ทรู – ดีแทค ผูกขาดหรือไม่ ต้องรอ กสทช. ชุดใหม่ตัดสิน
15 Feb 2022

 

จากกรณีที่จะมีการควบรวมกิจการในธุรกิจโทรคมนาคมระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ‘ทรู’ และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ‘ดีแทค’ นั้น


คณะอนุกรรมการด้านสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ให้ชะลอการพิจารณาการลงมติ การควบรวมกิจการในธุรกิจโทรคมนาคมฯ ดังกล่าว โดยระบุว่า กสทช. เป็นองค์กรที่มีหน้าที่ต้องทำงานอย่างเข้มแข็ง อิสระ เที่ยงตรง เป็นธรรม ในการกำกับดูแลเพื่อประโยชน์สาธารณะ ดังนั้นจะทำเพียงการรับรองการควบรวมไม่ได้ “แต่ต้องยึดเอาผลประโยชน์สาธารณะเป็นหลัก” และการพิจารณาครั้งนี้ควรเปิดทางให้คณะกรรมการ กสทช.ชุดใหม่เข้ามาพิจารณาเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการ กสทช. ชุดใหม่อยู่ระหว่างการรอประกาศการตำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษา


สุภิญญา กลางณรงค์ ประธานอนุกรรมการฯ ได้กล่าวว่า กสทช. มีอำนาจตามประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการกํากับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2561 และประกาศเรื่องมาตรการป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ดังนั้น กสทช. จำเป็นต้องทำหน้าที่กำกับดูแลในฐานะ (Regulator) ไม่ใช่เป็นเพียงนายทะเบียน (Registrar) เพื่อส่งเสริมการแข่งขันเสรีเป็นธรรมในกิจกรรมโทรคมนาคม และ คุ้มครองผู้บริโภค ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและเหตุผลของการมีอยู่ของ กสทช. (Raison d’être)


ประธานอนุกรรมการฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีผู้ให้บริการสามรายใหญ่ในตลาดแต่ยังถือว่ามีการแข่งขันไม่เต็มที่มากนัก จึงเข้าลักษณะตลาดผู้ขายน้อยราย (Oligopoly Market)  แต่ผู้บริโภคยังรู้สึกได้ว่ามีทางเลือกน้อย เพราะผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคมมีอำนาจในตลาดมาก ซึ่งที่ผ่านมาการกำกับดูแลเพื่อผู้บริโภคไม่ได้เข้มแข็ง ดังนั้น หากลดลงเป็น Duopoly คือ รายใหญ่ที่มีอำนาจเหนือตลาดเหลือสองราย จึงเกิดคำถามว่าผลกระทบต่อทางเลือกของผู้บริโภคจะเป็นอย่างไร


ดังนั้น กสทช. ต้องอธิบายถึงผลกระทบต่อการแข่งขันและผู้บริโภคในกรณีของการควบรวมกิจการในธุรกิจโทรคมนาคมฯ และ แผนการกำกับดูแลในอนาคตเพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ แนวทางการบริหารงานของรัฐบาลที่บริหารนโยบายการสื่อสารให้คนในประเทศได้รับทราบข้อมูลในประเด็นที่ว่า หากมีการควบรวมเกิดขึ้น และเหลือเพียงสองรายใหญ่จะมีแนวโน้มไปสู่การสมรู้ร่วมคิดที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงระหว่างหน่วยงานที่แข่งขันกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมตลาด (Collusion) หรือสภาวะตลาดผูกขาด ( Monopoly) ได้เช่นกัน โดยเฉพาะในกิจการที่มีอำนาจเหนือตลาดสูง อีกทั้งการที่มีผู้แข่งขันน้อยราย โดยเฉพาะธุรกิจโทรคมนาคมที่รายใหม่ๆ จะเข้าสู่ตลาดเดิมยากขึ้นและผู้บริโภคจะมีอำนาจน้อยลงไปอีก กสทช. จะมีมาตรการเยียวยาอย่างไร


“ขณะนี้สังคมรอ กสทช. ชุดใหม่มาทำหน้าที่ในการพิจารณาควบรวม เพราะเป็นเรื่องที่ต้องมีความชอบธรรมทั้งทางกฎหมายและทางสังคม ดังนั้น จึงขอให้ กสทช. ชุดรักษาการยุติการพิจารณาเรื่องนี้เพื่อรอให้ กสทช. ชุดใหม่มาเริ่มกระบวนการพิจารณาต่อไป และกลับมากำกับดูแลปัญหาต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้อย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น เช่น ปัญหา SMS หรือ Call center ที่ส่งมาหรือโทรมาหลอกลวง จนทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า” สุภิญญา ระบุ

[อ่าน 1,758]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาสด้าเผยโฉมยนตรกรรมต้นแบบ Vision Models 2 รุ่น ครั้งแรกของโลก ในงาน Japan Mobility Show 2025
เมืองไทยประกันชีวิต น้อมถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2568 ณ วัดธาตุทอง กรุงเทพมหานคร
เคทีซีจับมือไต้หวัน เปิดแคมเปญ “Unseen Taiwan” ดึงนักท่องเที่ยวไทย 4 แสนคน
ทีเส็บ ส่งแรงหนุน สมาคมโฆษณา รีเซ็ตอนาคตธุรกิจ-โฆษณาไทย ด้วยพลัง Humanity
AWC และโรงแรมในเครือ ร่วมสนับสนุนนโยบายภาครัฐ เติมพลังให้การท่องเที่ยวไทย ผ่านโครงการ “เที่ยวดีมีคืน”
OPPO เปิดตัว OPPO Find X9 Series สมาร์ตโฟนซูมดีทุกคอนเสิร์ต
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved