เทเลนอร์ เอเชีย เผยผลการศึกษา 5 เทรนด์สำคัญ ที่ผู้คนใช้เวลากับมือถือพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
08 Sep 2022
  • กระแสการใช้งานดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยังไม่มีสัญญาณของการชะลอตัว สามในสี่คาดว่าการใช้งานจะเพิ่มขึ้น โดยผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยเป็นผู้นำเทรนด์นี้
  • Gen Z และ Millennials กังวลว่าตนเองใช้เทคโนโลยีมากเกินไป และขาดทักษะในการก้าวให้ทันกับดิจิทัลที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
  • เกือบทั้งหมด (93%) มีข้อกังวลหลักเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย แต่ประเทศไทยมีความกังวลในระดับต่ำสุดที่ 75%
  • ใน 4 มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับศักยภาพของการเชื่อมต่อมือถือเพื่อช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่ยั่งยืนมากขึ้น
  • 9 ใน 10 เชื่อว่าการเชื่อมต่อผ่านมือถือช่วยยกระดับการเข้าถึงด้านการเงิน การดูแลสุขภาพ และการศึกษา

 

จากผลการศึกษา "Digital Lives Decoded" ของเทเลนอร์เอเชีย พบว่าผู้คนทั่วเอเชียเชื่อว่า พลังของการเชื่อมต่อจากมือถือช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจมากขึ้น ให้ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน และสามารถเข้าถึงบริการที่จำเป็นมากขึ้น

ในวาระครบรอบ 25 ปีของเทเลนอร์ในเอเชีย ได้ทำการวิจัย โดยสำรวจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือกว่า 8,000 รายในแปดประเทศ (บังกลาเทศ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม) ในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การสำรวจเผยให้เห็นถึงความตระหนักในประโยชน์ของชีวิต ซึ่งการเชื่อมต่อมือถือช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และมอบความสะดวกสบาย และทำให้ผู้คนมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัลได้ง่ายขึ้น

 

 

ผลสำรวจของประเทศไทย

  • คนไทยรู้สึกว่าโทรศัพท์มือถือช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (68%) เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 58% สำหรับทุกตลาดที่ทำแบบสำรวจ
  • คนไทยมีความกังวลน้อยที่สุดในเรื่องปัญหาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานมือถือ (27%) เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 58%
  • คนไทยยังแสดงความมั่นใจสูงสุดเมื่อเทียบกับผู้ตอบแบบสำรวจในประเทศอื่นๆ ว่าจะสามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในอนาคต โดยมีเพียง 63% ที่มีความกังวลในด้านนี้ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 85%
  • คนไทยเห็นประโยชน์และมีแนวโน้มที่จะใช้งานมือถือเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า (49%) เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยโดยรวมที่ 37%
  • มากกว่าครึ่งของคนเมือง (55%) คาดว่าจะใช้งานมือถือเพิ่มขึ้นในช่วงเวลานี้ (55%) เทียบกับค่าเฉลี่ย 41% ของคนที่อาศัยอยู่นอกเมือง

ผู้ตอบแบบสำรวจ 93% เชื่อว่าการใช้งานโทรศัพท์มือถือช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยรวมแล้ว ผู้หญิงเป็นผู้นำเทรนด์นี้ โดย 63% กล่าวว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับผู้ใช้งานเพศชายที่ 52% แนวโน้มนี้ชัดเจนที่สุดในประเทศไทย (75%) และอินโดนีเซีย (71%) ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานเพศหญิงที่เชื่อมต่อกับ "ชีวิตที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ" ผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นจำนวนสูงที่สุด

“หลายครั้งที่มีการรายงานว่าอุปกรณ์พกพา ทำให้ผู้ใช้เสียสมาธิจากคนรอบข้าง และสร้างความเสียหายต่อความสัมพันธ์และทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล อย่างไรก็ตาม ความคิดเช่นนี้ได้หมดไป เมื่อเทียบกับก่อนเกิดการระบาดใหญ่ ยอดการใช้งานดาต้าบนมือถือนั้นเพิ่มสูงขึ้นกว่าเท่าตัวในตลาดเอเชีย และได้เปลี่ยนวิธีการสื่อสารของเราทั้งในที่ทำงานและที่บ้าน แบบสำรวจนี้ยังชี้ให้เห็นด้วยว่าผู้คนต้องการให้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับการใช้งานดิจิทัลและชีวิตประจำวันของพวกเขาคงอยู่ต่อไป และแม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ด้านการเดินทางและการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมแล้ว แต่การใช้งานดิจิทัลนั้นยังคงอยู่ในระดับสูง

ในยามที่การเชื่อมต่อนั้นทำให้อำนาจอยู่ในมือของผู้คน การศึกษานี้ยังเผยให้เห็นว่าช่องว่างทางดิจิทัลยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชากรในชนบทและผู้สูงอายุ เมื่อการเชื่อมต่อทางมือถือนั้นเปลี่ยนสถานะจากสิ่งที่ ควร” มี ไปเป็นสิ่งที่ “ต้อง” มี การทำความเข้าใจช่องว่างเหล่านี้จึงมีความสำคัญมากขึ้น ทั้งในระดับผู้กำหนดนโยบาย องค์กรธุรกิจ และปัจเจกบุคคล ข้อมูลเชิงลึกจากการศึกษานี้ทำหน้าที่เป็นเสมือนแผนที่ที่ชี้ให้เห็นว่าช่องว่างทางดิจิทัลในจุดใดบ้างที่ควรได้รับการเติมเต็มมากที่สุด” นายเยอเก้น โรสทริป หัวเรือใหญ่แห่งเทเลนอร์เอเชียกล่าว

 

1. ไถฟีด ไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง

ผู้ตอบแบบสำรวจเกือบทั้งหมดพกโทรศัพท์มือถือติดตัวเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งวัน และหนึ่งในห้าพกโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่รู้สึกว่าตนเองสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างสมดุล (76%) ผู้คนในฟิลิปปินส์และไทยมีชีวิตที่พึ่งพาอยู่กับโทรศัพท์มือถือมากที่สุด โดย 29% และ 26% ตามลำดับกล่าวว่าพวกเขาพกโทรศัพท์มือถือติดตัวตลอดเวลา การใช้ชีวิตที่พึ่งพาโทรศัพท์มือถือนี้คาดว่าจะเติบโตขึ้น โดยเกือบสามในสี่ของผู้ตอบแบบสอบถาม (74%) คาดว่าการใช้งานมือถือของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวนั้นสูงที่สุดในกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามในประเทศไทย (82%)

 

2. ชีวิตดิจิทัลที่ล้ำหน้า

ความแตกต่างระหว่างวัยเกี่ยวกับความรู้สึกของผู้คนต่อการใช้เวลาบนโลกออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นนั้นชัดเจน โดยคน Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจที่อายุน้อยที่สุด มีแนวโน้มที่จะรู้สึกว่าพวกเขากำลังใช้เทคโนโลยีมากเกินไป ผู้ตอบแบบสำรวจ Gen Z ยังมีความกังวลมากที่สุดเกี่ยวกับการมีทักษะที่เหมาะสมในการก้าวให้ทันเทคโนโลยี เช่นเดียวกับคนวัยมิลเลนเนียล นี่เป็นข้อกังวลที่เกิดขึ้นร่วมกันในทุกวัย โดย 85% ของผู้ตอบแบบสอบถามกังวลว่าทักษะด้านดิจิทัลของพวกเขาจะก้าวไม่ทันกับสภาพแวดล้อมทางดิจิทัลที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งในบรรดาประเทศที่ทำการสำรวจ ประเทศไทยนั้นมีความกังวลในเรื่องนี้น้อยที่สุด (63% ของผู้ตอบแบบสอบถาม)

 

3. (ขาด) ความไว้วางใจในโลกดิจิทัล

ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 93% จากทั่วทั้งภูมิภาคมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยจากการใช้งานมือถือและอุปกรณ์เคลื่อนที่ ท่ามกลางอัตราการใช้งานดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในบรรดาผู้ที่ลดการใช้มือถือลงในปีที่ผ่านมา หนึ่งในสามของผู้ตอบแบบสอบถามชาว Gen Z ในมาเลเซียกล่าวว่าความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้พวกเขาใช้งานมือถือลดลง ในทางกลับกัน คนในประเทศไทยนั้นมีความกังวลน้อยที่สุด โดยเกือบหนึ่งในสี่ของผู้ตอบแบบสอบถาม (27%) ไม่มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

 

4. เข้าถึงการดำรงชีวิตที่ยั่งยืน

การศึกษายังเผยให้เห็นถึงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับศักยภาพของเทคโนโลยีมือถือในการพัฒนาความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สามในสี่ของผู้ตอบแบบสำรวจเชื่อว่าการเข้าถึงดิจิทัลนั้น “สำคัญมาก” สำหรับพวกเขาในการดำเนินชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของในประเทศไทยนั้นอยู่ในระดับต่ำที่สุด (63%) มาเลเซีย (57%) และสิงคโปร์ (41%)

ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าการใช้งานเทคโนโลยีมือถือก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในด้านการลดการใช้กระดาษ ขยะ และไฟฟ้า (70% ของผู้ตอบแบบสอบถาม) สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น (67%) และช่วยให้เข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ดีขึ้นด้วยข้อมูลที่มากขึ้น (55%)

 

5. เทคโนโลยีมือถือกำลังปิดช่องว่างทางดิจิทัล

การศึกษายังชี้ว่า ผู้หญิงเห็นศักยภาพในการใช้มือถือมากขึ้น โดยผู้ตอบแบบสอบถามเพศหญิงกล่าวว่าการเชื่อมต่อผ่านมือถือได้เพิ่มทางเลือกในการทำงานและสร้างรายได้ และทำให้เข้าถึงข้อมูลและโอกาสทางการศึกษาได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าผู้ตอบแบบสอบถามเพศชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย โดยที่ผู้หญิงสามในสี่ (75%) กล่าวว่าการใช้มือถือทำให้ชีวิตดีขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ชายที่ครึ่งหนึ่ง (49%)

ผู้ตอบแบบสอบถามยังตระหนักด้วยว่าการเชื่อมต่อมือถือนั้นเป็นตัวช่วยสร้างความเท่าเทียม ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงบริการที่จำเป็นได้มากขึ้น ซึ่งช่วยยกระดับชีวิตประจำวันของพวกเขา เช่น การศึกษา (88%) และบริการด้านสุขภาพ (88%)

อย่างไรก็ตาม บริการทางการเงินเป็นจุดที่โทรศัพท์มือถือนั้นช่วยสร้างความเท่าเทียมอย่างมีนัยสำคัญ โดย 92% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าการมีอุปกรณ์มือถือช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงิน ในขณะที่มากกว่าครึ่งหนึ่ง (57%) เชื่อว่าการเข้าถึงบริการทางการเงินพวกเขานั้น “ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” อย่างไรก็ดี ผลสำรวจในข้อนี้ชี้ให้เห็นความแตกต่างด้านมุมมองในการเข้าถึงระหว่างผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง (60%) และพื้นที่ชนบท (50%) ซึ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นอย่างต่อเนื่องในการขยายการเข้าถึงบริการเหล่านี้ไปยังผู้ที่อาศัยอยู่นอกเขตเมือง

 

“เนื่องจากการเชื่อมต่อผ่านมือถือกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานในชีวิตประจำวันของเรา การขาดทักษะและความตระหนักรู้ที่เหมาะสม รวมถึงปัญหาด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว หรือการอยู่นอกเครือข่ายการใช้งาน อาจจำกัดการเข้าถึงการศึกษา การดูแลสุขภาพ เศรษฐกิจ และโอกาสในการจ้างงานอย่างรุนแรง ความจำเป็นในการทำความเข้าใจช่องว่างทางดิจิทัลและการลดช่องว่างดังกล่าวนั้นมีความสำคัญมากขึ้น ในยามที่เราทำงานร่วมกันเพื่อสร้างอนาคตที่การเชื่อมต่อผ่านมือถือจะเสริมสร้างศักยภาพและความยั่งยืนสำหรับทุกคน” นายเยอเก้น กล่าว

[อ่าน 1,642]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บีโอไอชู Thailand FastPass เร่ง “บราสเคม สยาม” เดินหน้าเอทิลีนชีวภาพรายแรกในเอเชีย ตั้งเป้าเสร็จปี 2571
ACSC ผนึก Meta–หน่วยงานต่างประเทศ เปิดปฏิบัติการ “Joint Disruption Week” กวาดล้างแก๊งสแกมข้ามชาติในอาเซียน
สเปอร์ส–ลิเวอร์พูล ดวลเดือดนัดพิเศษ ชูพลังฟุตบอลระดมทุนช่วยผู้ป่วยมะเร็งเด็ก วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคมนี้
เดอะมอลล์ ผนึก เอกชนสุขุมวิท ทุ่ม 200 ล้าน สร้าง “EXTRAVAGANZA SUKHUMVIT COUNTDOWN 2026” ดันสุขุมวิทสู่แลนด์มาร์กเคานต์ดาวน์โลก
WELOVEGOLF Tournament 2025 ผสานพลังสมาชิกและพันธมิตร ส่งมอบความรักและความสุข ให้น้องๆ
กสิกรไทยเดินหน้าเศรษฐกิจสีเขียว จับมือกรมลดโลกร้อน หนุนผู้ประกอบการเข้าโครงการ G-Green
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved