Google ปลื้มโครงการ “Saphan Digital” หลังฝึกอบรมเอสเอ็มอี กว่า 100,000 ราย เดินหน้าพัฒนาหลักสูตรและเข้าถึงคนไทย
21 Apr 2022

 

กูเกิล (Google) จับมือพันธมิตรโชว์ยอดโครงการสะพานดิจิทัล" (Saphan Digital) ฝึกอบรมธุรกิจรายย่อย (เอสเอ็มอี) ไทยใช้ดิจิทัล 2 ปีเข้าเป้า 100,000 ราย เล็งเดินหน้าพัฒนาหลักสูตรเป็นมาตรฐานอาเซียนและเข้าถึงคนไทยทั่วประเทศมากขึ้น มั่นใจโตได้อีกมาก เพราะสถิติชี้ธุรกิจไทยกระทบพิษโควิด-19 เกิน 1 ล้านราย ย้ำทุกอย่างฟรีและเปิดกว้าง แถมไม่มีแผนนำฐานข้อมูลเอสเอ็มอีไทยไปต่อยอดธุรกิจ

 

อภิชญา เตชะมหพันธ์ หัวหน้าฝ่าย Google Customer Solutions ประจำประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์โรคระบาดทำให้ GDP ของประเทศไทยลดลง 6.1 เปอร์เซ็นต์ในปี 2564 เป็นการหดตัวครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ขณะเดียวกัน ธุรกิจเอสเอ็มอีไทยที่มีจำนวนกว่า 3 ล้านราย ยังมีส่วนช่วยสนับสนุน GDP ของประเทศไทยถึง 45% และการว่าจ้างงานในประเทศถึง 86% อย่างไรก็ตาม มีการประเมินว่าเอสเอ็มอีไทยกว่า 1.34 ล้านรายได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับ Google ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนเพื่อช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีตามแนวคิด Leave No Thai Behind จนเกิดเป็นโครงการ Saphan Digital ซึ่งล่าสุดโครงการนี้ได้บรรลุเป้าหมายในการช่วยฝึกฝนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสำเร็จแล้วกว่า 100,000 ราย จากยอดผู้เข้าฝึกอบรมทั้งหมดกว่า 120,000 ราย

"จากเอสเอ็มอีไทยทั้งหมด 3 ล้านราย เชื่อว่าได้รับผลกระทบ 1 ล้านราย เมื่อหักจากที่อบรมไปแล้ว 1 แสนราย แสดงว่ายังมีพื้นที่ให้โครงการนี้เติบโตได้อีก โดย Google จะเน้นติดตามผลว่าที่สอนไปมีประโยชน์อย่างไร และวางเป้าหมายให้เอสเอ็มอีทั่วประเทศเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น"

 

 

ดร. สรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า

“โครงการนี้เกิดจากนโยบายของท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ท่านจุรินทร์ ลักษณะวิสิษฐ์  โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Google ประเทศไทย มีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนคนไทยและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถเข้าถึงเครื่องมือด้านดิจิทัลต่างๆ ได้อย่างเท่าเทียม นับได้ว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ครั้งนี้เราได้ช่วยผลักดันนโยบายภาครัฐให้มีการทำงานร่วมกับภาคเอกชนที่เข้มแข็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งต่อองค์ความรู้และส่งเสริมการพัฒนาในมิติด้านเทคโนโลยีดิจิทัลไปสู่ภาคประชาชน”

 

 

“Saphan Digital” เป็นโครงการที่ริเริ่มขึ้นตั้งแต่ ..2563 โดย Google ประเทศไทยได้ทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และองค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความรู้ด้านดิจิทัลแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร (NGO) และบุคคลทั่วไปที่สนใจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและการสร้างอาชีพ 

 

ความสำเร็จล่าสุดของโครงการ Saphan Digital อยู่ที่การบรรลุตามเป้าหมายในการฝึกอบรมให้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจำนวนมากกว่า 100,000 ราย ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ Google ได้ประกาศถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการเข้าถึงเครื่องมือดิจิทัล การเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากทักษะดิจิทัลจากผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งเพื่อช่วยผลักดันการฟื้นฟูเศรษฐกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย และเพิ่มขีดความสามารถในการก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน

 

 

“Saphan Digital” เป็นโครงการที่ริเริ่มขึ้นตั้งแต่ .. 2563

จากยอดผู้เข้าฝึกอบรมทั้งหมดกว่า 120,000 ราย ผลการวิจัยความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมโครงการของ Kantar Google Impact Research พบว่า 99% ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเห็นด้วยว่าได้เรียนรู้ทักษะดิจิทัลใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ และ 75% กล่าวว่าโครงการนี้ได้ช่วยให้ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้ในช่วงโควิด-19 สถิตินี้ถูกนำมาสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของตัวโครงการ โดยไม่มีการอิงจากรายได้แต่อย่างใด

 

 

ในผู้ลงทะเบียนอบรม 120,000 ราย พบว่ากว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมโครงการสะพานดิจิทัลเป็นผู้หญิง โดยผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่มาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล รองลงมาเป็นเชียงใหม่ ลพบุรี ภูเก็ต และขอนแก่น ขณะที่ผู้ประกอบการ 1 แสนรายในโครงการส่วนใหญ่เป็นธุรกิจประเภทอาหารและเครื่องดื่ม รองลงมาเป็นแฟชั่น ค้าปลีก การบริการ และสุขภาพความงาม

 

โครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจ Google เรื่องการช่วยสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่สามารถเป็นประโยชน์ได้กับทุกคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปี 2573 สำหรับความรู้ทักษะดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา Google วางแผนว่าในปีข้างหน้า จะมีการอัปเดตเนื้อหาการเรียนรู้ให้เป็นปัจจุบันยิ่งขึ้น พร้อมกับขยายการประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงเอสเอ็มอีเพิ่มเติม

 

สำหรับแนวทางการพัฒนาหลักสูตรในอนาคต ผู้บริหารระบุว่า ผู้ประกอบการ SME มีเวลาน้อย และการอบรมบางบทเรียนต้องใช้เวลา แต่จากนี้จะปรับให้ผู้ที่มีเวลาน้อยสามารถเรียนได้ และปรับให้เนื้อหามีความสอดรับกับเครื่องมือที่เป็นปัจจุบันมากขึ้น

 

การอบรมทั้งหมดเกิดขึ้นฟรี ไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายและเปิดรับทุกกลุ่มธุรกิจ โดยการร่วมมือกับภาครัฐนั้นเกิดขึ้นบนความเข้าใจถึงความจำเป็นของเอสเอ็มอีในการพัฒนาความสามารถด้านดิจิทัล ส่วนด้านเนื้อหาจะเป็นความร่วมมือกันกับพันธมิตรเอกชน พันธมิตรส่วนนี้จะแบ่งออกเป็นพันธมิตรด้านองค์ความรู้และพันธมิตรด้านเครื่องมือ ประกอบด้วยเทพช็อป เบนโตะเว็บ สเกาท์เอาท์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทรู ดิจิทัล พาร์ค สํานักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ และดิ เอสเคิร์ฟ

 

"ทั้งหมดนี้ไม่มีการมุ่งสอนเครื่องมือของ Google แต่เน้นสอนทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ ผู้สอนสามารถนำเครื่องมือฟรีไปใช้สอนเพื่อให้เกิดประโยชน์ได้ พันธมิตรของโครงการนี้มีทั้งรายใหญ่ รายเล็ก และสตาร์ทอัป ทุกรายมีทูลส์ มีเครื่องมือที่เข้ากับเอสเอ็มอีที่มีความแตกต่างกัน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อสอนการใช้เครื่องมือที่หลากหลาย ซึ่งเอสเอ็มอีสามารถเลือกใช้แบบที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด"

 

 

การร่วมมือกับกรมธุรกิจการค้า จะเป็นกุญแจสู่การขยายฐานผู้อบรมส่วนหัวเมืองเล็ก เพื่อเจาะให้ได้ถึงเอสเอ็มอีระดับอําเภอ และตําบลในอนาคต ในภาพรวม ผู้บริหาร Google ชี้ว่าแนวทางการปรับหลักสูตรเพื่อเอสเอ็มอีในอนาคตคือการปรับตามแนวโน้มที่เกิดขึ้นในระดับภูมิภาค ทำให้วางแผนต้องจัดการอบรมให้เป็นมาตรฐานของภูมิภาคอาเซียน ไม่ใช่เพียงแค่เป็นหลักสูตรที่เป็นมาตรฐานสำหรับเอสเอ็มอีไทยเท่านั้น

 

ผู้บริหาร Google ย้ำด้วยว่าโครงการนี้ไม่มีแผนใช้ประโยชน์ทางธุรกิจจากฐานข้อมูลเอสเอ็มอีที่ลงทะเบียนในโครงการ 100,000 ราย โดยฐานข้อมูลส่วนใหญ่จะถูกเก็บเพื่อการสำรวจและวิจัยพัฒนา ขณะที่พันธมิตรด้านธนาคารจะเน้นให้ความรู้เท่าทันเรื่องการเงิน ไม่ได้เน้นโฆษณาเพื่อให้สินเชื่อแก่เอสเอ็มอี แต่อาจจะมีการเจรจาต่อได้เพื่อสนับสนุน SME ในอนาคต

[อ่าน 1,633]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บีโอไอชู Thailand FastPass เร่ง “บราสเคม สยาม” เดินหน้าเอทิลีนชีวภาพรายแรกในเอเชีย ตั้งเป้าเสร็จปี 2571
ACSC ผนึก Meta–หน่วยงานต่างประเทศ เปิดปฏิบัติการ “Joint Disruption Week” กวาดล้างแก๊งสแกมข้ามชาติในอาเซียน
สเปอร์ส–ลิเวอร์พูล ดวลเดือดนัดพิเศษ ชูพลังฟุตบอลระดมทุนช่วยผู้ป่วยมะเร็งเด็ก วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคมนี้
เดอะมอลล์ ผนึก เอกชนสุขุมวิท ทุ่ม 200 ล้าน สร้าง “EXTRAVAGANZA SUKHUMVIT COUNTDOWN 2026” ดันสุขุมวิทสู่แลนด์มาร์กเคานต์ดาวน์โลก
WELOVEGOLF Tournament 2025 ผสานพลังสมาชิกและพันธมิตร ส่งมอบความรักและความสุข ให้น้องๆ
กสิกรไทยเดินหน้าเศรษฐกิจสีเขียว จับมือกรมลดโลกร้อน หนุนผู้ประกอบการเข้าโครงการ G-Green
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved