พัฒนามาจาก FUTURECRAFT.FOOTPRINT โดยคงคอนเซ็ปต์การผลิตรองเท้ากีฬาที่มีคาร์บอนฟุตพรินท์จากการผลิตน้อยที่สุดของทั้งอาดิดาสและออลเบิร์ดส วางจำหน่ายทั้งหมด 3 สี ในราคา 4,500 บาท ที่ อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์, อาดิดาส สปอร์ต เพอร์ฟอร์แมนซ์, อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์ www.adidas.co.th และ อาดิดาส แอปพลิเคชัน

อาดิดาส และ ออลเบิร์ดส เปิดตัว ADIZERO X ALLBIRDS 2.94 KG CO2E รองเท้าวิ่งที่มีคาร์บอนฟุตพรินท์จากการผลิตน้อยที่สุด ที่ทั้งสองแบรนด์เคยผลิต

หลังเปิดตัวรองเท้าวิ่ง FUTURECRAFT.FOOTPRINT เมื่อปลายปีที่ผ่านมา อาดิดาส และ ออลเบิร์ดส ได้ต่อยอดการพัฒนารองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ โดยในครั้งนี้ทั้งสองแบรนด์ต้องการแสดงให้เห็นว่าการผลิตรองเท้าวิ่งที่มีคาร์บอนฟุตพรินท์ต่ำนั้นสามารถขยายขนาดการผลิตได้ ซึ่งรองเท้าวิ่ง ADIZERO X ALLBIRDS 2.94 KG CO2E นั้นมีปริมาณคาร์บอนฟุตพรินท์ จากการผลิตอยู่ที่ 2.94 กิโลกรัมต่อการผลิตรองเท้า 1 คู่ ทำให้ทั้ง อาดิดาส และ ออลเบิร์ดส เป็นผู้ผลิตรองเท้ากีฬาที่สามารถลดปริมาณคาร์บอนฟุตพรินท์ในการผลิตให้ต่ำกว่า 3 กิโลกรัมต่อคู่ได้สำเร็จ

สำหรับการเปิดตัวในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทั้งสองแบรนด์ เนื่องจากการวางจำหน่ายในครั้งนี้มีปริมาณสินค้าที่มากกว่าครั้งที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมที่มีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อทั้งสองแบรนด์ร่วมมือกัน การผลิตมีการนำความชำนาญของและแบรนด์มาผสมผสาน เพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจากการใช้วัสดุที่น้อยที่สุด เพื่อสร้างรองเท้ากีฬาเพื่อโลกใบนี้ให้แก่นักวิ่งทุกคน

ในการผลิตรองเท้าวิ่ง ADIZERO X ALLBIRDS 2.94 KG CO2E จำนวน 1 คู่จะมีปริมาณคาร์บอนฟุตพรินท์อยู่ที่ 2.94 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่น้อยกว่าการผลิตรองเท้าวิ่งคู่อื่นถึง 63% อีกทั้งยังไม่มีการย้อมสีเพื่อลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตอีกด้วย นั่นจึงทำให้รองเท้าวิ่งรุ่นนี้มีทั้งวิธีการออกแบบที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง มีทางเลือกใหม่ในกระบวนการผลิตที่สามารถลดผลกระทบจากคาร์บอนได้มากที่สุดอีกด้วย

คิเมีย ยารากเชียน (Kimia Yaraghchian) ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของอาดิดาส กล่าวว่า “จากการที่พวกเราได้ร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง เราจึงหวังว่าเราจะเป็นผู้เริ่มต้นบุกเบิกหนทางใหม่ๆในการผลิตรองเท้าและเสื้อผ้าเพื่อให้ผู้อื่นได้เจริญรอยตาม เพราะเมื่อทุกคนร่วมมือกัน เราจะสามารถพัฒนาการผลิตจนอยู่ในระดับที่ไม่มีการปล่อยคาร์บอนฟุตพรินท์ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ พวกเราก็ตั้งใจจะแสดงให้เห็นว่าความเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่และหนทางใหม่ๆ สามารถเกิดขึ้นได้โดยใช้ระยะเวลาอันสั้น ในขณะนี้เราทุกคนกำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ดังนั้น การแสดงให้ทุกคนเห็นว่าภาคอุตสาหกรรมสามารถพลิกสถานการณ์ได้นั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้ทุกคนยังมีความหวังในการรักษาอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกนั้นไม่ให้เพิ่มขึ้นสูงเกินกว่า 1.5 องศาตามเป้าหมาย”

“การเปิดตัวรองเท้าวิ่ง ADIZERO X ALLBIRDS 2.94 KG CO2E ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การมีเป้าหมายร่วมกันทำให้เราสามารถขยายการผลิตรองเท้าวิ่งที่มีปริมาณคาร์บอนฟุตพรินท์ต่ำได้ จากจุดเริ่มต้นของโครงการนี้ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เราได้นำหลายสิ่งหลายอย่างที่เราได้เรียนรู้จากการดำเนินการมาผสมผสานเพื่อสร้างรองเท้าวิ่งที่ช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนฟุตพรินท์ได้อย่างรวดเร็ว สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนรอติดตามรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ๆ ที่จะมาสะเทือนวงการในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน” คิเมีย ยารากเชียน กล่าวเสริม

ส่วนทางด้าน ฮานะ คาจิมูระ (Hana Kajimura), หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนของออลเบิร์ดส กล่าวว่า “การร่วมมือกันระหว่าอาดิดาสและออลเบิร์ดสถือเป็นการเดินทางที่ยอดเยี่ยมมาก พวกเรารู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่ได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมสูงให้แก่ผู้บริโภคจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งการร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องก็ได้ทำให้เกิดรองเท้าในเฉดสีใหม่ๆ รวมถึงจำนวนสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นก็ถือเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดเจนว่าเราสามารพัฒนาได้มากแค่ไหน หากเราเลือกร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีเป้าหมายเดียวกัน”

“แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของโลกนั้นเป็นความท้าทายที่ยากต่อการจัดการแก้ไข แต่ความสำเร็จของโครงการนี้ถือเป็นตัวอย่างของการร่วมมือกันระหว่างเราที่ทำให้เกิดรองเท้ากีฬาที่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังเป็นมิตรต่อโลกใบนี้อีกด้วย สำหรับความใฝ่ฝันสูงสุดของเราที่มีต่อรองเท้าคู่นี้ก็คือ การจุดประกายแรงบันดาลใจให้ทุกคนมองหาการพัฒนากระบวนการผลิต และการร่วมมือกับผู้อื่นเพื่อออกแบบผลงานที่จัดการปัญหาคาร์บอนฟุตพรินท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง”

รองเท้าวิ่ง ADIZERO X ALLBIRDS 2.94 KG CO2E ประกอบด้วยนวัตกรรมต่างๆ ดังนี้

• Bio-based EVA – พื้นรองเท้าชั้นกลางที่ผลิตจากอ้อย 17% ทำให้เกิดคาร์บอนในการผลิตต่ำ ผสมผสานกับวัสดุต่างๆ ที่มาจากธรรมชาติ พื้นรองด้านในก็มีการใช้วัสดุจากอ้อย 46% ขณะที่ชิ้นส่วนลิ้นรองเท้าและโฟมบริเวณส้นเท้านั้นมีการใช้วัสดุชนิดนี้ 17%
• Outsole innovation – 10% ของพื้นรองเท้าด้านนอกผลิตจากวัสดุยางรีไซเคิลที่มีน้ำหนักเบา และมีความหนาเพียง 1-1.2 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถลดปริมาณคาร์บอนฟุตพรินท์ได้มากกว่าเมื่อเทียบกับพื้นรองเท้าแบบอื่นๆ
• Removal of the torsion bar – การถอดแกนกลางของรองเท้าออกไปนั้นไม่เพียงแต่เป็นการลดการใช้วัสดุ แต่ยังทำให้รองเท้าคู่นี้มีความยืดหยุ่นในระหว่างการวิ่งอีกด้วย
• Tangram design creation – ตัวรองเท้าและโครงสร้างของพื้นรองเท้าชั้นนอก ได้แรงบันดาลใจมาจากแผ่นตัวต่อในรูปทรงเรขาคณิต (Tangram Principle) โดยวัสดุแต่ละชิ้นถูกผลิตแยกชิ้นกันเพื่อลดการเกิดขยะให้ได้มากที่สุด ก่อนจะนำมาประกอบเข้ากับพื้นรองเท้า
• Upper material – ตัวรองเท้าถูกผลิตขึ้นจากวัสดุรีไซเคิลโพลีเอสเตอร์ 77% และวัสดุผ้าจากธรรมชาติ 23% โดยใช้เส้นใยที่ได้มาจากการปลูกป่าไม้อย่างยั่งยืน เพื่อให้ได้สัมผัสที่นุ่มนวลและมีน้ำหนักเบามากพอสำหรับการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบจากคาร์บอนอีกด้วย
• Features with 100% recycled polyester – ชั้นบุด้านในรองเท้า, เชือกรองเท้า และเส้นด้ายในการเย็บบริเวณต่างๆ นั้นมีการใช้วัสดุรีไซเคิลโพลีเอสเตอร์ 100%
• Carbon footprint callout for transparency – มีการระบุส่วนประกอบต่างๆ ไว้ที่บริเวณลิ้นรองเท้า เพื่อแสดงถึงปริมาณคาร์บอนฟุตพรินท์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดตลอดกระบวนการผลิต

รองเท้าวิ่ง ADIZERO X ALLBIRDS 2.94 KG CO2E จะวางจำหน่ายทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว, สีเทา และสี adidas Exclusive ในราคา 4,500 บาท ที่ อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์, อาดิดาส สปอร์ต เพอร์  ฟอร์แมนซ์, อาดิดาส แอปพลิเคชัน, อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์ www.adidas.co.th ช่องทาง LINE: @adidasthailand รวมถึงร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำทั่วประเทศ