGH) ทำหนังสือแจ้ง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เลิกกิจการอาคเนย์ประกันภัย หลังกลุ่ม TCC ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดีได้จ่ายสินไหมทดแทนประกันภัยโควิด-19 ให้อาคเนย์ประกันภัย-ไทยประกันภัยแล้วกว่า 9,900 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ประธานกรรมการบริหาร เครือไทยโฮลดิ้งส์ (TGH) ได้ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกี่ยวกับมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เรื่องการเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของ บมจ. อาคเนย์ประกันภัย ซึ่งคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีการประชุมกันและเห็นพ้องให้ยกเลิกกิจการอาคเนย์ประกันภัยโดยสมัครใจ และคืนใบอนุญาตประกอบกิจการต่อนายทะเบียนตามมาตรา 57 และ 57/1 แห่งพ.ร.บ.ประกันวินาศภัยพ.ศ. 2535 หลังกลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น (TCC Group) ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้จ่ายสินไหมทดแทนประกันภัยโควิด-19 ให้อาคเนย์ประกันภัย-ไทยประกันภัยแล้วกว่า 9,900 ล้านบาท และทำให้อาคเนย์มีสินทรัพย์สุทธิคงเหลือกว่า 1,800 ล้านบาท และยังสามารถดำรงอัตราส่วนของเงินกองทุนอยู่ที่ประมาณ 170%
ทั้งนี้ เงินและทรัพย์สินของอาคเนย์ประกันภัย ทั้งหมดจะใช้ในการชำระคืนเบี้ยประกันภัยและ ชำระค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกัน รวมถึง การชำระหนี้ต่อผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ ทั้งหมด โดยไม่ได้นำไปชำระหรือคืนให้แก่ผู้ถือหุ้นของอาคเนย์ประกันภัย หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (กลุ่มTCC) แต่อย่างใด
บอร์ดของ TGH เห็นว่ามีข้อพิจารณาที่สำคัญหลายประการที่แสดงให้เห็นว่า การขออนุญาตเลิกประกอบธุรกิจประกันภัยเป็นทางเลือกที่จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนได้เสีย ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยแจกแจง ดังนี้
- กรณีดำเนินธุรกิจต่อไปและถูกเพิกถอนใบอนุญาต : ปัญหาหนี้สินจะเป็นภาระต่อหน่วยงานกำกับ และ กองทุนประกันวินาศภัย ซึ่งอาจมีจำนวนมากถึง 10,000 ล้านบาท
- กรณีขออนุญาตเลิกประกอบธุรกิจโดยสมัครใจ : ไม่เป็นภาระต่อหน่วยงานกำกับ กองทุนฯ หากจัดการกับภาระกรมธรรม์ ประกันภัยทั้งหมดที่มีอยู่อย่างเหมาะสม
ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยที่ไม่เกี่ยวกับโควิดของอาคเนย์ประกันภัย จำนวน 8,629,036 ราย
- กรณีดำเนินธุรกิจต่อไปและถูกเพิกถอนใบอนุญาต : มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับการคุ้มครองตามกรมธรรม์ เนื่องจากขึ้นอยู่กับทรัพย์สินที่เหลืออยู่ของอาคเนย์ประกันภัย และการเยียวยาความเสียหายของกองทุนประกันวินาศภัยฯ ในช่วงระยะเวลาที่เกิดความเสียหายในอนาคต
- กรณีขออนุญาตเลิกประกอบธุรกิจโดยสมัครใจ : ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากผู้ถือกรมธรรม์ จะได้รับการคืนเบี้ยประกันตามสัดส่วน หรือได้รับการคุ้มครองต่อเนื่อง หากย้ายกรมธรรม์ไปยังบริษัทประกันภัยอื่น
ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยโควิด 19 ของอาคเนย์ประกันภัย จำนวน 1,851,921 ราย
- กรณีดำเนินธุรกิจต่อไปและถูกเพิกถอนใบอนุญาต : มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับการคุ้มครองตามกรมธรรม์ เนื่องจากขึ้นอยู่กับทรัพย์สินที่เหลืออยู่ของอาคเนย์ประกันภัย และการเยียวยาความเสียหายของกองทุนประกันวินาศภัยฯ ในช่วงระยะเวลาที่เกิดความเสียหายในอนาคต
- กรณีขออนุญาตเลิกประกอบธุรกิจโดยสมัครใจ : ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากผู้ถือกรมธรรม์ จะได้รับการคืนเบี้ยประกันตามสัดส่วน หรือได้รับการคุ้มครองต่อเนื่อง หากย้ายกรมธรรม์ไปยังบริษัทประกันภัยอื่น
คู่ค้า เช่น อู่ซ่อมรถ โรงพยาบาล ตัวแทน ของ อาคเนย์ประกันภัย 9,000 ราย
- กรณีดำเนินธุรกิจต่อไปและถูกเพิกถอนใบอนุญาต : มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับค่าบริการ หรือได้รับล่าช้า หากอาคเนย์ประกันภัยถูกปิดกิจการและเข้าสู่กระบวนการขอรับชำระหนี้ในขั้นตอนของการชำระบัญชี
- กรณีขออนุญาตเลิกประกอบธุรกิจโดยสมัครใจ : ได้รับชำระอย่างครบถ้วนหากอาคเนย์ประกันภัยยังมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน
พนักงานอาคเนย์ประกันภัย 1,396 คน
- กรณีดำเนินธุรกิจต่อไปและถูกเพิกถอนใบอนุญาต : พนักงานอาจถูกเลิกจ้างกะทันหัน ในกรณีถูกปิดกิจการ และจะได้รับเงินชดเชยล่าช้าเนื่องจากอาคเนย์ประกันภัยมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน
- กรณีขออนุญาตเลิกประกอบธุรกิจโดยสมัครใจ : พนักงานจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมตามแผนงานในการเลิกประกอบธุรกิจตามที่ คปภ. ให้ความเห็นชอบ
[อ่าน 1,702]