เร่งดัน e-Health ทางเลือกสุขภาพ ปลดล็อกการแพทย์ไทย ด้วยดิจิทัลไอดี
07 Sep 2022

 

 

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) ลุยจัดงานต่อเนื่อง ME(i)D Talk : The Secret of e-Health ปลดล็อกการแพทย์ไทย ด้วยดิจิทัลไอดี เสวนาออนไลน์ภายใต้แคมเปญ MEiD (มีไอดี) บริการไทย…ไร้รอยต่อ ดึงหน่วยงานผู้พัฒนา 2 แอปฯ ดัง อย่าง สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ผู้พัฒนาแอปฯ ทางรัฐ กรมควบคุมโรค ผู้พัฒนาแอปฯ หมอพร้อม และเพจหมอหมี เม้าท์มอย อินฟลูเอนเซอร์ด้านสุขภาพ ร่วมเจาะลึกพาคนไทยทำความรู้จักกับ e-Health ทางเลือกสุขภาพ สู่การปลดล็อกสร้างมาตรฐานด้านการแพทย์และสาธารณสุขไทยรองรับโลกอนาคตด้วย Digital ID 

 

 

คุณศุภโชค จันทรประทิน ทีมยกระดับมาตรฐานธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ไทย ศูนย์นโยบาย พัฒนามาตรฐานและหลักเกณฑ์การกำกับดูแล จาก ETDA กล่าวว่า

e-Health เป็นหนึ่งบริการดิจิทัลด้านสาธารณสุขและทางการแพทย์ ที่ค่อนข้างมีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันเรามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงโควิด 19 ที่ต้องรักษาระยะห่างและการไปโรงพยาบาลอย่างที่เราเคยไปนั้นทำได้ยากขึ้น e-Health จึงเป็นเครื่องมือที่ทำให้เราและแพทย์สามารถติดต่อ เชื่อมโยงกันได้ง่ายและเข้าถึงกระบวนการรักษาในรูปแบบเบื้องต้นอย่างการรับคำปรึกษา การสอบถามอาการเพื่อวินิจฉัยอาการขั้นต้น เพื่อสั่งจ่าย-รับยา เช็คสิทธิรักษาพยาบาลหรือประวัติการรักษา ทางออนไลน์ในรูปแบบแพลตฟอร์ม หรือ แอปพลิเคชัน ซึ่งเราเชื่อว่า ผู้ป่วยทั่วไปที่เดินทางไปที่โรงพยาบาลมากกว่าครึ่งต้องการเพียงแค่พบและรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับยา ซึ่งอาจไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์เข้าช่วยในการรักษา

 

ดังนั้น การมีแพลตฟอร์มดิจิทัลในรูปแบบ e-Health เข้ามาแทนที่การรักษาแบบออฟไลน์ที่ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการเช็กสิทธิรักษา ตลอดจนประวัติการป่วยและการรับยาได้เร็วขึ้นในรูปแบบออนไลน์ จะทำให้ทั้งผู้ป่วยและแพทย์นอกจากสะดวกแล้ว ยังช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดจำนวนผู้ป่วยที่จะเข้าไปแออัดในโรงพยาบาล และการที่เราไม่ได้มาเจอหน้ากันเช่นนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมั่นใจได้ว่า คนที่เข้ารับบริการเป็นผู้ป่วยตัวจริง และแพทย์ที่ให้คำปรึกษาวินิจฉัยโรคก็เป็นแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพทั้งในการรักษาและการจ่ายยาจริง ที่สังกัดอยู่ในสถานพยาบาลนั้นจริงๆ เพราะฉะนั้นบริการ e-Health จึงจำเป็นต้องนำเทคโนโลยี Digital ID เข้ามาช่วยในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการ e-Health เพื่อให้บริการมีความปลอดภัย ตรวจสอบได้ และมั่นใจการใช้งานว่ากระบวนการทั้งหมด เป็นไปตามที่มาตรฐานที่กำหนด เพราะเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่เราต่างก็ไม่สามารถมองข้ามได้ อย่าง แอปฯ หมอพร้อม และ แอปฯ ทางรัฐ ที่จะเห็นว่า ก่อนเริ่มต้นใช้งานเราจะต้องใส่ข้อมูลส่วนบุคคลของเรา ยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลหน้าบัตรและหลังบัตรประชาชน  มีการสแกนหน้า ตั้งรหัสต่างๆ เพื่อลงทะเบียนซึ่งทั้งหมดนี้ คือกระบวนการที่เรียกว่า Digital ID และถ้าผู้ใช้บริการมี Digital ID กับ D.DOPA ของกรมการปกครองแล้วก็สามารถเชื่อมต่อเข้าใช้บริการ e-Health ที่มีการเชื่อมระบบกับ D.DOPA ได้เลย ซึ่งปัจจุบัน แอปฯ ทางรัฐ ให้บริการลักษณะนี้แล้ว ในอนาคตถ้าเรามีบริการ e-Health ที่มีการนำ Digital ID เข้ามาใช้ในการยืนยันตัวตนให้บริการผ่านแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันที่หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการมากขึ้น การดูแลสุขภาพของคนไทยไม่เพียงทำได้ง่าย สะดวก เข้าถึงการรักษาได้เร็วขึ้น แต่ยังจะช่วยเชื่อมโยงข้อมูลการรักษาระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วนเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ทุกโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลทั่วประเทศมีมาตรฐานในการดูแลรักษาไม่แตกต่างกันด้วย ทั้งนี้ นอกจาก e-Health เราจะเห็นว่า สถานพยาบาลหลายแห่งเริ่มปรับรูปแบบการให้บริการให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์แล้ว อย่างใบสั่งจ่ายยา ใบเสร็จรับเงิน หรือแม้แต่ใบรับรองแพทย์ ซึ่งทั้งหมดนี้ ETDA ในฐานะหน่วยงานที่มุ่งให้คนไทยเกิดการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในทุกกิจกรรมก็ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนผลักดันร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง

 

ด้าน คุณสุพัชรินทร์ กิ่งแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลแลกเปลี่ยนข้อมูล สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ผู้ร่วมพัฒนาแอปฯ ทางรัฐ กล่าวว่า

สำหรับ DGA เรามีการพัฒนา  แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" เพื่อตอบโจทย์ทั้งส่วนของข้อมูลและการบริการ ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย เพราะ “ทางรัฐ” เรานำ Digital ID เข้ามาช่วยในการยืนยันตัวตนและเป็นแพลตฟอร์มเบื้องหลังของหลาย ๆ แอปพลิเคชันของภาครัฐที่มีให้บริการในแทบทุกมิติ รวมถึงมิติด้านสาธารณสุขและสุขภาพ ที่ครอบคลุมบริการประวัติข้อมูลการใช้ยา ดูรายละเอียดยาง่าย ๆ ผ่านการสแกน QR Code  เช็คสิทธิรักษาพยาบาลทั้งในส่วนของสิทธิตามหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและประกันสังคม เป็นต้น ซึ่ง “ทางรัฐ” จะเป็นตัวกลางที่ช่วยเชื่อมต่อข้อมูลส่วนบุคคล อย่าง Digital ID เข้ากับบริการภาครัฐอื่น  ๆ อีกมากมายที่มีอยู่ในแอปฯ ทางรัฐ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงบริการรัฐต่างๆ ได้เลย โดยไม่ต้องสมัครใหม่หรือยืนยันตัวตนแบบเดิมซ้ำ ๆ เพราะทุกหน่วยงานผู้ให้บริการมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันแล้วผ่านเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Digital ID ที่ไม่เพียงช่วยในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนมีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ แต่ยังเป็นเกราะอีกชั้นที่ช่วยในการปกป้องข้อมูลของเราในโลกดิจิทัลด้วย

 

วันนี้ "ทางรัฐ" เปิดให้บริการมาเกือบ 2 ปี มียอดดาวน์โหลดแอปฯ แล้วกว่า 3 แสนครั้ง มีการลงทะเบียนด้วย Digital ID นับแสนครั้ง และยอดการใช้บริการ รวมกว่า 2.4 ล้านครั้ง ซึ่งหากแยกมาเฉพาะส่วนของการเข้าถึงบริการสุขภาพหรือการตรวจสอบสิทธิ์ด้านการรักษาพยาบาล พบว่า มีการใช้งานแล้วกว่า 2 แสนครั้ง ติด TOP 5 ของ แอปพลิเคชันด้านบริการสุขภาพที่ให้บริการในรูปแบบ e-Health และเนื่องจากเราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการให้บริการทางออนไลน์มาก ๆ จึงทำให้ปัจจุบัน "ทางรัฐ" มีมาตรฐานในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเทียบเท่าธนาคาร ที่จะต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่านการตรวจสอบด้วยไบโอเมตริก สแกนใบหน้า ที่ต้องหันซ้ายหันขวา การกระพริบตา รวมถึงการสแกนบัตรประชาชน ซึ่งครั้งแรกอาจดูยุ่งยาก แต่ก็มีความปลอดภัยสูงมากและทำแค่ครั้งเดียว ก็สามารถเข้าถึงบริการรัฐได้อีกหลากหลายบริการ

 

นพ.ศุภฤกษ์ ถวิลลาภ หัวหน้ากลุ่มสารสนเทศทางระบาด (EIU) กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ผู้ร่วมพัฒนาแอปฯ หมอพร้อม กล่าวเสริมว่า "หมอพร้อม" เราเริ่มต้นพัฒนาขึ้นเพื่อเน้นให้บริการในเรื่องของวัคซีนโควิด-19 เป็นหลัก เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงการรับวัคซีนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ก่อนเริ่มขยายบริการด้านสุขภาพอื่น ๆ ที่ครอบคลุมมากขึ้น เช่น การมีบันทึกข้อมูลประวัติผู้ป่วยที่สำคัญ ๆ ทั้งเรื่องของการแพ้ยา ประวัติการทานยา หรือโรคเรื้อรังที่เป็นอยู่ เป็นต้น เพื่อช่วยให้แพทย์ทำการรักษาต่อได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น ซึ่งขณะนี้ "หมอพร้อม" เรารองรับบริการทั้งในส่วนของ การจองคิว เช็คจุดสถานที่ในการรับวัคซีน ใบรับรองการฉีดวัคซีนเพื่อใช้ในการเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อช่วยให้ผู้ที่ต้องการเดินทางสามารถแสดงผลการฉีดวัคซีนได้อย่างสะดวกและน่าเชื่อถือ ทั้งยังมีบริการใบรับรองแพทย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ซึ่งในทุกบริการจาก “หมอพร้อม” ได้นำ Digital ID เข้ามาเป็นส่วนสำคัญที่ไม่เพียงช่วยในการยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการหรือผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังช่วยในการตรวจสอบและยืนยันสถานะของแพทย์ผู้เซ็นต์ใบรับรองต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

 

โดยภายในแอปฯ หมอพร้อมนั้น เราได้มีการแบ่งลำดับขั้นของความปลอดภัยไว้ 3 ขั้น ได้แก่ ขั้นที่ 1 เป็นข้อมูลด้านวัคซีนและข้อมูลทั่วไปที่ถูกใช้งานกันอย่างแพร่หลาย สามารถเข้าถึงด้วยระดับความปลอดภัยที่ไม่สูงมากนักและมีวิธีการที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และขั้นที่ 2 จะเป็นการเข้าถึงประวัติการรักษาพยาบาล ความปลอดภัยเทียบเท่ากับการเข้าใช้บริการทางการเงินกับธนาคาร และขั้นที่ 3 จะเป็นการเข้าถึงประวัติการรักษาอย่างเต็มรูปแบบ ที่มีเพียงหมอที่ทำการรักษาเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ โดยแอปฯ หมอพร้อมเราจะมีมาตรฐานที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะ ทุกโรงพยาบาลที่เข้าร่วมกับหมอพร้อมก็จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่มีให้เหมือนกัน ซึ่งนี่จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้โรงพยาบาลที่เข้าร่วมกับหมอพร้อม ได้มีกรอบแนวทางในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานโรงพยาบาลให้เดินหน้าไปพร้อมกันทั้งระบบ โดย "หมอพร้อม"  ตั้งอยู่บนหลักการที่ว่า "ยืดหยุ่นและเปิดกว้าง" เพราะเรารู้ดีว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทุกคนไม่ว่าใคร อายุ หรือระดับรายได้เท่าไหร่ก็มีสิทธิที่จะเสี่ยงทั้งนั้น และคนไทยมีแอปพลิเคชัน Line กันทุกคน หมอพร้อม จึงให้บริการทั้งผ่านแอปฯและผ่าน Line ไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ เรายังพบว่า มีกลุ่มคนโดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ใช่คนไทย ที่เข้าเมืองมาโดยไม่ถูกกฎหมาย ไม่มีเอกสารแสดงตัวตน ตลอดจนผู้สูงอายุบางท่านที่มีบัตรประชาชนแบบเก่ามาก ๆ หรือมีเพียงปีเกิดไม่มีวันเกิด และเด็กแรกเกิดที่ยังไม่มีบัตรประชาชน ประเด็นเหล่านี้ก็เป็นที่มาของหลักการในการดำเนินงานของวหมอพร้อมตามที่ได้กล่าวข้างต้น เพื่อพัฒนาบริการที่ยืดหยุ่นและเปิดกว้าง  เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงบริการสำคัญๆ อย่างเรื่อง วัคซีน ครอบคลุมทุกกลุ่มคนในประเทศไทย และในอนาคตเราก็อยากจะเห็น “หมอพร้อม” กลายเป็นแอปฯ ที่ใช้ยืนยันตัวตนแทนบัตรที่สามารถเข้าใช้บริการในโรงพยาบาลได้ทุกโรงพยาบาลทั่วไทย

 

 

นพ. นิมิตร์ ศิริธนากิจ เพจหมอหมี เม้าท์มอย ที่ทำให้เรื่องสุขภาพยากๆ ให้เป็นเรื่องง่าย กล่าวว่า e-Health มีความสำคัญมากๆ ต่อระบบสาธารณสุขบ้านเรา เพราะการนำเทคโนโลยีมาเชื่อมโยงระหว่างผู้ให้บริการทางด้านสุขภาพกับประชาชน จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาให้ดีขึ้น ที่สำคัญประชาชนยังสามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้ ข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพได้ง่ายขึ้นและนำข้อมูลเหล่านี้ไปแก้ปัญหาสุขภาพของตัวเองได้ดีขึ้นและเมื่อมีสุขภาพดีก็จะไม่ต้องมาโรงพยาบาล เป็นการลดภาระทั้งบุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาล เชื่อว่าในอนาคต e-Health จะมีบทบาทสำคัญมาก ๆ ต่อวงการแพทย์และระบบสาธารณสุขของเรา และ Digital ID ไม่เพียงเข้ามาทำให้การให้บริการ e-Health ปลอดภัย น่าเชื่อถือเท่านั้น แต่ยังทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสิทธิการรักษาได้ง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและหากมีการรวบรวมข้อมูลการรักษาใว้ในที่เดียวผ่านแอปฯ หรือ แพลตฟอร์ม e-Health ยังทำให้แพทย์ทำการรักษาและวินิจฉัยผู้ป่วยได้ทันท่วงทีและผู้ป่วยเองก็สะดวก เพราะสามารถเข้ารับการรักษาที่ไหนก็ได้ ขอเพียงมีแอปพลิเคชันที่รวบรวมประวัติการรักษาและมีการยืนยันตัวตนว่าเป็นเราและเป็นแพทย์จากโรงพยาบาลทำการรักษาเราจริงๆ

 

 

ซึ่ง 4 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้บริการเลือกใช้บริการด้านสาธารณสุข ได้แก่   

1. เรื่องของความสะดวกสบาย ไม่ต้องไปโรงพยาบาลแต่หาหมอที่บ้านได้

2. ความรวดเร็วของการส่งต่อข้อมูลประวัติการรักษา ที่ครอบคลุมทั้งในระบบส่วนกลางหรือในแอปฯ e-Health ที่คนไข้มีและสามารถเปิดให้แพทย์ดูหรือการส่งต่อข้อมูลระหว่างโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัด เอกชนหรือว่าโรงพยาบาลรัฐ ก็ต้องเชื่อมโยง เพื่อให้สามารถทำการรักษาได้รวดเร็วมากขึ้น ลดโอกาสการรักษาที่ผิดพลาด

3. การเข้าถึงที่ง่าย ใช้ง่าย สะดวก ก็จะเข้าถึงทุกช่วงอายุ

4. ความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งต้องยอมรับว่า มีบางคนที่ยังไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล จึงเลือกที่จะยังไม่ใช้บริการ e-Health จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีมาตรการด้านความปลอดภัย ในการปกป้องข้อมูลของผู้ป่วยหรือประชาชน ซึ่งถ้าแพลตฟอร์มหรือแอปฯ e-Health มีครบอย่างน้อยจาก 4 ข้อข้างต้น การใช้งานบริการด้านสุขภาพและสาธารณสุขผ่านบริการดิจิทัลต่าง ๆ ก็จะทำให้ผู้ใช้งานมีความเชื่อมั่น และการใช้งานจะแพร่หลายมากขึ้น


สำหรับผู้สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดความรู้เกี่ยวกับ Digital ID ตลอดจนบริการที่มีการเชื่อมต่อ Digital ID เพิ่มเติมหรือรับชมงาน The Secret of e-Health ย้อนหลังได้ททางเพจเฟซบุ๊ก MEiD มีไอดี https://www.facebook.com/meid.thailand

[อ่าน 1,272]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
BEM คว้า 2 รางวัลองค์กรเด่นจาก IAA Awards 2025 ตอกย้ำมาตรฐานบริหารและงานนักลงทุนสัมพันธ์โปร่งใส
SYNNEX เปิดคลังลดแรงส่งท้ายปี กับงาน Synnex Big Bang Sale 2025 วันที่ 14–15 พ.ย. นี้
“โอ๊ตไซด์” จับมือพันธมิตรร้านกาแฟกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ เพิ่มโอกาสเข้าถึงนมโอ๊ตคุณภาพสำหรับทุกคน แบบไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
หมัดเด็ดส่งท้ายปี! MK คุ้มเกินคุ้ม 299 บาท รวมพลังเมนู “ลูกชิ้น MK” ทานได้ไม่อั้น
พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 30 ปี จัดคาราวานตรวจสุขภาพฟรี “Healthy U by Prudential” ส่งเสริมคนไทยใส่ใจสุขภาพ
กองทุนประกันชีวิตเข้าร่วมออกคูหานิทรรศการในงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 20 (Money Expo 2025 CHIANGMAI)
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved