'KPI' ต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยีและบริการ เสริมทัพพันธมิตรธุรกิจคู่ค้า พร้อมขยายเป้าเบี้ยประกันกว่า 5 พันล้าน ในปี 2565
26 Mar 2022

บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ เคพีไอ (KPI) เผยวิสัยทัศน์ใหม่ปี 2565 เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเชื่อมโยงทุกมิติชีวิต ด้วยเทคโนโลยีและบริการที่ทุกคนเข้าถึงง่าย พร้อมสร้างคุณค่าแก่สังคมไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เร่งต่อยอดธุรกิจในปี 2565 ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับตรงเพิ่มอีกอย่างน้อย 5 พันล้าน ในปี 2565 ผ่านการทำกลยุทธ์ธุรกิจแบบ O2O (Offline-to-Online) ผสานคุณค่าจากธุรกิจออฟไลน์ไปยังออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ตลอดจนการขยายกลุ่มตัวแทน นายหน้า พันธมิตรคู่ค้า มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เคพีไอ ได้มีการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมเข้ามาต่อยอดระบบการทำงาน เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลายเพื่อตอบรับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล

 

 

นอกจากนี้ เคพีไอ ยังตั้งเป้าในการเพิ่มลูกค้าให้ได้จำนวน 5 ล้านรายในปี 2570 ด้วยการนำกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2565 มาปรับใช้และให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจแบบออฟไลน์ร่วมกับ กลุ่มตัวแทน  นายหน้า พันธมิตรคู่ค้าทั่วประเทศ ผสานการใช้โมเดลธุรกิจแบบออนไลน์ ด้วยการใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาออกแบบระบบการทำงาน เพื่อรองรับตัวแทน นายหน้า ให้สามารถบริหารจัดการงานขายทุกกระบวนการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะดวกและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น รวมถึงการมุ่งเน้นการให้บริการลูกค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่จะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงการใช้บริการได้ง่ายขึ้นบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟน นอกจากการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรภายในองค์กร ให้มีทักษะในการนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ในการทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลถึงการสร้างยอดขายและการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างดีที่สุด

 

ดร.พงษ์ภาณุ ดำรงศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปี 2565 นี้ เคพีไอ ได้วางแผนกลยุทธ์การทำงานให้สอดคล้องไปกับวิสัยทัศน์ใหม่ของบริษัทฯ เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกับธุรกิจประกันภัย ที่ต้องปรับตัวอย่างมากให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการแบบใหม่ๆ ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือกับคู่ค้าพันธมิตรธุรกิจ ตัวแทน นายหน้าทั่วประเทศ เพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานได้ง่ายขึ้นและทุกที่ ทุกเวลา ที่เขาต้องการ”

 

เคพีไอ ตั้งเป้าในการผลักดันให้ประกันภัยเข้ามามีบทบาทสำคัญที่จะเชื่อมโยงเข้ากับทุกมิติชีวิตของผู้บริโภคให้มากขึ้น ผ่านแนวคิดในการทำงานดังนี้

  1. การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาพัฒนาระบบการทำงาน เพื่อให้สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่ผู้บริโภคทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ง่าย
  2. การใช้กลยุทธ์ด้านการบริหารงานแบบ O2O (Offline-to-Online) ที่ให้ความสำคัญกับคู่ค้าพันธมิตรธุรกิจ ตัวแทน นายหน้าทั่วประเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นการผสมผสานและสร้างคุณค่าให้กับตัวแทน นายหน้า ด้วยการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมาเพื่อรองรับให้การทำงานของตัวแทน นายหน้าให้คล่องตัวขึ้น เช่น การนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย การนำเสนออัตราเบี้ยประกันภัย การจัดการกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการเชื่อมต่อข้อมูลในระบบของแต่ละตัวแทน นายหน้านั้นๆ ให้สามารถจัดการข้อมูลของตัวเองได้ โดยวางเป้าที่จะเพิ่มจำนวนตัวแทนและนายหน้าอีก 700 ราย ภายในกลางปี 2565 นี้
  3. การพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ เพื่อให้บริการลูกค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ด้วยแนวคิดการออกแบบเฉพาะบุคคล (Personalization) ที่ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลและเข้าถึงบริการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ด้วยตนเอง นอกจากนี้ เคพีไอ ยังมีบริการเสริมอีกมากมายเพื่อให้บริการกับลูกค้า โดยร่วมกับพันธมิตรธุรกิจที่หลากหลาย

 

 

เคพีไอในฐานะบริษัทประกันวินาศภัยสัญชาติไทยที่ดำเนินธุรกิจด้านประกันภัยมาอย่างต่อเนื่องจนย่างเข้าปีที่ 69 และยังเป็นหนึ่งในบริษัทประกันภัยที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจที่มีความมั่นคงด้านการเงิน ล่าสุดข้อมูลอ้างอิงสรุป ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ได้เผยให้เห็นว่าบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 37.88% อยู่ที่ 16,300 ล้านบาท และมีรายได้เบี้ยประกันภัยตรงรับรวมเติบโตถึง 15.44% อยู่ที่ 4,540 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2563

 

“เคพีไอ ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ที่ก่อให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่ธุรกิจประกันวินาศภัยจะเติบโตไปได้อีกมาก จึงถือเป็นโจทย์ที่สำคัญและท้าทายของบริษัทฯ ที่จะต้องเร่งปรับกลยุทธ์องค์กรให้สอดรับกับสิ่งใหม่นี้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันสูง มีเทคโนโลยีและเทรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เคพีไอจึงให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เข้าถึงง่ายบนแพลตฟอร์มดิจิทัล การพัฒนาช่องทางการขายบนระบบออนไลน์ การพัฒนาความสัมพันธ์กับคู่ค้าใหม่ ๆ เพื่อเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจองค์กร ตลอดจนการดำเนินธุรกิจที่ควบคู่กับการสร้างคุณค่า ดูแลคนในสังคม คำนึงถึงผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อบรรลุเป้าหมายของการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน” ดร. พงษ์ภาณุ กล่าวสรุป

[อ่าน 1,049]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'RS' ยกทัพศิลปิน-ดารา ลุยสนามคอมเมิร์ซ ประเดิมส่งศิลปินตัวแม่ “ใบเตย อาร์สยาม”
เอไอเอส X กสทช. ดูแลผู้พิการรอบด้าน ตอกย้ำดิจิทัลเป็นหัวใจการสร้างความเท่าเทียมแก่ทุกกลุ่ม
เอสซีจี ขนกองทัพนวัตกรรมจาก 10 แบรนด์ชั้นนำ ร่วมงานสถาปนิก 67
“โยเกิร์ต - ณัฐฐชาช์ บุญประชม” อวดแฟชั่นจากแบรนด์ MISTY MYNX คอลเลกชั่นล่าสุด
เอไอเอ ประเทศไทย มอบรางวัลเกียรติยศแก่สุดยอดตัวแทน “ที่สุดแห่งปี” AIA Annual Agency Awards Presentation 2023
Coach เปิดตัว The Coach Tabby Shop ลาน PARC PARAGON
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved