“คาราบาวคัพ” เป็นชื่อฟุตบอลถ้วยซึ่งปัจจุบันเป็นที่รู้จักอย่างดี สำหรับแฟนบอลทั่วโลก เพราะเมื่อกว่า 4 ปีที่แล้ว หลังจากบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุนฟุตบอล ‘’ลีกคัพ’’ อย่างเป็นทางการโดยที่ เครื่องดื่มคาราบาว ได้เซ็นสัญญาในปี 2017 ในการเป็น ‘First partner’ กับสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (EFL) และได้ทำการเปลี่ยนชื่อของการแข่งขันจาก ลีกคัพ เป็น คาราบาวคัพ อย่างเป็นทางการตั้งแต่ฤดูกาลที่ 2017 - 2018 เป็นต้นมา โดยที่สัญญามีระยะเวลาเบื้องต้น 3 ปี (2017-2020) และเมื่อปี 2019 บริษัทได้ตัดสินใจขยายสัญญาเป็นผู้สนับสนุนหลักต่อเนื่องไปอีก 2 ปี (ปี 2021,2022) ซึ่งไคลแม็กซ์ของฤดูกาลแข่งขันปี 2021-2022 กำลังจะเกิดขึ้นใน “นัดชิงชนะเลิศ” วันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ ระหว่าง “ลิเวอร์พูล-เชลซี” 2 ทีมชั้นนำพรีเมียร์ลีก ซึ่งแฟนบอลทั่วโลกต่างตั้งตารอ ก็จะยิ่งช่วยสร้างการรับรู้ของแบรนด์ “คาราบาวคัพ” ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการเป็นผู้สนับสนุนฟุตบอลลีกคัพมาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 5 เป็นกลยุทธ์ส่งเสริมภาพลักษณ์ในการพาแบรนด์เครื่องดื่มไทยบุกตลาดโลก ซึ่งจะส่งผลให้แบรนด์คาราบาวเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ตอบโจทย์วิสัยทัศน์ “สินค้าระดับโลก และแบรนด์ระดับโลก” (World Class Product, World Class Brand) ของคาราบาวกรุ๊ป โดยใช้กลยุทธ์ “สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง” เป็นตัวนำ เพื่อสามารถเข้าถึงคนได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกภาษา ได้ง่าย และเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ “ฟุตบอล” ซึ่งเป็นกีฬาสากล ที่สามารถเข้าถึงคนทั่วโลกได้
นอกจากนี้ ความน่าสนใจของ “ลีกคัพ” ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลเก่าแก่ ที่ยิ่งใหญ่อันดับ 3 ของเมืองผู้ดี รองจากพรีเมียร์ลีก และเอฟเอคัพ ด้วยจำนวนสโมสร 92 ทีมเข้าร่วมแข่งขัน โดย 20 ทีมจากพรีเมียร์ลีก และ 72 ทีมจากฟุตบอลลีกอื่นที่ต่ำกว่า ทำให้การแข่งขันเต็มไปด้วยความหลากหลาย เพราะรวบรวมทีมเล็กใหญ่ และระดับดิวิชั่นเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้การแข่งขันหลายครั้งเกิดปรากฏการณ์ของ “แจ็กผู้ฆ่ายักษ์” ที่ช่วยสร้างสีสันให้กับวงการฟุตบอลอังกฤษ รวมถึงแฟนบอลทั่วโลก
ขณะเดียวกันด้วยรูปแบบการแข่งขันแบบแพ้คัดออกก็ยิ่งทำให้ผู้ชมได้เห็นสปิริตของนักสู้ ที่พร้อมทุ่มเทเต็มที่โดยเฉพาะกับทีมขนาดเล็ก ที่หวังจะแจ้งเกิดจากฟุตบอลถ้วยนี้ ที่สำคัญ สอดคล้องกับหัวใจของแบรนด์ “นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่” ของคาราบาวแดง ที่วางไว้ในการบุกตลาดโลก ที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่ออุปสรรคใดๆ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่นำพาองค์กรและแบรนด์คาราบาว ก้าวสู่แบรนด์เครื่องดื่มระดับโลกในอนาคต
นายเสถียร กล่าวว่า เหตุผลในการเลือกประเทศ “อังกฤษ” เป็นประเทศแรกที่เจาะเข้าไป ด้วยขนาดตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ในยุโรป และติดอันดับ 8 ของโลก การเปิดตลาดที่นี่ได้จึงเปรียบเสมือนใบเบิกทางของเครื่องดื่มคาราบาวแดง ให้เข้าไปสู่ประเทศอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญ การที่คาราบาวและ “ลีกคัพ” มีการหลอมรวมกัน ไม่เพียงจะช่วยให้ภาพของแบรนด์มีความเป็นสากล และโดดเด่นชัดเจนในระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเอื้อต่อการรับรู้ของแบรนด์ให้กับ “ลีกคัพ” ในตลาดอื่นๆ ที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย
“คาราบาวคัพ ไม่เพียงเป็นก้าวสำคัญ และท้าทายในการทำการตลาดของแบรนด์ไทยแบรนด์หนึ่งเท่านั้น แต่จะเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ กับปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ ที่แบรนด์ของคนไทยจะเป็นที่รู้จักในระดับโลก” นายเสถียร กล่าว
นายเสถียร กล่าวเพิ่มเติมว่า การขยายสัญญาเป็นผู้สนับสนุนหลักต่อเนื่องไปอีก 2 ปี (ปี 2021,2022) แสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างแบรนด์ในระดับโลก ซึ่งต้องอาศัยความต่อเนื่อง สำหรับฤดูกาลแข่งขันล่าสุด นับเป็นปีที่ 4 ของคาราบาวกรุ๊ป กับการสร้างแบรนด์องค์กร และสินค้าผ่าน “คาราบาวคัพ” ในตลาดอังกฤษ และยุโรป ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่น (Commitment) ขององค์กร ในการใช้สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง เพื่อตอบโจทย์การสร้างภาพลักษณ์การเป็นแบรนด์เครื่องดื่มระดับโลกอย่างจริงจัง