ปิยชาติ รัตน์ประสาทพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด ก้าวข้ามปีที่ 19 ครองเบอร์ต้นผู้นำแพลตฟอร์มการชำระเงินระดับโลก เดินกลยุทธ์จับมือแบรนด์ระดับโลกเพื่อขยายฐานการค้า พร้อมเพิ่มทุนเปิดตัวบริการใหม่ และปรับแต่งผลิตภัณฑ์ใหม่ ปักธงรายได้สิ้นปีโต 2,000 ล้านบาท
ปิยชาติ รัตน์ประสาทพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า
ทิศทางและนโยบายการดำเนินธุรกิจของทูซีทูพี ตลอดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ทูพีทูซี มีการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและมั่นคง จนขึ้นแท่นผู้นำแห่งแพลตฟอร์มการชําระเงินชั้นนําในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทูซีทูพียังเป็นผู้เชื่อมต่อระหว่างแบรนด์ระดับโลกเข้าถึงตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเชื่อมต่อบริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เข้าถึงลูกค้าทั่วโลก
โดยปัจจุบันทูซีทูพีให้บริการลูกค้าหลากหลายรูปแบบ อาทิ บริการ Payment Gateway การรับชำระเงินออนไลน์ด้วยบัตรเครดิตหรือเดบิต บริการ Qwik สำหรับร้านค้าที่ขายผ่านโซเชียล เน็ตเวิร์คกิ้ง (social commerce) บริการออกกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ออกบัตรเวอร์ชัวร์ ออกบัตร Prepaid ทั้ง MasterCard และ Visa และบริการ easyBills ศูนย์รวมการจ่ายบิลสาธารณูปโภคด้วยบัตรเครดิต รวมทั้ง easy2Send การให้บริการโอนเงินข้ามประเทศ
“ในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่ามีปริมาณธุรกรรมมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัจจัยในการสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจ คือการที่เรามีเครือข่ายพันธมิตรและผู้ค้าที่กว้างขวาง เช่น ธนาคาร ผู้ให้บริการรับชำระเงินต่างๆ และผู้ค้าที่มีความแข็งแกร่งมั่นคงในระดับภูมิภาค อาทิ Grabpay Shopeepay และ HOOLAH นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัจจัยการเติบโตคือ ทูซีทูพี ยังเข้าถึงการให้บริการที่ไร้รอยต่อในภาคอุตสาหกรรมและประเภทธุรกิจอื่นๆ มากมาย เช่น การจับมือพันธมิตรกับแบรนด์แฟชั่นระดับโลก บริษัทประกันภัย ภาคการบิน รวมถึงการพัฒนาการบริการในด้านผู้ค้าที่มีอยู่ เช่น สินค้าและบริการดิจิทัล รวมถึงการทำธุรกรรมชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือโซลูชั่นเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรม รวมถึงโซลูชั่นเพิ่มเติมสำหรับ SME เป็นต้น จึงทำให้สามารถทำรายได้ในปีที่ผ่านมาสูงถึง 2,000 ล้านบาท” ปิยชาติ กล่าว
ปิยชาติ กล่าวต่อว่า เพื่อการพัฒนาและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง บริษัทฯ ได้กำหนดกลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้คือ การรักษาคุณภาพของการให้บริการไว้ และเพิ่มจุดแข็งในความรวดเร็วของการให้บริการที่มากขึ้น นอกจากนี้ต้องขยายตัวเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ที่ลึกมากขึ้น และเพิ่มฐานการค้าในทุกอุตสาหกรรมและทุกประเภทธุรกิจ โดยเฉพาะแบรนด์ดังระดับโลก นอกจากนี้ยังมีแผนในการปรับปรุงและพัฒนาบริการ ผลิตภัณฑ์ พร้อมลงทุนในเทคโนโลยีที่มีอยู่ตอนนี้ เพื่อขยายทีมในการให้บริการและเข้าถึงตลาดที่ต้องการ
ทั้งนี้ ภาพรวมธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีการเติบโต และคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายด้านอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มขึ้น จาก 162% เป็น 179.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 ทั่วทั้งภูมิภาค โดยการชำระเงินดิจิทัลคิดเป็น 91% ของการชำระเงินอีคอมเมิร์ซทั้งหมด ทั้งนี้การกลับมาของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการหลังเปิดประเทศจะเริ่มเห็นมากขึ้นทั่วทั้งภูมิภาค ในแง่ของตลาดอีคอมเมิร์ซ คาดว่าอนาคตตลาดที่ใหญ่ที่สุด ได้แก่ อินโดนีเซีย (83 พันล้านดอลลาร์) เวียดนาม (29 พันล้านดอลลาร์) และ ไทย (24 พันล้านดอลลาร์) ตามลำดับ เช่นเดียวกับสถานการณ์ตลาดอีเพย์เมนต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่คาดว่าจะเติบโตมีมูลค่าถึงประมาณ 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2573 และสำหรับในประเทศไทยยังพบว่า ประชากรส่วนใหญ่นิยมใช้สมาร์ทโฟน ทำให้กระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นวิธีการชำระเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทยเช่นกัน ซึ่ง ทูซีทูพีได้มองเห็นถึงโอกาสและช่องทางในการขับเคลื่อนธุรกิจ ภายใต้เศรษฐกิจแห่งอนาคตหลังจากนี้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทูซีทูพีให้บริการผู้ค้ากว่า 10,000 รายจากทุกกลุ่มธุรกิจ รวมถึงยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ตลาดออนไลน์ ผู้ค้าปลีก และองค์กรระดับโลกอื่นๆ รวมทั้งผู้ค้ารายสำคัญบางรายของเราในประเทศไทย ได้แก่ ลาซาด้า การบินไทย โรงแรมในกลุ่มบริษัทไมเนอร์ ไปรษณีย์ไทย เป็นต้น นอกจากนี้ทูซีทูพียังเชื่อมต่อกับธนาคารชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนวิธีการชำระเงินทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เรียกว่าคลอบคุมมากที่สุด ทั้งนี้บริษัทยังตั้งเป้ารายได้สิ้นปีนี้เพิ่มขึ้น 25 - 30% จากปีที่ผ่านมา ปิยชาติ กล่าวทิ้งท้าย