ไรมอน แลนด์ (Raimon Land) ผู้นำตลาดอสังหาที่เจาะตลาด Luxury และ Ultra Luxury รายแรกๆ ของไทย ประกาศยุทธศาสตร์สร้าง Corporate Brand ให้แข็งแรง มุ่งเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งระดับประเทศ และระดับโลกด้วย Collaboration Strategy พร้อมปักหมุดแนวรบ Branded Residence เพื่อยกระดับสินค้าและบริการของโครงการให้ได้ตามมาตรฐานโลกเผยปีนี้เตรียมปล่อยโครงการอย่างต่อเนื่อง เปิดช่องสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) และขยายฐานไปทำธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์อีกด้วย
ทั้งนี้ กรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไรมอน แลนด์ (RML) ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ของประเทศไทย เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์ปี 2565 ว่า ไรมอน แลนด์ มุ่งเดินยุทธศาสตร์เพื่อให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในหลากหลายแนวทาง ประกอบด้วย
Branded Residence
ไรมอนด์แลนด์ เดินหน้าจับมือกับพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ สร้าง Collaboration พร้อมส่งโครงการ Branded Residence เป็น Flagship Project ในปีนี้ด้วยสัดส่วน70-80% และใช้แบรนด์ของไรมอนแลนด์เองบ้างเล็กน้อย
ทั้งนี้ กรณ์ เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์นี้ว่า “เนื่องจาก Branded Residence เป็นเทรนด์ที่เติบโตอย่างชัดเจนทั่วโลก อีกทั้งทำให้รักษาคุณค่าของแบรนด์และสินทรัพย์ได้อย่างยาวนาน ที่สำคัญ Branded Residence ทำให้สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจนจาก Brand Heritage ของแบรนด์ต่างๆ เหล่านี้ อาทิ ชื่อเสียง ความเก่าแก่ ความไว้วางใจ ความเชื่อถือ ฯลฯ ยิ่งกว่านั้น ยังทำให้สามารถก้าวข้าม Price Point ไปได้เมื่อเทียบกับโครงการ Non-Branded นอกจากนี้ การจับมือกับพันธมิตรเหล่านี้ทำให้สามารถสร้างพลังผนึก (Synergy) ทั้งทางด้านฐานข้อมูลลูกค้าเป้าหมายที่มีศักยภาพทั่วโลก”
สำหรับโครงการที่เปิดตัวในช่วงนี้ของไรมอนแลนด์ ภายใต้ยุทธศาสตร์นี้
1. โครงการ The Estelle Phrom Phong (ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์)
โครงการคอนโดมิเนียม High-Rise 37 ชั้น 157 ยูนิต ระดับ Super Luxury บนพื้นที่เกือบ 2 ไร่ ที่ไรมอนแลนด์ร่วมทุนกับโตเกียว ทาเทโมโนะ ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 5,200 ล้านบาท รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเวิลด์คลาส ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Exclusive Community with Ultimate Lifestyle and Facilities ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเหนือระดับท่ามกลางสังคมคุณภาพ (Exclusive Community)
จุดขายสำคัญ
2. โครงการ Tait Sathorn 12 (เทตต์ สาทร ทเวลฟ์)
โครงการคอนโดมิเนียม High-rise ระดับ Luxury ใจกลางสาทร ซอย12 พัฒนาภายใต้แนวคิด ‘Live the Best of Sathorn Life’
จุดขายสำคัญ
3.โครงการ One City Centre (OCC)
โครงการอาคารสำนักงานระดับเมะโปรเจค 61 ชั้น ถนนเพลินจิต บนพื้นที่กว่า 6 ไร่ ด้วยเงินลงทุนกว่า 8,800 ล้านบาท เป็นความร่วมมือกับ Mitsubishi Estate ด้วยแนวคิดการออกแบบที่มุ่งเป็นนิยามใหม่ให้กับอุตสาหกรรมและการออกแบบอาคารสำนักงานระดับหรู โดยตั้งเป้าให้ One City Centre (OCC) ก้าวขึ้นเป็น ‘ที่สุดแห่งออฟฟิศยุคใหม่’
จุดขายสำคัญ
4.โครงการ Rosewood Residences Kamala (โรสวูด เรสซิเดนซ์ กมลา)
โครงการเรสซิเดนซ์ระดับ Ultra-Luxury สุดหรูแห่งแรกในจังหวัดภูเก็ต ตั้งอยู่ที่ Millionaire’s Row อ่าวกมลามาพร้อมบริการมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว ระดับโลกจากการร่วมมือกับเครือบริษัทโรงแรมลักซ์ชัวรี่ระดับโลกอย่าง Rosewood Hotels & Resorts®
จุดขายสำคัญ
New S-Curve
กรณ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงยุทธศาสตร์ Horizontal Diversification หรือการขยายฐานธุรกิจในแนวนอน เพื่อมุ่งสู่ธุรกิจ New S-Curve ที่เป็นโอกาสใหม่ๆ แต่ยังอยู่ใน ‘โซ่คุณค่า’ (Value Chain) ของธุรกิจไรมอนแลนด์ว่า
“บริษัทได้พัฒนาธุกิจดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างพุ่งทะยาน โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 จากการจับมือกับ Nautilus Data Technologies (นอร์ติลุส ดาต้า เทคโนโลยี) ผู้นำธุรกิจด้าน ‘กรีน ดาต้า เซ็นเตอร์’ (Green Data Center) ซึ่งใช้น้ำเป็นตัวลดความร้อนจากการทำงานของฮาร์ดแวร์ต่างๆ ทำให้สามารถลดต้นทุนได้มากกว่า 20% เมื่อเทียบกับระบบการระบายความร้อนแบบเดิมที่จะต้องใช้การเปิดเครื่องปรับอากาศ ที่สำคัญน้ำที่ใช้ระบายความร้อนเหล่านี้สามารถนำไปปล่อยลงระบบนิเวศได้ตามปกติ โดยไม่มีสารปนเปื้อนใดๆ”
Next Step
สำหรับเป้าหมายปี 2565 ของไรมอนด์ แลนด์ กรณ์เปิดเผยว่า
“บริษัทฯ คาดการณ์รายได้ปีนี้อยู่ที่ 2,200 ล้านบาท จากการโอนของโครงการเอสเทล,โครงการโรสวูด เรสซิเดนซ์ กมลา ภายในไตรมาส 3/2565 และคาดการณ์ยอดขายที่ 7,200 ล้านบาท ส่วนยอดคงค้างสะสม (Unsold Units) ลดลงจากปีก่อนที่มีมูลค่า 1,892 ล้านบาท เหลือเพียง 71 ล้านบาท เนื่องจากเมื่อสถานการณ์โควิด–19 คลายตัวทำให้กลุ่มนักลงทุนระดับไฮเอนด์กลับมาซื้ออสังหาฯ อีกครั้ง ด้วยเล็งเห็นว่า เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสถียร สร้างมูลค่าเพิ่มได้ และเทรนด์ที่เปลี่ยนไปคือต้องการซื้ออสังหาฯ ที่พร้อมอยู่ (Ready Move) จึงทำให้สามารถเคลียร์ยอดคงค้างสะสมได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตัวโครงการที่เป็น Branded Residence อีกสองโครงการ โดยจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบในกรุงเทพฯ”