AWC เผยไตรมาส 1/2565 มีกำไรสุทธิตามงบการเงิน 645 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 200
11 May 2022

 

AWC เผยไตรมาส 1/2565 มีกำไรสุทธิตามงบการเงิน 645 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 200 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มั่นใจกลุ่มธุรกิจในเครือแข็งแกร่งและสามารถกลับมาแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในปี 2565 รับมาตรการเปิดประเทศของรัฐบาล

 

 

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 มีรายได้รวมตามงบการเงิน 2,782 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 151 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นกำไรสุทธิตามงบการเงิน 645 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 200 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

โดยผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 1/2565 ของบริษัทมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะยังคงมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนระดับที่สูงในช่วงต้นปี แต่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าการแพร่ระบาดครั้งก่อนหน้านี้ เนื่องจากสายพันธุ์ดังกล่าวมีอาการที่น้อยกว่าและประชาชนได้รับวัคซีนในอัตราที่สูง จึงทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ประกอบกับผลดี  จากนโยบายการเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศที่มีแนวโน้มพัฒนาไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้นนับตั้งแต่เกิดการระบาดส่งผลให้ทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัทมีการฟื้นตัวและเติบโตขึ้นอย่างมากแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับกลยุทธ์การดำเนินงานตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงทีและสร้างความเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายในปีนี้ และก้าวกระโดดต่อไปในอนาคต

“ผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2565 ถือเป็นไตรมาสแรกของปีที่มีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มต้นการแพร่ระบาดของ COVID-19 ชี้ให้เห็นสัญญาณบวกของเศรษฐกิจในภาพรวมที่กลับมาฟื้นตัว ซึ่งทาง AWC มั่นใจว่ากลุ่มธุรกิจต่างๆ ในเครือจะสามารถกลับมาแข่งขันและดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งปี 2565 นี้” นางวัลลภา กล่าว

 

โดยบริษัทมีกำไรสุทธิจากผลประกอบการโดยไม่รวมมูลค่ายุติธรรม เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการดำเนินงานของทรัพย์สินคุณภาพของบริษัทที่ตอบรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวหลังเริ่มมีการเปิดประเทศ

 

ทั้งนี้ รายได้รวมของบริษัทในไตรมาสดังกล่าว เพิ่มขึ้นจากอัตราการเข้าพักในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการในตลาด High-to-Luxury ที่ถือเป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัทมีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน โดยพบว่าโรงแรมของกลุ่มบริษัทมีค่าผลการดำเนินงานเทียบกับโรงแรมคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยโรงแรมที่มีค่า RGI (Revenue Generating Index) สูงสุดอยู่ที่ 245.9 รวมถึงการกลับมาฟื้นตัวของกลุ่มโรงแรมสำหรับประชุมสัมมนา (MICE) ซึ่งได้รับอานิสงส์จากนโยบายการเปิดประเทศ และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของทางภาครัฐ  ส่วนในกลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติเนื่องจากธุรกิจเริ่มฟื้นกลับตัว ทำให้มีจำนวนของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วงต้นปีมีหลากหลายเทศกาลสำคัญที่ช่วยหนุนให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น

 

 

ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน มีจำนวนผู้เช่ารายใหม่เข้ามาทำสัญญาการเช่าพื้นที่สำนักงาน บนทำเลที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความเชื่อมั่นในมาตรฐานการให้บริการ การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ รวมถึงปัจจัยด้านมาตรการกำกับดูแลสุขอนามัยและความปลอดภัยของอาคารสำนักงานเกรด A และ A- ของทางบริษัทที่ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ตอกย้ำถึงกลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตทรัพย์สินของบริษัท (Well-Diversified) ซึ่งทำให้ AWC สามารถลดความผันผวนของระดับรายได้ และยังคงมีผลการดำเนินงานที่มั่นคงและแข็งแรง

นอกจากนี้บริษัทมีโปรแกรม AWC Infinite Lifestyle เชื่อมโยงการให้บริการของทุกกลุ่มธุรกิจผ่านทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์การและความ พึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้มาใช้บริการ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างฐานลูกค้าและเพิ่มแรงจูงใจในการเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสะดวกรวดเร็วไร้รอยต่อ สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

ตลอดช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วงเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทยังคงเดินหน้าปรับกลยุทธ์ในการดำเนินงานต่างๆ เพื่อวางรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ร่วมสร้างคุณค่าในระยะยาว และเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยในปี 2565 ทางบริษัทเริ่มต้นแผนการดำเนินงานด้วยการเปิดโครงการเดอะ ล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งใหม่ริมสายน้ำเจ้าพระยาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา พร้อมด้วยแผนการผลักดันเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวระดับลักชัวรี่ของภูมิภาค ด้วยการเปิดโรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ โรงแรมจากเครือมีเลีย แห่งแรกของภาคเหนือ ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

 

 

AWC มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าพัฒนาโครงการคุณภาพเพื่อเสริมศักยภาพและเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า รวมถึงการพัฒนาให้เป็นทรัพย์สินที่สามารถสร้างกระแสเงินสดให้แข็งแกร่ง สะท้อนถึงการเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ของบริษัทให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ผ่านกลยุทธ์การดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกในการสร้างคุณค่าในระยะยาวร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อช่วยยกระดับการแข่งขันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการ รวมถึงกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล ภายใต้พันธกิจ “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” ไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

[อ่าน 1,663]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เซ็นทรัล รีเทล Q1/68 รายได้ 69,280 ล้าน กำไร 2,337 ล้าน เดินหน้าขยายธุรกิจในไทย-ต่างประเทศ
ทรู คอร์ปอเรชั่น เสร็จ 100% Network Modernization ภูเก็ต ยกระดับประสบการณ์ 5G พร้อมขยายทั่วไทย
“realme GT 7 Series” เตรียมยึดบัลลังก์นักฆ่าเรือธงแห่งปี มือถือตัวท็อปที่แรงเกินต้าน ชิปเซ็ตแรงจัด แบตใหญ่ ชาร์จไวสุด
ASW จับมือ “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด” และ “รอยัล คลิฟ” ปลุกพลังเด็กไทยโชว์ศักยภาพฟุตบอล-เทนนิส
"พฤกษา” เปิดไตรมาสแรก ปี 2568 แข็งแกร่ง เดินหน้ารุกอสังหาฯ – เฮลท์แคร์เต็มสปีด
ออริจิ้น เวอร์ติเคิล ปลุกกำลังซื้อ รับมาตรการรัฐกระตุ้นอสังหาฯ

MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved