การได้แก่นแกนของกลยุทธ์ในการรุกตลาดตามแผน 5 ปี ของเซ็นทรัลพัฒนา ผู้พัฒนาที่ดินเพื่อการค้าปลีกรายใหญ่ใน เครือเซ็นทรัล กรุ๊ป ที่จะรุกตลาดภายใต้แนวคิดของการเป็น Retail-Led Mixed-Use Development ที่ผสมผสานการพัฒนาที่ดินทั้งค้าปลีก ที่อยู่อาศัย โรงแรม และอาคารสำนักงาน เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่โครงการที่ทำนั้น

ทำให้ เราได้เห็นการพัฒนาโครงการต่างๆ ภายใต้แนวคิดดังกล่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับการเปิดตัว ‘ศูนย์การค้าเซ็นทรัล จันทบุรี’ ซึ่งเป็นสาขาที่ 37 ของผู้ประกอบการรายนี้ ก็มาด้วยกลยุทธ์มิกซ์ยูส ที่ผสมผสานทั้งศูนย์การค้า ที่พักอาศัย และโรงแรม โดยเฟสแรกที่เปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จะนำด้วยตัวศูนย์การค้าที่ลงทุนด้วยงบสูงถึง 3,500 ล้านบาท

เซ็นทรัลพัฒนา เลือกจังหวัดจันทบุรี เป็น 1 ในโลเกชั่นสำคัญในการลงทุนในภาพตะวันออกที่ก่อนหน้านั้น เซ็นทรัลพัฒนาจะมีศูนย์การค้าของตัวเองอยู่ในจังหวัดชลบุรี 4 แห่ง แยกเป็น อำเภอเมือง 1 ศูนย์ ศรีราชา 1 ศูนย์ และพัทยาอีก 2 ศูนย์คือเซ็นทรัลมารีน่า และเซ็นทรัลเฟสติวัล

นอกจากนี้ ยังมีศูนย์การค้าเซ็นทรัลในจังหวัดระยองอีก 1 แห่ง เซ็นทรัลจันทบุรี จึงเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่แห่งที่ 6 ของเซ็นทรัลพัฒนา ที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นหัวจักรสำคัญในการนำพาธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัลเข้าไปเจาะกลุ่มผู้บริโภค โดยจังหวัดแห่งนี้ ถือเป็นจังหวัดที่มีกำลังซื้อค่อนข้างดี โดยมีจีพีดีอันดับ 14 ของประเทศ

ขณะที่มีจำนวนประชากรทั้งในจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดรอบข้างอย่างปราจีนบุรี และตราด รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา อีกกว่า 1.8 ล้านคน เข้ามาเป็นกำลังซื้อชั้นดีในการสนับสนุนการรุกตลาดในครั้งนี้  

เลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารทรัพย์สินของเซ็นทรัลพัฒนา บอกกับเราว่า ภาพรวมตลาดและจากฐานข้อมูล The1 เซ็นทรัลพัฒนา เล็งเห็นนว่า จันทบุรีมีกำลังซื้อสูงมากโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็น Middle to Wealth & Business Successor ของจังหวัด จับกลุ่มประชากรกลุ่มเป้าหมาย Catchment เป็นจำนวนมากกว่า 1.8 ล้านคน รวมประชากรในจันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี สระแก้ว 

“นอกจากนี้ ยังมีศักยภาพในการดึงกลุ่ม Cross border trading โดยเฉพาะ High Spender จากกัมพูชา ที่นิยมมาช้อปปิ้งและ Medical tour เตรียมเน้นเจาะทำการตลาดแบบเฉพาะกลุ่ม Top Spenders โดยร่วมกับโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำทำ Package ตรวจสุขภาพและให้มาช้อปในศูนย์ฯ อีกทั้ง จัด High spender program ตลอดทั้งเดือน และ Exclusive promotion ทุกวันจันทร์ เพื่อสร้าง Engagement กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยได้สร้างปรากฏการณ์ทราฟฟิกพุ่งเกินเป้ากว่า 60,000 คนในวันเปิด พร้อมเดินหน้าปูพรมอีเวนต์มากกว่า 1,000 งาน ตลอดทั้งปี เพื่อสร้างทราฟฟิกต่อเนื่อง”

สิ่งที่น่าสนใจ นอกเหนือจากการทำตลาดด้วยแนวคิด Retail-Led Mixed-Use Development ที่ในเฟส 2 และ 3 จะเป็นการเปิดตัวโครงการโรงแรมและที่พักอาศัยแล้ว ศูนย์การค้าเซ็นทรัล จันทบุรี ยังเป็นอีกศูนย์การค้าที่เข้ามาต่อจิ๊กซอว์ของการทำศูนย์การค้าภายใต้แนวคิด ‘Centre of life’ หรือศูนย์กลางของการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่ใช้ในเรื่องของการดีไซน์ที่ทิ้งสเปซสำหรับการใช้ชีวิต ไม่ใช่แค่การดีไซน์เพื่อการช้อปปิ้งเพียงอย่างเดียวเหมือนกับการทำศูนย์การค้าในอดีต

เซ็นทรัล จันทบุรี จึงถูกดีไซน์ออกมาให้เป็นศูนย์การค้าในรูปแบบของ Semi Outdoor ซึ่งเป็นศูนย์การค้าแห่งที่ 3 ของเซ็นทรัลพัฒนาต่อจาก เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ และเซ็นทรัล ศรีราชา โดยเป็นมากกว่าศูนย์การค้า ด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ถึง 4 ไร่ เพิ่มพื้นที่สวนสาธารณะให้กับเมือง ประกอบด้วย Running Track, จุดจอดจักรยาน, เครื่องออกกำลังกาย, Social Park, Family & Pet Playground, Café และยังเป็นโครงการแรกในต่างจังหวัดที่ทำ Completed Sport Destination ด้วยพื้นที่ Multi-Purpose กว่า 4,000 ตร.ม.

“เราให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตของคนจันทบุรี โดยมีการดีไซน์ให้เป็น Centre of Well – Being ที่ให้พื้นที่สวนถึง 4 ไร่ เพื่อให้เป็น Sport Destination ของคนจันทบุรี ขณะเดียวกันก็มีการดึง Local Essence ของจังหวัดจันทบุรี เข้ามาเป็นแกนหลักในการดีไซน์บรรยากาศภายในศูนย์การค้า ซึ่งถือเป็นแนวทางของการทำตลาดศูนย์การค้าของเราที่จะเชื่อมโยงความเป็นท้องถิ่นเข้าไปในการดีไซน์ศูนย์การค้า”

 

การให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวจะทำผ่านการดีไซน์ 6 จุด Attractions ทั่วทั้งศูนย์ ที่ได้รับการดีไซน์ออกแบบมาอย่างดี ได้แก่  ‘เรือนจันทบูร’ จุดถ่ายรูปสุดเก๋ ดีไซน์จากเสน่ห์สุดคลาสสิกของท้องถิ่น ที่เห็นวิวหลักล้านทั้งแม่น้ำและภูเขา, ‘จุดชมจันท์’ ได้แรงบันดาลใจจากบ้านต้นไม้ ด้านล่างมีคาเฟ่เครื่องดื่ม Spiral Café ส่วนด้านบนเป็นจุดชมวิวที่เห็นคลองภักดีรำไพได้แบบ 360 องศา, ‘ลานจันอิน’ พื้นที่นั่งพักที่นำต้นไม้ประจำจังหวัดอย่างต้นจันอินและผลไม้อย่างมะปี๊ด มังคุด ทุเรียนมาตกแต่ง และสินค้าออร์แกนิกให้เลือกช้อป, ‘ชานจันท์’ Co-working space คาเฟ่สุดชิค และ Art Feature กระต่ายสุดน่ารักสัญลักษณ์ของจันทบุรี ในหลากหลายอิริยาบถ โดยศูนย์การค้าเซ็นทรัล จันทบุรี จะอยู่ภายใต้คอนเซปต์ Charming Chanthaburi #มหัศจรรย์จันทบุรี

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการสนับสนุนจัดงานอาร์ตแนวใหม่ ‘จันทบุรี อาร์ตแฮพเพนนิ่ง’ ณ ชุมชนริมน้ำจันทบูร และ ร่วมกับจังหวัด ผลักดันจุดเด่นเมืองจันท์ ได้แก่ 1. ผลไม้ ใช้จุดแข็ง Cross region platform กระจายผลผลิตเกษตรกร อาทิ ทุเรียน, มังคุด, มะม่วง ไปยังสาขาทั่วประเทศ รวมถึงสาขา Prime location 2.อัญมณี กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เปิดโซนพลอยจันท์ รวมร้านดังในจังหวัดไว้ในที่เดียว 3. ส่งเสริมผู้ประกอบการ พร้อมเชื่อมต่อธุรกิจผู้ประกอบการเข้าด้วยกันทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับประเทศ 4. MICE city เปิด Convention hall รองรับงานจัดแสดงสินค้าและรับแขกจาก EEC

ขณะที่ในเรื่องของการช้อปปิ้งนั้น ดึง 24 แบรนด์ดัง ครั้งแรกในจังหวัดที่คนจันท์รอคอย  อาทิ Uniqlo, Jaspal, Lyn, CC OO, CPS : Adidas, Skechers, Converse, Crocs, Havaianas และ Beautrium แบรนด์บิวตี้ครั้งแรกในจังหวัด จัดเต็มกับน้ำหอม เมคอัพ สกินแคร์และบิวตี้ไอเทมจากแบรนด์ดังระดับโลก พร้อมโปรโมชั่นพิเศษทุกวัน

นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ร้านอาหารชื่อดังที่เข้ามาเปิดในจังหวัดจันทบุรีเป็นครั้งแรก อาทิ Bonchon, AKA, Sizzler, FUJI, CoCo ichibanya, Oishi Biztoro, KOI The, KAMU KAMU, Krispy Kream, FRESH ME, BEAR MILK STICK, และ Mihimihi เป็นต้น

รวมถึงยังเป็น Food Destination แห่งใหม่ในจันทบุรี, ศูนย์รวม IT & GADGET ที่ทันสมัยและครบวงจรที่สุดของจังหวัด อาทิ iStudio, BANANA IT, J.I.B, Big Camera, Xiaomi by J MART, SAMSUNG, HUAWEI, TRUE, DTAC center by IT CITY, AIS และแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย พร้อมผนึกกำลังแบรนด์ในเครือกลุ่มเซ็นทรัล อาทิ B2S, Powerbuy, Supersports, BnB home, Tops และอื่นๆ อีกมากมาย เตรียมพบกับ Chanthaburi Cineplex ในระบบ LASERPLEX สุดยอดนวัตกรรมที่สมบูรณ์แบบที่สุดทั้งระบบภาพ และเสียง พร้อมดีไซน์การออกแบบภายในที่หรูหรา ระดับเวิลด์คลาส 5 โรงภาพยนตร์ พร้อมนำเสนอให้คนจันท์ได้เปิดประสบการณ์การช้อปปิ้งด้วย ‘Showcase’ โซนห้างรูปแบบใหม่ ที่พัฒนาโดยเซ็นทรัลพัฒนาเอง ประสบความสำเร็จมาแล้ว ที่ศรีราชา และ อยุธยา 

ถือเป็นอีกการเติมเต็มการทำตลาดในเขตภาคตะวันที่เป็นการเปิดโอกาสในการเข้าถึงกำลังซื้อที่เป็น Top Spender ของคนในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงคนจากประเทศเพื่อนบ้านที่ต่อยอดจากการแค่เข้ามารักษาพยาบาลสู่การช้อปปิ้ง ซึ่งเป็นอีกการขยายสาขาที่น่าสนใจไม่น้อยของเซ็นทรัลพัฒนา.....