ธนาสิริกรุ๊ป (THANA) เปิดแนวรบสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว เผยปี 2565 ยอดขายเติบโตขึ้น 20% มาแตะที่ 1,400 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเปิด 4 โครงการ มูลค่ากว่า 3,300 ล้านบาท และลงทุนข้ามโซนจากนนทบุรีสู่ทำเลใหม่ย่านบางนา หวังขยายฐานกลุ่มลูกค้า และพัฒนาสินค้าให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ตั้งเป้ายอดขาย/รายได้ปีนี้เติบโตประมาณ 30% เตรียมแผนขยับพอร์ตลุยธุรกิจใหม่ ‘บริการลิฟวิ่ง โซลูชั่น และ เวลเนส’ ตอบโจทย์การเติบโตน่าอยู่ยั่งยืน
สุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ธนาสิริกรุ๊ป (THANA) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานและเป้าหมายของปีนี้ว่า
“ในปีที่ผ่านมาแม้จะมีปัจจัยลบจากภาวะสงครามรัสเซีย - ยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงต้นทุนราคาน้ำมัน อีกทั้งภาพรวมการแข่งขันในตลาดก็เป็นไปอย่างเข้มข้น แต่กระนั้น ผลการดำเนินงานของธนาสิริกรุ๊ปก็ยังเป็นไปได้ด้วยดี ทั้งนี้ กล่าวได้ว่า ‘ธนาสิริ’ เติบโตในเชิงตัวเลขอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ด้วยยอดขายในปี 2565 ที่เติบโตขึ้น 20% มาแตะที่ประมาณ 1,422 ล้านบาท ขณะที่รายได้เติบโตจาก 600 ล้านบาทเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ คือ 1,024 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่มีนัยสำคัญ และทำกำไรสุทธิ ได้จาก 61 ล้านบาทในปีก่อนหน้าเป็น 84 ล้านบาทในปี 2565 เติบโตเพิ่มขึ้น 12.2 % มากกว่าปีที่ผ่านมากว่า 3 เท่าตัว จากปีก่อน"
สำหรับปี 2566 นี้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตจากปีก่อนประมาณ 30% และเป้าขายอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท และเป้ารายได้อยู่ที่ 1,300 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และขาย 5 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) 198 ล้านบาท (สิ้นเดือน ธ.ค. 2565) และกว่า 90%จะโอนกันภายในไตรมาสแรกของปีนี้”
ทั้งนี้ ธนาสิริ ยังคงมุ่งกลยุทธ์การเติบโตอย่างสมดุล ความน่าอยู่และยั่งยืน ด้วยการดูแลสังคมและสภาพแวดล้อม พร้อมด้วยการพัฒนาโครงการที่ต่อเนื่องร่วมกับพันธมิตรกลุ่มต่างๆ และการขยายธุรกิจ อย่าง ‘บริการลิฟวิ่ง โซลูชั่น’ (Living Solutions) ที่มุ่งเน้นบริการที่ ‘เข้าถึง-เข้าใจ’ ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง และ ‘ธุรกิจเวลเนส’ (Wellness) ให้สอดคล้องกับเทรนด์ใหม่ๆ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคและสภาวะของตลาด เพื่อเร่งหาโอกาสทางธุรกิจที่คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และเพิ่มโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่สร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ไม่ได้ต้องการแค่ฟังก์ชั่นของบ้าน แต่ต้องการบ้านที่สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัย มุ่งมั่นส่งมอบบ้าน และ ‘สังคมน่าอยู่’ ให้เหมาะกับคนทุกวัย”
“ก่อนหน้านี้ ธนาสิริกรุ๊ป ได้จับมือกับ อนาบูกิ โคซัน พันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์จากญี่ปุ่น ซึ่งมีจุดแข็งจากทีมบริหารที่มีศักยภาพ และเป็นมืออาชีพที่คร่ำหวอดในวงการมาเสริมความแข็งแกร่งขององค์กร และจากนี้ความร่วมมือกับ อนาบูกิ โคซัน จะมีมากขึ้นกว่าเดิม และเปิดโครงการใช่วงเวลาที่เร็วขึ้นกว่าเดิม จากเดิมที่เราเปิดโครงการร่วมกันในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปี 2565 และดำเนินธุรกิจกันอย่าง Conservative แต่จากการดำเนินงานสองโครงการในช่วงปีที่ผ่านมา และได้รับผลตอบรับที่ดี ทำให้กลายเป็นที่มาของความร่วมมือกันในโครงการที่สาม และการข้ามโซนจากนนทบุรีมาสู่ย่านบางนา บางพลี ซึ่งเป็นทำเลที่เติบโตเร็ว และเป็นฐานผลิตของโรงงานญี่ปุ่นในบริเวณนี้ อีกทั้งราคาที่ดินในย่านนี้ไม่แพงและเหมาะสมกับการพัฒนาโครงการในระดับที่ไม่แพงนัก” สุทธิรักษ์กล่าว
ในปีนี้ ธนาสิริกรุ๊ปยังเน้นการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบลักษณะบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ เบื้องต้นมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ รวมมูลค่า 3,300 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการที่เปิดใหม่นั้นนอกจากจะอยู่ในทำเลแถวนนทบุรีแล้ว ยังได้ขยายตัวสู่ทำเลอื่นที่มีศักยภาพ และมีความต้องการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริงโดยเฉพาะทำเลย่านบางนา โดยมุ่งหวังขยายฐานกลุ่มลูกค้า และพัฒนาสินค้าให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ตอบโจทย์แผนการเติบโตใน 3 ปีข้างหน้าปีละ 30% ซึ่งรวมทั้งการพัฒนาโครงการอาคารชุดพักอาศัย (คอนโดมิเนียม) เพื่อรองรับแผนการเติบโตด้านรายได้ โดยกลุ่มเป้าหมายคนเจนใหม่วัยทำงานระดับกลาง-ล่างที่ต้องการอยู่อาศัยจริงเป็นบ้านหลังแรก
1.โครงการ “ธนาวิลเลจ บางนา-บางบ่อ” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ธนาสิริขยายฐานมาทำเลดังกล่าว โดยเป็นการร่วมทุนโครงการที่ 3 กับกลุ่มทุนญี่ปุ่น “อนาบูกิ โคซัน” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 38 ไร่เศษ พัฒนาในรูปแบบของทาวน์เฮาส์และบ้านแฝด ขนาด 35-45 ตารางวา ราคา 2.9-4.5 ล้านบาท จำนวน 348 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,010 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในไตรมาส 2/2566
2.โครงการ “ธนาเรสซิเดนซ์ บรมราชชนนี-ปิ่นเกล้า” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 23 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว ขนาด 100-120 ตารางวา ราคา 17-23 ล้านบาท จำนวน 52 ยูนิต มูลค่าโครงการ 890 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในไตรมาส 2/2566
3.โครงการ “ธนาฮาบิแทต นนทบุรี” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 19 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ขนาด 35-60 ตารางวา ราคา 6-9 ล้านบาท จำนวน 100 ยูนิต มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในไตรมาส 3/2566
4.โครงการ “ธนาฮาบิแทต” บริเวณถนนราชพฤกษ์ นนทบุรี ตั้งอยู่บนพื้นที่ 20 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ขนาด 35-60 ตารางวา ราคา 8-9 ล้านบาท จำนวน 100 ยูนิต มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในไตรมาส 4/2566
ธนาสิริ เราดูแล & THANA GREEN
จรัญ เกษร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ บมจ. ธนาสิริ กรุ๊ป (THANA) ได้กล่าวเสริมถึงปัจจัยที่ส่งผลให้การเติบโตในเชิงตัวเลขของยอดขายและรายได้เป็นไปตามเป้าหมายวางไว้ว่า
“เบื้องหลังความสำเร็จมาจากการดำเนินธุรกิจผ่านกลยุทธ์ THANA GREEN ซึ่งเน้นตอบโจทย์ความคุ้มค่า ควบคู่คุณภาพในทุกโครงการที่พัฒนา เพื่อการอยู่อาศัย และการใช้ชีวิต ในสังคมแห่งการแบ่งปัน ตลอดจนการดูแลสิ่งแวดล้อม อันเป็นแนวคิดหลักของการทำธุรกิจที่ไม่ได้มุ่งเน้นแค่เชิงตัวเลข ควบคู่ไปด้วยคุณค่าของการอยู่อาศัยในแนวทาง Total Green Real Estate Development – Service นอกจากนี้ ธนาสิริยังมี Passion ที่จะสร้างชุมชนของตนเอง ทั้งในระดับครอบครัว เพื่อนบ้านและชุมชนของธนาสิริให้น่าอยู่ มีความเชื่อมโยงกัน และเป็นที่มาของการดำเนินโครงการตรวจสุขภาพบ้าน เพราะเราไม่ใช่บริษัทที่สร้างแต่ที่พักอาศัยเท่านั้น แต่เราต้องการดูแลลูกค้าของเรา ชุมชนของเราเป็น Total Living Solution เนื่องจากบริษัทมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมคุณภาพชีวิตของลูกค้าที่ไม่ใช่เพียงการพัฒนาบ้านที่มีคุณค่า แต่ให้ความสำคัญในมิติของคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดระยะเวลาการเป็นลูกค้า ภายใต้พันธกิจ Lifetime Total Living Solution รวมถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม สังคม และสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development : ESG) ที่สร้างสมดุลของผลประกอบการในเชิงตัวเลข เพื่อเติบโตไปพร้อมกับลูกค้า เพื่อนบ้านข้างเคียง สังคม และร่วมลดผลกระทบและพัฒนาสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ด้าน ซึ่งเป็นภาพรวมของยุทธศาสตร์ที่ว่า "ธนาสิริ ... เราดูแล" เพราะนี่คือการดูแลในภาพรวมที่มาจาก Passion ของธนาสิริอย่างแท้จริง"