SHR ในเครือสิงห์ เอสเตท โชว์ผลประกอบการ Q4/2565 ชูกำไรสุทธิ 108 ล้านบาท
28 Feb 2023

SHR ชูผลการดำเนินงานเพิ่ม 93% กวาดรายได้ 8,693 ล้านบาทในปี 2565 เติบโตทะลุเป้าหมาย รับอานิสงส์การฟื้นตัวภาคการท่องเที่ยว พร้อมสัญญาณบวกจากโรงแรมในประเทศไทย ดันรายได้ในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องสู่ 2,570 ล้านบาท และรายงานผลกำไรจำนวน 108 ล้านบาท ซึ่งเป็นการพลิกฟื้นติดกันสองไตรมาสติด ตอกย้ำความแข็งแกร่งของธุรกิจ พร้อมดันรายได้และกำไรปีหน้าโตเด่น

 

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘SHR’ บริษัทในเครือ สิงห์ เอสเตท รายงานรายได้จากการขายและการให้บริการในปี 2565 ที่ 8,693 ล้านบาท เติบโตขึ้นเกือบ 2 เท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งผลักดันจากการเติบโตของผลประกอบการของโรงแรมที่บริษัทฯ ลงทุนเติบโตขึ้นทั้ง 4 พอร์ตโฟลิโอ นำทัพโดยผลประกอบการที่โดดเด่นในโครงการ CROSSROADS มัลดีฟส์ และพอร์ตโรงแรมสหราชอาณาจักร ที่ได้พิสูจน์ศักยภาพในการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งมาตลอดในปี 2565

โดยโรงแรมทั้ง 2 แห่งในโครงการ CROSSROADS มีความโดดเด่น และมีความแตกต่างแบบเฉพาะตัว ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่ม หนุนให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ย (Occupancy rate) เติบโตสู่ 66% พร้อมปรับอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate: ADR) ได้เพิ่มขึ้นกว่า 28% จากปีก่อนหน้า สูงที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานโครงการมา จากการมุ่งเน้นปรับกลยุทธ์ในการบริหารพอร์ตโฟลิโอให้มีประสิทธิภาพ ร่วมกับการพัฒนาและปรับปรุงห้องพักอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองกระแสนิยมในการท่องเที่ยว และสำหรับกลุ่มโรงแรมสหราชอาณาจักรสามารถเพิ่ม Occupancy rate ได้ 10% และ ADR เพิ่มขึ้น 8% จากปี 2564 ทำให้มีรายได้ต่อห้องพักต่อคืน (RevPAR) ที่ 48 ปอนด์ ฟื้นตัวขึ้นไปสูงกว่าปี 2562 ซึ่งถือเป็นปีก่อนเกิดโควิด-19 ได้สำเร็จ

 

 

เสริมทัพด้วยผลประกอบการที่ดีกว่าคาดการณ์ของโรงแรมในพอร์ต Outrigger สอดคล้องกับ Pent up Demand ระดับสูง ส่งผลให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 64% พร้อมปรับอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวันได้เพิ่มขึ้น 48% จากปี 2564 ส่งผลให้รายได้และกำไรจากผลการดำเนินงานของพอร์ตโรงแรม Outrigger เติบโตขึ้นกว่าปีก่อนเกิดโควิด-19

ในขณะที่พอร์ตโรงแรมในประเทศไทย เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนในช่วงปลายปี 2565 เนื่องจากมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ Occupancy rate ฟื้นตัวมาที่ 57%

ทั้งนี้ ผลสำเร็จในการปรับโครงสร้างธุรกิจ รวมไปถึงผลตอบรับที่ดีในการปรับใช้แนวคิดแบรนด์ทราย (SAii) มาสู่โรงแรมที่บริษัทฯ บริหารงานเอง ส่งผลให้ ADR ปรับเพิ่มขึ้นได้ถึง 67% จากปีก่อนหน้า

 

 

สำหรับในไตรมาสที่ 4 เป็นไตรมาสที่เราสร้างรายได้ได้ที่สุดของปี โดยการผลักดันรายได้ได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2565 ตอกย้ำการฟื้นตัวอย่างชัดเจนของภาคการท่องเที่ยว และการเข้าสู่ช่วง Peak seasons ของการท่องเที่ยวของพอร์ตโรงแรมในประเทศไทย และสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ที่สะท้อนภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการเดินทางเพื่อการพักผ่อน เสริมแกร่งด้วยประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโรงแรมในประเทศไทยของบริษัทฯ ผนวกกับความสำเร็จในการปรับโครงสร้างธุรกิจ และผลตอบรับที่ดีในการปรับใช้แนวคิดแบรนด์ SAii มาสู่โรงแรมที่เราบริหารงานเอง ส่งผลให้ ADR เฉลี่ยของโรงแรมในประเทศไทย ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 เติบโตขึ้น 17% จากไตรมาส 4 ของปี 2562 และผลักดันให้ระดับ RevPAR สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 ได้สำเร็จ

โดยเราเห็นผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่องของโรงแรมในประเทศไทยและสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ที่มีอัตราการเข้าพักสูงกว่า 90%ในเดือนมกราคม 2566 และคาดว่าจะรักษาโมเมนตัมที่ดีได้ตลอดในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ ซึ่งจะหนุนให้รายได้รวมของทั้งสองพอร์ตโฟลิโอหลักนี้เติบโตราว 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยแรงส่งของทั้งสองพอร์ตโฟลิโอสำคัญนี้ จะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญที่จะผลักดันการเติบโตของรายได้และกำไรในปี 2566

 

เดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า

“ผลการดำเนินงานในปี 2565 สร้างการเติบโตของรายได้เกือบเท่าตัว บรรลุเป้าหมายที่เราวางไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากความแข็งแรงของฐานรากทางธุรกิจผ่านนโยบายการบริหารจัดการและการลงทุนโรงแรมแบบกระจายความเสี่ยง ตลอดจนความมุ่งมั่นในการยกระดับการบริการเพื่อสอดคล้องต่อความต้องการสูงสุดของนักท่องเที่ยวอย่างเข้มข้น รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มช่องทางการจองที่พักโรงแรมโดยตรง (Direct Booking) ในปีที่ผ่านมา SHR ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและผลจากการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ทำให้เป็นที่ประจักษ์ด้านความสามารถในการฟื้นตัวที่ดีกว่าอุตสาหกรรม ทั้งยังมีรากฐานธุรกิจและสถานะทางการเงินที่พร้อมต่อการขยายกิจการต่อไปในอนาคต”

 

 

สำหรับการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2566 ภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการยกเลิกข้อจำกัดในการเดินทางของประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2562 โดยส่งผลกระทบในเชิงบวกที่จะมีต่อธุรกิจที่ SHR มีการบริหารงานอยู่อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนครองส่วนแบ่งตลาดในโรงแรมมัลดีฟส์และประเทศไทยประมาณ 20% และ 10% ตามลำดับ

นอกจากนั้นแล้ว การเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ของเรา ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการผลักดัน ผลประกอบการของบริษัทในปีถัดๆ ไป ให้เติบโตขึ้น โดยการพัฒนารีสอร์ทแห่งที่ 3 ของโครงการ CROSSROADS คืบหน้าไปตามแผนการ และพร้อมเปิดให้บริการในปี 2566 โดยโรงแรม SO/ Maldives ถือเป็นอัญมณีล่าสุดแห่งมงกุฎการท่องเที่ยวมัลดีฟส์ ที่จะยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวในหมู่เกาะ และเติมเต็มตลาดลักซ์ชัวรี่ให้กับโครงการ CROSSROADS

บริษัทฯ ได้กำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปี 2566 เพื่อให้องค์กรบรรลุวิสัยทัศน์ โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรให้กับสินทรัพย์อย่างสูงสุด

โดยเราตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้ขึ้น 20% ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไรและสร้างฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง รวมถึงการใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อลดต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทฯ เพื่อโอกาสในการขยายการลงทุนผ่านการเข้าซื้อและเข้าบริหารจัดการสินทรัพย์ใหม่ในอนาคตและการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว

 

เดิร์ก กล่าวปิดท้ายว่า “เรามั่นใจต่อทิศทางการดำเนินงานในปี 2566 นี้ ว่าจะผลักดันรายได้ให้ทะลุ 10,000 ล้านบาท โดยใช้กลยุทธ์ในการบริหาร RevPAR ที่มีประสิทธิภาพ ต่อยอดด้วยการเข้าลงทุนใหม่ และการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โดยการปั้นแบรนด์ SAii ควบคู่ไปกับการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจจะมีบทบาทสำคัญที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายในการเป็นผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการโรงแรมชั้นนำที่สามารถสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนได้ SHR จะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจบนรากฐานแห่งความสมดุล ยั่งยืน และบูรณาการ เพื่อสร้างความรับผิดชอบและมูลค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ภายใต้การตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงและการกำกับกิจการที่ดีเสมอ”

[อ่าน 1,267]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“CPNREIT” ดีเดย์จ่ายเงินงวด Q2/68 อัตรา 0.27 บาทต่อหน่วย
กสิกรไทย เปิดตัวการทดสอบ Q Wallet เชื่อมต่อการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติและร้านค้าไทยด้วย THBS
เน็ตฟลิกซ์ทุ่ม 200 ล้านดอลลาร์ หนุนคอนเทนต์ไทยและบุคลากรท้องถิ่น 
ดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่เวทีโลก
CPF เชิญชวนคนไทย ‘ผนึกพลังแห่งการให้’ ฟื้นฟูโรงพยาบาลชายแดน
AWC ผนึกกำลัง Arun Plus ร่วมพัฒนา “Chiang Mai Tram By Lannatique” 
รถแทรมไฟฟ้านำเที่ยวแห่งแรกของไทย
เปิดตัว! HONOR Magic V5 สมาร์ตโฟนจอพับที่บางที่สุดในโลก
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved