พฤกษาเร่งสร้างซินเนอร์จี 2 ธุรกิจใหญ่ พร้อมเพิ่มพอร์ตลงทุนหลากหลายธุรกิจ มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
18 May 2022

 

“พฤกษา” โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2565 กำไรสุทธิเติบโต 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สถานะโครงสร้างทางการเงินแข็งแกร่ง มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Gearing ratio) ต่ำ ลุยผสานสร้าง Synergy ระหว่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเฮลท์แคร์ ขยายโอกาสทางธุรกิจผ่านการสร้างพันธมิตร พร้อมเพิ่มพอร์ตการลงทุนอื่นๆ ที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการนำ เทคโนโลยีดิจิทัลปรับปรุงระบบและกระบวนการทำงานต่างๆ ภายในองค์กร ไตรมาส 2 เดินหน้าเปิด โครงการใหม่ตามแผนพัฒนาธุรกิจอีก 9 โครงการรวมมูลค่า 5,900 ล้านบาท 

 

นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกปี 2565 ว่า 

ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของพฤกษา แสดงให้เห็นชัดว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยจริงยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะแนวราบในกลุ่มบ้านเดี่ยว ซึ่งเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ที่เติบโตจากผลกระทบโควิดที่ทำให้คนอยากอยู่บ้านมากขึ้น แม้สภาพเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะซบเซาและมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนก็ตาม ทั้งนี้ บริษัททำยอดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์รวม 5,344 ล้านบาท รายได้รวม 5,679 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 639 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10% ในขณะที่กำไรสุทธิของพฤกษา โฮลดิ้ง (รวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเฮลแคร์)  อยู่ที่ 552 ล้านบาท และมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่ 20,200 ล้านบาท เป็นยอดรับรู้รายได้ในปี 2565 ที่ 18,700 ล้านบาท และจะมีโครงการแนวสูงที่สร้างเสร็จพร้อมทยอยโอนในปีนี้อีก  7 โครงการรวมมูลค่า 15,200 ล้านบาท

 

กลยุทธ์ในปีนี้ พฤกษามุ่งผสานความร่วมมือระหว่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเฮลแคร์ โดยมีแผนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบ Mixed Use ที่จะผสานบริการด้านสุขภาพไว้ในโครงการเดียวกัน รวมถึงมองหาพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อเข้ามาเติมเต็มบริการตอบสนองผู้บริโภคได้อย่างดีที่สุด  ในด้านการลงทุนพฤกษาได้มีการเพิ่มพอร์ตลงทุนที่หลากหลาย  นอกจากการลงทุนในไทยที่ผสานความร่วมมือระหว่างธุรกิจเรียลเอสเตท และโรงพยาบาล ซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการศูนย์สุขภาพแห่งแรกในชุมชนพฤกษา ขนาด 50 เตียง ตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการพฤกษา อเวนิว บางนา-วงแหวน  ในเดือนสิงหาคมนี้ ขณะเดียวกันได้มีการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ โดยโรงพยาบาลวิมุตร่วมกับ JAS ASSET ก่อตั้งบริษัท Senera Vimut Health Service ทำโครงการ SENERA Senior Wellness บริเวณถนนคู้บอน เป็นศูนย์เมดิคอล ขนาด 5,713 ตร.ม. 4 ชั้น ขนาด 78 เตียง มีแผนเปิดให้บริการในเดือนธันวาคมนี้ นอกจากนี้ยังได้มีการลงทุนทั้งในไทย ออสเตรเลีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยเป็นกลุ่มธุรกิจประเภทนวัตกรรมด้านการพัฒนาความยั่งยืน (ESG Innovation) ระบบความปลอดภัยในโลกดิจิตอล (Digital Securities) และ เฮลท์เทค พร๊อพเทค  ที่รองรับกระแสเทรนด์ที่อยู่อาศัยและการดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

 

ในขณะเดียวกันพฤกษาเองก็มีการปรับปรุงกระบวนการทำงานในองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความรวดเร็วและช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น การนำ Value Engineering หรือ วิศวกรรมคุณค่ามาใช้ ด้วยการนำวัสดุทดแทนที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับวัสดุเดิมมาใช้ เป็นการช่วยลดการใช้ซีเมนต์ที่ไม่จำเป็นไปได้มากกว่า 15,000 ตัน นอกจากนั้นยังมีการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ระบบจัดซื้อจัดจ้างทางอิเล็กทรอนิกส์ และการพัฒนาระบบ Streamline ช่วยลดชั่วโมงการทำงานไปได้ มากกว่า 10,400 ชั่วโมง และสุดท้ายใช้การบริหารจัดการต้นทุน (Cost Management) เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถประหยัดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้มากกว่า 460 ล้านบาท หรือ 1.4% ของรายได้

 

สำหรับแผนงานในไตรมาส 2 นายอุเทน กล่าวว่า พฤกษามีแผนเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 2 อีก 9 โครงการ รวมมูลค่า 5,900 ล้านบาท  แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 8 โครงการและบ้านเดี่ยว 1 โครงการ  ซึ่งการออกแบบโครงการจะอิงจากแนวคิด Tomorrow. Reimagined. ที่ได้ต่อยอดสู่ “พฤกษา ลิฟวิ่ง โซลูชั่น” ตอกย้ำแนวทางการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพที่อยู่อาศัยตอบโจทย์เทรนด์การอยู่อาศัยใน 3 แกนหลัก ประกอบด้วย เทรนด์สุขภาพ (Health & Wellness) เทรนด์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป (Lifestyle Disruption) และเทรนด์เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Development) ซึ่งเป็นตัวสะท้อนถึงความใส่ใจของพฤกษาในทุกมิติทุกช่วงเวลาของชีวิต โดยยังคงรุกตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยการพัฒนาบ้านและโครงการมาตรฐานใหม่พร้อมกับใช้เครื่องมือการตลาดดิจิทัลและช่องทางออนไลน์ครบวงจร สื่อสารตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

 

และหนึ่งในแกนที่พฤกษาให้ความสำคัญ คือ การออกแบบบ้าน “ใส่ใจเพื่อสุขภาพ” ( Healthy Home) ซึ่งทางพฤกษาได้ทีมผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลวิมุต เข้ามาร่วมให้คำปรึกษา แนะนำ ในการออกบ้านในแต่ละโครงการ เพื่อให้การออกแบบบ้านนั้นตอบโจทย์ด้านการอยู่อาศัยเพื่อสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะการออกแบบที่อยู่อาศัยแบบ Universal Design ที่รองรับคนทุกเจนเนอเรชั่นที่อยู่ร่วมกันในบ้าน เช่น การดีไซน์ประตูขนาดใหญ่เผื่อพื้นที่ไว้รองรับการเข้าออกด้วยรถเข็น บันไดลูกนอนขนาดกว้างขึ้น ช่วยให้ขึ้น-ลงได้สะดวก พื้นภายในดีไซน์เป็นทางเรียบ (Non Step Floor) หมดห่วงเรื่องเดินสะดุดและการใช้วัสดุพื้นลดแรงกระแทก (Absorbtion Floor) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับเดียวกับญี่ปุ่น ยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุ หรือลดการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้กับเด็กและผู้สูงวัย รวมทั้งการเลือกใช้โถสุขภัณฑ์ชั้นนำแบบ Senior Ergonomic Design ที่ออกแบบรองรับสรีระผู้สูงอายุ ยังมีการออกแบบพื้นที่เพื่อส่งเสริมสุขภาพเป็นสวนหินบำบัด (River Healing Stone) ที่คัดสรรหินแต่ละก้อนอย่างพิถีพิถันและจัดวางให้เหมาะสำหรับการเดินนวดฝ่าเท้า เป็นต้น

 

ในฝั่งธุรกิจด้านสุขภาพ โรงพยาบาลวิมุตซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางระดับตติยภูมิ ที่มุ่งให้บริการแบบ New Normal Ecosystem โดยมุ่งเน้นการรักษาแบบบูรณาการองค์รวม ผ่านศูนย์สุขภาพและโมเดลสุขภาพด้วยระบบดิจิทัล เปิดดำเนินงานครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม ปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โรงพยาบาลได้สร้างการรับรู้ในแบรนด์และส่งมอบบริการด้านสุขภาพ คุณภาพมาตรฐาน ในราคาที่เข้าถึงได้ โดยใช้กลยุทธ์เร่งสร้างการเติบโต (Accelerated Growth Strategy) ทำให้ชื่อโรงพยาบาลวิมุตเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและรวดเร็วในกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

 

จากการให้บริการเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19  ส่งผลให้ในไตรมาส 1 ธุรกิจโรงพยาบาลวิมุตมีรายได้ 244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59% จากไตรมาส 4 ปี 2564 และจากการปรับโครงสร้างการบริหารองค์กรและการบริหารจัดการใหม่ของโรงพยาบาลเทพธารินทร์ ทำให้ธุรกิจด้านสุขภาพได้ส่วนแบ่งกำไรจากผลประกอบการโรงพยาบาลเทพธารินทร์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ แผนธุรกิจในไตรมาส 2 คาดว่ารายได้หลักจะมาจากการดำเนินงานเต็มรูปแบบของบริการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลและบริการศูนย์ฟื้นฟูดูแลสุขภาพครอบครัวและผู้สูงอายุ (ViMut Wellness Services) ซึ่งจะพัฒนาไปพร้อมกับโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ของพฤกษาอย่างต่อเนื่องด้วย 

 

[อ่าน 1,694]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
finbiz by ttb แนะเปิดประตูโอกาสธุรกิจ ด้วยพลังของ Generative AI
จุฬาฯ และ UR ร่วมกันจัดฟอรั่มที่กรุงเทพฯ ก้าวแรกของความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาเมืองในประเทศไทย
ทรงดี! “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48” เปิดเกม Fast Track เจาะกำลังซื้อ หลังดอกเบี้ยขาลง
“misty mynx” ชูแฟชั่นสะท้อนแนวคิด Sexy = Power เพื่อผู้หญิงยุคใหม่
LINE MAN แท็กทีม Café Amazon คว้า “อิ้งค์ วรันธร” เปิดแคมเปญ “Café Amazon แบบ อิ้งค์ x2 ต้อง LINE MAN ONLY” 

AIA CI SHARE AND CARE เติมเต็มความคุ้มครองโรคร้ายแรง พร้อมแบ่งปันน้ำใจสู่สังคม
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved