‘อจินไตย’ เปิดแผนลงทุนครั้งใหญ่ทุ่ม 100 ล้านบาท สยายปีกขยายลงทุนเพียบทั้งธุรกิจศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจร ‘Ajintai Wellness Clinic & Spa’, ธุรกิจบันเทิง ‘Ajintai Entertainment’ หวังกระโดดขึ้นมาอยู่แถวหน้าทั้ง 2 ธุรกิจภายใน 3 ปี พร้อมดันยอดรายได้แตะ 1,000 ล้านบาทในสิ้นปี 2566 สวนกระแสเศรษฐกิจขาลง พร้อมแผนขยายฐานธุรกิจทำสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ ‘Ajintai’ และบ้านพักคนชรา เติมพอร์ต ‘อจินไตย ไทยแลนด์’

รุกขยายธุรกิจทั้งแนวดิ่ง แนวนอน

‘อจินไตย’ (Ajintai) เป็นชื่อมาสเตอร์แบรนด์ ที่ ภิญญาพัชร์ ธีรพิริยากรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท อจินไตย ไทยแลนด์ จำกัดต้องการสร้างอาณาจักรของเธอออกไป ทั้งแนวดิ่งและแนวนอน จากการประกาศทิศทางธุรกิจครั้งล่าสุดที่ ‘อจินไตย’ ขยายฐานธุรกิจสู่ธุรกิจศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจร และธุรกิจบันเทิง ซึ่งเป็นฐานธุรกิจเดิม พร้อมทั้งธุรกิจใหม่ในแผนงานอย่างธุรกิจสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ และธุรกิจอสังหาอย่างธุรกิจบ้านพักคนชรา

จากฐานเดิมของธุรกิจบันเทิง ในฐานะผู้ผลิตคอนเทนท์ และเจ้าของสังกัดศิลปินดารานักร้อง ภายใต้ชื่อ ‘Ajintai Entertainment’ (อจินไตย เอ็นเตอร์  เทนเม้นท์) นั้น การขยายฐานสู่ ธุรกิจศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจร ภายใต้ชื่อ ‘Ajintai Wellness Clinic & Spa’ (อจินไตย เวลเนส คลินิก แอนด์ สปา) ถือเป็นการขยายฐานในแนวดิ่ง (Vertical Diversification) เนื่องจากเบื้องหลังความสวยหล่อ หรือบุคลิกอันน่าชื่นชมนั้นล้วนต้องปรับแต่งกันทั้งนั้น ดังนั้น แทนที่จะต้องใช้บริการจากหน่วยงานข้างนอก การขยายฐานธุรกิจดังกล่าวอย่างน้อยก็เพื่อเสิร์ฟบริการให้กับศิลปินของตนเอง และเมื่อบวกกับความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ เครื่องมือที่ทันสมัย ตลอดจนบริการที่เทียบเท่ากับโรงพยาบาลชั้นนำ นี่จึงเป็นการบุกธุรกิจบิวตี้แบบจริงจังที่ ภิญญาพัชร์ วางเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ของอาณาจักร ‘อจินไตย’ โดยวางแผนขยายฐานธุรกิจส่วนนี้ปีละไม่ต่ำกว่า 5 สาขา หลังเปิดสาขาแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ทาวน์อินทาวน์ ขนาดพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุนกว่า 20 ล้านบาทนำร่องก่อน และภายใน 5 ปีตั้งเป้ามีครอบคลุมกว่า 25 สาขา ส่วนในต่างประเทศ วันที่ 29 ต.ค.นี้ คาดว่าจะเปิดสาขาแรกที่ สปป.ลาว 1 แห่ง จากนั้นก็จะรุกเปิดสาขาในประเทศต่างๆ อาทิ จีน กัมพูชา เวียดนาม อินโดนีเซีย อินเดีย ดูไบ และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น เพื่อหวังสร้างแบรนด์ ‘อจินไตย เวลเนส คลินิก แอนด์ สปา’ สัญชาติไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น รวมถึงในตลาดโลก

ขณะเดียวกัน ‘อจินไตย’ ก็ขยายฐานธุรกิจเดิมในส่วนของเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ด้วยการผลิตคอนเทนท์เพิ่มเติม ละคร ซีรีส์ และศิลปิน Boyband ,Girlgroup ออกสู่ตลาดต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศด้วยเช่นกัน โดยช่องบรอดคาสท์ในประเทศไทยนั้น นอกจากช่องทางหลักก็ยังมีช่องทางเลือกอื่นๆ เช่น NetFlix และอื่นๆ เพื่อขยายอาณาจักร ‘อจินไตย’ ให้เติบโตและแข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งนี้  ภิญญาพัชร์เชื่อว่า ธุรกิจนี้ยังคงเป็น Soft Power ที่มาแรงแซงโค้ง แม้จะแข่งขันรุนแรงก็ตาม ซึ่งวันที่ 29 ต.ค.นี้จะแถลงเปิดตัวซีรี่ส์เรื่อง ‘แปลกใจนักแอบรักเธอ’ นำแสดงโดย พลอยภัช-ภัชธร ธนวัฒน์,โมสต์-วิศรุต หิมรัตน์,ไผ่-พาทิศ พิสิฐกุล เริ่มออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ ในวันที่ 30 ต.ค.นี้

ปัจจุบันบริษัทฯ มีศิลปินดารา นักแสดงในสังกัดประมาณกว่า 20 คน ซึ่งเป้าหมายของอจินไตย ต้องการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนไทยที่มีความสามารถและอยากเป็นศิลปินเข้ามาร่วมเป็นครอบครัวอจินไตยเพิ่มขึ้น รวมถึงผลักดันให้ ‘อจินไตย’ ทั้งในกลุ่มธุรกิจศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจร และธุรกิจบันเทิง ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของเมืองไทยภายใน 3 ปี

ทั้งนี้ ภิญญาพัชร์ คาดการณ์ผลการดำเนินงานภายในสิ้นปี 2565 ว่า “ผลประกอบการของบริษัทฯ จะทำได้แตะ 300 ล้านบาท เป็นรายได้จากธุรกิจสุขภาพและความงาม หรือ Wellness 40% บันเทิง 30% และอื่นๆ 30% หลังจากโหมอัดงบกว่า 100 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจเต็มกำลังในปีนี้ และเป้าหมายในปี 2566 เราคาดการณ์ว่า จะมีผลประกอบการทะลุ 1,000 ล้านบาท”

โมเดลขยายกลุ่มเฮลธ์ & บิวตี้

ภิญญาพัชร์ กล่าวถึงโมเดลการปักธงขยายฐานธุรกิจเต็มสูบครั้งนี้ว่า “ธุรกิจศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจร ที่อจินไตย เวลเนส คลินิก แอนด์ สปา จะมีครบทั้งคลินิกเสริมความงาม, ศัลยกรรมตกแต่ง, ศาสตร์ชะลอวัย Anti-aging  และสปาเพื่อสุขภาพและความงาม โดยจะรุกขยายสาขาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศทั้งรูปแบบ ‘ลงทุนเอง - ร่วมทุน – ขายแฟรนไชส์’ ในทุกขนาด ซึ่งหากเป็นการร่วมทุน หรือขายแฟรนไชส์ ทางเราจะช่วยศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจของทำเลต่างๆ ที่พาร์ทเนอร์นำมาเสนอ และนอกจากเงินลงทุนแล้ว เรายังต้องพิจารณาเงินทุนของหมุนเวียนหลังการลงทุนของพาร์ทเนอร์ด้วย”

ขนาด และการลงทุนของศูนย์สุขภาพและความงาม ประกอบด้วย

• ขนาดเล็กประมาณ            500 ตร.ม.   ลงทุน   5 ล้านบาท
• ขนาดกลาง           800 - 1,000 ตร.ม.  ลงทุน 10 ล้านบาท
• ขนาดใหญ่แบบฟูลสเกล 1,500 ตร.ม.   ลงทุน 20 ล้านบาท

แผนใน Pipeline

ภิญญาพัชร์ กล่าวถึงแผนปี 2566 ซึ่งเป็นการขยายตัวในแนวนอน  (Horizental Diversification) ว่า

“บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายธุรกิจบ้านพักคนชรา โดยยังคงใช้มาสเตอร์แบรนด์  ‘อจินไตย’ เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสทางการตลาดที่จำนวนผู้สูงอายุทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มีเพิ่มขึ้น ทำให้มีความต้องการบ้านพักคนชราที่มีบริการครบครันระดับ 5-6 ดาวมากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสในการลงทุนของอจินไตย ทั้งนี้ ตั้งเป้าที่จะดำเนินโครงการบนพื้นที่ไม่น้อยกว่า 20 ไร่ และอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่และจ. ภูเก็ต

นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ (House Brand) ในกลุ่มเพื่อสุขภาพและความงามในรูปของผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ สบู่ สครับผิว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เป็นต้น ภายใต้แบรนด์ ‘Ajintai’ เพื่อวางขายในช่องทางค้าปลีกต่างๆ รวมถึงในช่องทางขายออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม อาทิ Shopee, Lazada ด้วย นอกเหนือจากการขายผ่านศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจร ‘Ajintai Wellness Clinic & Spa’ เพื่อให้สินค้าเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในวงกว้างมากขึ้น ขณะเดียวกัน ปัจจุบันบริษัทฯ ยังได้รับทำการตลาดให้กับสินค้าแบรนด์เพื่อความงามอื่นๆ ด้วย อาทิ แบรนด์ ‘Aotura Serum’ เป็นต้น”

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมเพื่อสังคม(CSR) ด้วย โดยต่อปีจะใช้งบ 30% ของงบลงทุนทั้งปี ซึ่งปี 2565 นี้ก็ใช้ 30% ของงบ 100 ล้านบาท โดยกิจกรรมใหญ่ของปีนี้ คือ เป็นเจ้าภาพรับดูแลการจัดงานประกวดสำหรับคนหูหนวก ระดับโลก Miss & Mr.Universum 2022 โดยมีผู้เข้าประกวดที่บกพร่องทางการได้ยินเข้าร่วมกว่า 20 ประเทศ เป้าหมาย คือ การให้โอกาสผู้บกพร่องทางการได้ยินจากทุกมุมโลก ได้แสดงศักยภาพ กล้าแสดงออก และได้รับโอกาสทางสังคมที่ดี  อีกทั้งอจินไตยยังได้สัมพันธภาพและภาพลักษณ์ที่ดีจากทุกทั่วมุมโลกด้วย”