คุณพีรพล นนทสูติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลล์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

‘ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ’ จุดพลุเขย่าตลาดคอนโด ‘ซูเปอร์ ลักซ์ชัวรี่’ บนถนนหลักด้านสุขุมวิท พิกัดระหว่าง ‘ทองหล่อ -  เอกมัย’ ด้วยจุดขาย Above & Beyond ที่เหนือกว่าคอนโดในระดับเดียวกัน ทั้งราคาที่คุ้มค่า พร้อมการอำนวยความสะดวกและบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟครบครัน จาก ‘ไฮแอท รีเจนซี กรุงเทพฯ สุขุมวิท’ โรงแรมห้าดาวในเครือ บมจ. แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ พื้นที่ส่วนกลางกว่า 2,000 ตร.ม. ที่จอดรถติดตั้ง EV Charger ถึง 10% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด ฯลฯเผยมั่นใจจะปิดการขายได้ภายในสิ้นปีนี้ ด้วยกำลังซื้อจากภูมิภาคเอเชียที่ต้องการบ้านหลังที่ 2,3 เพื่อพำนักในประเทศไทย

ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ โครงการคอนโดมิเนียมระดับ ‘ซูเปอร์ ลักซ์ชัวรี่’ สูง 45 ชั้น บนถนนหลักด้านสุขุมวิท พิกัดระหว่าง ‘ทองหล่อ -  เอกมัย’ ที่มีจำนวนทั้งหมด 311 ยูนิต โดยแบ่งเป็นคอนโดแบบ 1 ห้องนอน จำนวน 188 ยูนิต, แบบ 2 ห้องนอน จำนวน 100 ยูนิต, แบบ 3 ห้องนอน จำนวน 20 ยูนิต และแบบเพนท์เฮาส์4 ยูนิต ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 11.9 ล้านบาท และราคาเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 2.5-2.7 แสนบาท/ตารางเมตร ขณะที่ราคาคอนโดมิเนียมในพิกัดทองหล่อขยับเป็น 2.8 – 3 แสนบาท/ตารางเมตรแล้ว และราคาตลาดขยับเป็น 3.2-3.3 แสนบาท/ตารางเมตรแล้ว ขณะที่โครงการนี้ยังไม่ได้ปรับราคา ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้คอนโดในปัจจุบัน ด้วยโครงสร้างราคาการก่อสร้างที่ล็อกไว้เมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งในทางกลับกัน หากโครงการนี้เพิ่งก่อสร้างในปีนี้ แน่นอนว่า โครงสร้างราคาก็จะต้องขยับขึ้นอย่างน้อยอีก 20%

ดังนั้น ด้วยจุดขายทางด้านราคา บวกกับทำเลที่ตั้งโครงการที่อยู่ติดถนนหลักด้านสุขุมวิทที่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ทองหล่อเพียง 250 เมตร และ 150 เมตรจากสกายวอล์กที่เชื่อมต่อมายัง T-One Building หนึ่งในอาคารที่เป็นไอคอนนิค นอกจากนี้ ยังตั้งอยู่ใกล้สถานที่สำคัญๆ อย่าง Ascott Sukhumvit 59, แชงกรี-ลา, อินเตอร์คอนติเนนตัล ฯลฯ

อีกทั้งยังเป็นโครงการที่มองเห็นวิวบางกระเจ้าได้สบายๆ จึงถือเป็นจุดขายที่จับต้องได้อย่างชัดเจน อีกทั้งทำเลที่ตั้งโครงการ ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ จะกลายเป็น New Destination แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ได้เช่นเดียวกับย่านอโศก พร้อมพงษ์ (เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์) ฯลฯ ในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย

Differentiation

พีรพล นนทสูติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขายและการตลาด บมจ. แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึง Differentiation ที่เหนือกว่าโครงการคอนโดระดับเดียวกันว่า

“สิ่งที่แตกต่างชัดเจน คือ การมีบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก ‘ไฮแอท รีเจนซี กรุงเทพฯ สุขุมวิท’ ซึ่งเป็นโรงแรมระดับห้าดาวในเครือของ บมจ. แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ด้วยการนำบริการเทียบเท่ากับการบริการโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ด้วยการให้บริการ Concierge โดยจับมือกับ Compass Hospitality ซึ่งทําหน้าที่ให้บริการช่วยเหลือประสานงานในเรื่องต่างๆ ตามความต้องการของลูกบ้านอย่างมืออาชีพระดับโลก ตลอดจนการเปิดพื้นที่ส่วนกลางเพื่อรองรับ  Private Chef Table ที่ส่วนกลางชั้น 7 กับเมนูที่รังสรรค์โดยเชฟจากโรงแรมหรู 5 ดาว, Exclusive Private Party พื้นที่จัดงานส่วนตัว รวมถึง Personal Fitness Trainer & Yoga Instructor ที่ส่วนกลางชั้น 41 เป็นต้น

พร้อมด้วยบริการแบบ On-Demand มาเพิ่มประสบการณ์การอยู่อาศัยแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่มีความพิเศษกว่าโครงการอื่นๆ ให้กับผู้อยู่อาศัย พร้อมทั้งการส่งมอบประสบการณ์แบบ Smart Living และตอบโจทย์วิถี New Normal ด้วยการจับมือกับ ‘ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป’ นำ ‘ดิจิทัลโซลูชัน’ จากการเป็น Partner with True Smart Living มาใช้ในทุกส่วนของอาคาร ซึ่งเป็นโครงการแรกที่ใช้นวัตกรรมสุดล้ำจาก ทรู ดิจิทัล เพื่อสร้างประสบการณ์ การอยู่อาศัยในรูปแบบ Smart Living ผ่าน Application ที่ถูกออกแบบมาสำหรับโครงการโดยเฉพาะ”  

Above & Beyond

 พีรพลกล่าวถึงความแตกต่างที่สำคัญอีกประการด้วยจุดขาย Above & Beyond ว่า

“ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ มีพื้นที่ส่วนกลาง แบบเต็มรูปแบบกว่า 8 ชั้น 28 ฟังก์ชัน มากกว่า 2,000 ตารางเมตร ซึ่งเหนือกว่ามาตรฐานพื้นที่ส่วนกลางของโครงการคอนโดมิเนียม โดยมีพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 7 เต็มพื้นที่ทั้งชั้น, ชั้น 29 และ ชั้น 40 พร้อมทั้งเติมเต็มทางด้านพื้นที่เก็บของให้กับผู้อยู่อาศัยด้วย เนื่องจากโดยปกติคอนโดมิเนียมขนาด 45 ตารางเมตร หรือ 2 ห้องนอน โครงการมักจะมองข้ามประเด็นพื้นที่การเก็บของของผู้อยู่อาศัย แต่สำหรับโครงการนี้ได้ออกแบบให้มีพื้นที่เก็บของส่วนตัว (Private Storage), ห้องนั่งเล่นที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว (Glass House) พร้อมสัมผัสวิวเมืองที่สวยงาม, พื้นที่ของ Library ส่วนกลางที่กว้างขวาง เชื่อมต่อกับ Co-working Space รองรับให้ลูกบ้านสามารถมาทํางาน เรียน หรือประชุม ฯลฯ

ขณะเดียวกัน การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็กลับเป็นช่วงเวลาที่ทำให้โครงการได้ Re-Design และใส่รายละเอียดที่จะเติมเต็มผู้อยู่อาศัยได้เพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) จำนวน 32 เครื่องในโครงการ และถือเป็นสัดส่วน 10% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด ที่สำคัญ ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ ถือเป็นโครงการแรกที่สามารถรองรับ EV Charger ได้มากกว่า 30 จุด โดยบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ EVLOMO บริษัทชั้นนำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกาติดตั้ง EV Charger ในโครงการ ตอกย้ำความเป็นโครงการอสังหาฯ แห่งอนาคตที่สามารถตอบโจทย์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคคนไทยที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน และยังเป็นปฏิบัติการรักษ์โลกที่โครงการฯ ต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

คาด Sold Out ในปีนี้

จากสถานะยอดขาย ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ ในปัจจุบันที่สามารถขายได้ราว 50%แล้ว ทั้งนี้ พีรพล คาดการณ์เกี่ยวกับการขายว่า

“น่าจะไม่เกินไตรมาส 4 ของปีนี้ เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่ให้ความสนใจเข้ามาซื้อนั้นเป็นกลุ่มไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น โดยกลุ่มลูกค้าต่างชาติเหล่านี้เป็นกลุ่มลูกค้าบุคคลประเภท High Demand, High Network และต้องการซื้อบ้านหลังที่ 2,3 ในต่างประเทศ หรือบ้านในต่างประเทศเพื่อพำนักในระยะยาว เนื่องจากชัยภูมิของประเทศไทยนั้นมีความปลอดภัยและมีความมั่นคง ทั้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ และจากภัยพิบัติจากธรรมชาติ นอกจากนี้ ตลาดอสังหาฯ ในประเทศไทยยังได้รับอานิสงส์จากการที่ค่าเงินบาทอ่อนตัวราว 5-10% ในช่วงนี้ (ปัจจุบัน 1 เหรียญสหรัฐมีค่าผันแปรที่ประมาณ 36 บาทกว่า) และถือเป็นโอกาสดีที่เอื้อต่อการตัดสินใจซื้อของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ”