บอร์ดบีโอไอไฟเขียว 9 มาตรการเร่งดึงลงทุน เพิ่มกลุ่มกิจการใหม่ ตั้งคณะอนุ กก. ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เชิงรุก
04 Nov 2022

บอร์ดบีโอไออนุมัติ 9 มาตรการชุดใหญ่ กระตุ้นลงทุนตามแผนยุทธศาสตร์ ระยะ 5 ปี ตั้งอนุกรรมการปลดล็อกและอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน มีรองนายกฯ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ เป็นประธาน เร่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมมุ่งเป้า นำไทยสู่เศรษฐกิจใหม่ พร้อมปรับเพิ่มหมวดกิจการ ให้สิทธิพิเศษกลุ่ม A1+ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 13 ปี

 

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เป็นประธาน เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนชุดใหม่ ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุน เพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่ ภายใต้ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) จำนวนทั้งสิ้น 9 มาตรการ ดังนี้

1) มาตรการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ 2) มาตรการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน 3) มาตรการรักษาและขยายฐานการผลิตเดิม (Retention and Expansion Program) 4) มาตรการส่งเสริมการย้ายฐานธุรกิจแบบครบวงจร (Relocation Program) 5) มาตรการกระตุ้นการลงทุนในระยะฟื้นฟูเศรษฐกิจ 6) มาตรการยกระดับอุตสาหกรรมไปสู่ Smart และ Sustainability 7) มาตรการส่งเสริมการลงทุน SMEs 8) มาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เป้าหมาย และ 9) มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม

“ทั้ง 9 มาตรการ มีทั้งการปรับปรุงมาตรการเดิมให้ตรงเป้ามากขึ้น ลดความซับซ้อน และเพิ่มมาตรการใหม่ๆ เช่น มาตรการรักษาและขยายฐานการผลิตเดิม (Retention and Expansion Program) และ มาตรการส่งเสริมการย้ายฐานธุรกิจแบบครบวงจร (Relocation Program) ถือเป็นมาตรการเชิงรุก เพื่อตอกย้ำการเป็นฐานการลงทุนสำหรับอุตสาหกรรมใหม่ๆ และศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ ด้วยจุดแข็งของไทยที่สามารถเข้าไปตอบโจทย์ความท้าทายของโลกที่เกิดขึ้น ทั้งความมั่นคงด้านอาหาร การเป็นแหล่งพลังงานสะอาด และการมีฐานอุตสาหกรรมสนับสนุนที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่อการลงทุนในอนาคต รวมถึงออกมาตรการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค เพิ่มเติม เพื่อสร้างโอกาสและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้เกิดขึ้นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ทั้งนี้ มาตรการและสิทธิประโยชน์ที่ปรับใหม่ในครั้งนี้ จะมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2566” นายนฤตม์กล่าว

 

นอกจากนี้ บีโอไอได้ปรับเปลี่ยนหมวดกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุนจาก 7 เป็น 10 หมวดกิจการ เพื่อให้สะท้อนทิศทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ชัดเจนขึ้น เช่น กลุ่ม BCG กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ดิจิทัล อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และบริการที่มีมูลค่าสูง เป็นต้น  พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์กลุ่ม A1+ สำหรับอุตสาหกรรมต้นน้ำที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง เช่น ต้นน้ำของอิเล็กทรอนิกส์ และกิจการพัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมาย ได้แก่ ไบโอเทค นาโนเทค และเทคโนโลยีวัสดุขั้นสูง ที่มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีร่วมกับสถาบันการศึกษาหรือสถาบันวิจัย จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 10 – 13 ปี

รวมทั้งได้เพิ่มประเภทกิจการที่เปิดให้การส่งเสริมการลงทุนใหม่ เช่น กิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicles: FCEV) กิจการผลิตอุปกรณ์สำหรับเซลล์เชื้อเพลิง กิจการสถานีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Battery Swapping Station) กิจการผลิตไฮโดรเจนจากน้ำโดยใช้พลังงานหมุนเวียน รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากไฮโดรเจน กิจการผลิตอาหารแห่งอนาคต กิจการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอวกาศ เป็นต้น

 

 

นายนฤตม์ กล่าวว่า บอร์ดบีโอไอยังได้ตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขอุปสรรคและอำนวยความสะดวกในการลงทุน โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เป็นประธาน เพื่อแก้ไขปัญหาและลดอุปสรรคต่างๆ สำหรับการลงทุน โดยเฉพาะกรณีนักลงทุนรายสำคัญ ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคเชิงนโยบายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใบอนุญาตการประกอบธุรกิจต่างๆ ด้านที่ตั้งสถานประกอบการ หรือด้านแรงงานและบุคลากรทักษะสูง เพื่อเร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่เศรษฐกิจใหม่ นำไปสู่การเติบโตที่ทั่วถึงและยั่งยืนในอนาคต

[อ่าน 539]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คณะกรรมการ คปภ. มีมติเห็นชอบแต่งตั้งรองเลขาธิการ และผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป
SAM มู่งสู่องค์กรธรรมภิบาล ได้รับผลประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสปี 66 ที่ระดับ A
ตังกุยจั๊บเบฟเวอเรจ เปิดตัว จีเอสดี โสมเกาหลีตังกุยจับ สูตรเพิ่มทอรีน 1000 มก.
Hotel Indigo เตรียมเปิดให้บริการในอภิมหาโครงการของกรุงเทพฯ เดอะ ฟอเรสเทียส์
ม.เกษตรศาสตร์ และ อัลเตอร์วิม ร่วมลง MOU ร่วมมือในการพัฒนาการแข่งขันเชิงธุรกิจ ด้านพลังงาน
ราช กรุ๊ป ปิดดีลโรงไฟฟ้าพลังความร้อนไพตัน อินโดนีเซีย มูลค่าลงทุนประมาณ 590.67 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved