เจาะลึกเนสท์เล่กับเส้นทางการลงทุนในประเทศไทย สู่บริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่คนไทยไว้วางใจเกือบ 130 ปี
06 Dec 2022

 

การซื้อผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ที่ร้านค้าใกล้บ้าน ก็เป็นเสมือนการซื้อประวัติศาสตร์ชิ้นหนึ่ง เพราะเนสท์เล่นำเสนอ

 

 

ผลิตภัณฑ์คุณภาพให้กับผู้บริโภคชาวไทยมาเป็นเวลาเกือบ 130 ปี เริ่มต้นจากนมข้นหวานตราแหม่มทูนหัว (Milkmaid) ในปี พ.ศ. 2436 ซึ่งอยู่ในยุคสมัยรัชกาลที่ 5 เลยทีเดียว

 

 

นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าวว่า “ในฐานะบริษัทด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายใต้ปรัชญาการทำงาน Good food, Good life อาหารที่ดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของเนสท์เล่ เรายึดมั่นต่อเจตนารมณ์ในการเปิดพลังแห่งอาหาร เพื่อเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อทุกคนในวันนี้ และในอนาคต ควบคู่กับแผนการทำงาน การลงทุน การพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับ คนไทย และสัตว์เลี้ยง ตลอดจนฟื้นฟูดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างคุณค่าร่วมกันให้กับทุกภาคส่วน”

 

ด้วยเจตนารมณ์และการลงมือปฏิบัติตามเป้าหมาย จึงทำให้เนสท์เล่เติบโตสู่การเป็นบริษัทอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของเนสท์เล่ยังกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคชาวไทยและได้รับความไว้วางใจอย่างต่อเนื่องเกือบ 130 ปี

 

เนสท์เล่ตระหนักถึงศักยภาพของตลาดไทยตั้งแต่เริ่มเข้ามาดำเนินกิจการ จึงมีการลงทุนทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมีการก่อตั้งโรงงานแห่งแรกในประเทศไทยด้วยการร่วมทุนในบริษัท ยูไนเต็ด มิลค์ จำกัด เริ่มดำเนินการในปี พ.ศ. 2510

ในช่วงปี พ.ศ. 2560 - 2565 เนสท์เล่ได้ลงทุนกว่า 10,800 ล้านบาทในประเทศไทย รวมถึงเปิดโรงงานใหม่ 3 แห่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยให้ดียิ่งขึ้น โรงงานแห่งแรกคือ โรงงานเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ สุราษฎร์ธานี ที่เปิดดำเนินการในปี พ.ศ. 2560 ด้วยเงินลงทุน 1,800 ล้านบาท เพื่อผลิตและจัดจำหน่ายน้ำดื่มคุณภาพส่งมอบให้ถึงมือผู้บริโภคในจังหวัดภาคใต้ของไทยมากขึ้น

 

 

 

ในปี พ.ศ. 2563 เนสท์เล่เปิดโรงงานยูเอชที เนสท์เล่นวนคร 7 ด้วยมูลค่าการลงทุน 1,500 ล้านบาท เพื่อผลิตเครื่องดื่มยูเอชทีภายใต้แบรนด์ไมโล และตราหมี

 

 

และเปิดดำเนินการโรงงานเนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์ ด้วยเงินลงทุน 5,000 ล้านบาทอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2565 เพื่อผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดเปียกคุณภาพสูงให้กับตลาดทั้งในและต่างประเทศ

 

นอกจากนี้ เนสท์เล่ยังได้ลงทุนเพื่อขยายการเข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น โดยได้ก่อตั้งฝ่าย eBusiness ขึ้นในพ.ศ. 2562 ด้วยงบลงทุนกว่า 335 ล้านบาท เพื่อทรานสฟอร์มประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ให้โดนใจผู้บริโภคมากขึ้น

 

ในฐานะที่เนสท์เล่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ จึงมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ตั้งแต่การสร้างงานที่มั่นคงให้คนไทย 3,800 คน ไปจนถึงการจ่ายภาษีโดยเฉลี่ยในแต่ละปีกว่า 600 ล้านบาทให้กับรัฐบาลไทย

 

 

ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย เนสท์เล่จะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการขยายธุรกิจในประเทศไทย พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพเพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ในฐานะเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจภายใต้ปรัชญา “Good food, Good life อาหารที่ดีเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี” เนสท์เล่จะเป็นบริษัทที่ร่วมขับเคลื่อนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต

[อ่าน 1,491]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทรู คอร์ปอเรชั่น นำทีมผู้บริหารบุกเซอร์ไพรส์ลูกค้า ร่วม “อัพสัญญาณความสุข อิ่มฟรีรับปีใหม่ @ บาร์บีคิวพลาซ่า”
HONOR เปิดตัวศูนย์บริการแห่งแรกในไทย ‘HONOR Authorized Service Center’

OAC ร่วมชี้การปรับตัวท่องเที่ยวปี 2026 ที่ AI กำลังปฏิวัติและมีส่วนตัดสินใจนักเดินทาง
“กิฟฟารีน” เขย่าตลาดขายตรงส่งท้ายปี 68 คว้า “Superbrands Award 2025” ต่อเนื่อง 15 ปี
ไอคอนคราฟต์ ชวนส่งความสุขผ่าน “A Gift from Thai Craft” เซ็ตของขวัญเปี่ยมคุณค่าจากภูมิปัญญาไทยทั่วประเทศ
ทีทีบี จับมือ ศุภาลัย ติดอาวุธความรู้ด้านการเงิน-ภาษี ปลดล็อคภาระ “เดอะแบก” ให้เบาขึ้น
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved