คาดกนง. ปรับขึ้นดบ.นโยบายที่ 0.25% ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง
09 Aug 2022

ในการประชุมกนง. ที่จะถึงนี้ คาดว่ากนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0.25 มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 0.75 ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้กนง. มีแนวโน้มที่จะทยอยถอนคันเร่งทางเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในระดับสูง โดยจากตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือนก.ค. 2565 อัตราเงินเฟ้อไทยวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น 7.61% YoY ชะลอลงเพียงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ 7.66% YoY โดยมีปัจจัยผลักดันมาจากราคาพลังงานและอาหารที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งแม้ว่าดัชนีราคาหมวดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ปรับลดลงมาตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกแต่ก็ยังคงทรงตัวในระดับสูง ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งหักอาหารสดและพลังงานออกแล้วเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่เร่งขึ้นที่ 2.99% YoY จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ 2.51% YoY สะท้อนให้เห็นว่าการส่งผ่านต้นทุนจากไปยังผู้บริโภคมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นและในวงกว้างขึ้น ดังนั้น แม้ว่าราคาน้ำมันจะย่อลงมาบ้างและอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะชะลอลงเล็กน้อย แต่แรงกดดันจากเงินเฟ้อภายในประเทศมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับสูงอยู่ ดังนั้น กนง. มีแนวโน้มที่จะให้น้ำหนักต่อปัจจัยเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเป็นสำคัญ เนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเปราะบางอย่างผู้มีรายได้น้อย

 

ทั้งนี้ แม้ว่าเงินเฟ้อที่เร่งสูงขึ้นจะมาจากปัจจัยในฝั่งอุปทานเป็นหลัก ซึ่งการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอาจไม่สามารถจัดการแก้ปัญหาได้โดยตรง อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจะช่วยสร้างความมั่นใจต่อประชาชนว่าเงินเฟ้อจะได้รับการดูแลไม่ให้สูงขึ้นต่อไปในระยะข้างหน้า โดยหากอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับที่ต่ำนานเกินไป การคาดการณ์เงินเฟ้อ (inflation expectations) ก็อาจจะเพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อยๆ โดยภาคส่วนต่างๆ พากันคาดว่าเงินเฟ้อจะลากยาวและพากันกำหนดราคาหรือเรียกร้องค่าจ้างตามการคาดการณ์นั้น ซึ่งจะยิ่งทำให้เงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆตามการคาดการณ์ นอกจากนี้ หากเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นแต่อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับเดิมก็จะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมที่แท้จริงลดลงไปอีก ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการดำเนินนโยบายการเงินยิ่งผ่อนคลายมากขึ้นและเหยียบคันเร่งให้เศรษฐกิจ

 

ขณะที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องจากแรงหนุนของภาคการท่องเที่ยวส่งผลให้ความจำเป็นในการดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลายนั้นลดลงเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องโดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยเร่งตัวสูงขึ้นอย่างมากหลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ โดยในเดือนก.ค. 2565 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในไทยมากกว่า 1 ล้านคน ส่งผลให้ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วกว่า 3 ล้านคน ซึ่งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวจะก่อให้เกิดรายได้และการจ้างงานในประเทศเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศจะได้รับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวได้ต่อเนื่องหลังจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยกลับมาเป็นปกติท่ามกลางความกังวลเกี่ยวการแพร่ระบาดของโควิดที่ลดลง ดังนั้น แรงส่งเศรษฐกิจจากนโยบายการเงินการคลังจึงมีความจำเป็นลดลง ส่งผลให้กนง. มีแนวโน้มที่จะลดการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายลง

 

ทั้งนี้ ในระยะข้างหน้าศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า กนง.อาจพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องไปในการประชุมที่เหลือของปีนี้ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 1.00-1.25 ณ สิ้นปี โดยจุดจับตาจะอยู่ที่ภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตัวเลขเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า หากตัวเลขเงินเฟ้อยังเร่งตัวขึ้นท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวดีจากการท่องเที่ยวคงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้กนง. พิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในทุกการประชุมที่เหลือของปีนี้ อย่างไรก็ดี ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวของไทยได้ ขณะที่อุปสงค์โลกที่ชะลอตัวลงอาจจะส่งผลต่อทิศทางเงินเฟ้อโลกอาจอ่อนแรงลงได้บ้าง นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกาเผชิญความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยและการจ้างงานของชาวอเมริกันอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มที่จะย่อตัวลงในระยะข้างหน้าส่งผลให้เฟดอาจหยุดการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้าขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังอยู่ในระดับต่ำอยู่และยังมีส่วนต่างกับดอกเบี้ยเฟดอยู่มาก ดังนั้น ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปีหน้ายังคงขึ้นอยู่กับทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพภายนอกประเทศ ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น

[อ่าน 712]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คปภ. ผนึกพลัง 4 สมาคม จัดเรตติ้งพฤติกรรม “ตัวแทน-นายหน้าประกันภัย” พร้อมแบ่งปันฐานข้อมูลเกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภัย
เคทีซี X โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพ เปิดตัวสมาชิกบัตร เดอะ สุโขทัย วีซ่าแพลทินัม รับสิทธิ์ 2 ต่อ
บลิ้งค์ไทยสุดฟิน “ลิซ่า” สาดความน่ารักดับร้อน ในงาน LISA FAN MEET-UP Ease Every Moment with TrueMoney
“Crystal Home” ย้ำแนวทาง Eco-Friendly ส่งต่อสุขภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ฉากทัศน์แห่งความรุ่งเรืองของธุรกิจ Art Toy ในประเทศไทย
กรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง เสิร์ฟอาหารจีนสไตล์ฝรั่งเศสจากร้านดัง Cross BKK พร้อมโอกาสการลงทุนที่พิเศษกว่าใคร
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved