“เอกา โกลบอล” ชูธงปั้นองค์กรสีเขียว ปั้นยอดขายโต 2 เท่าในปี 69
11 Apr 2023

“เอกา โกลบอล” ผู้นำนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร แบรนด์คนไทยยักษ์ใหญ่ของโลก เผยเทรนด์ผู้บริโภค มีความต้องการสินค้ารักษ์โลกเพื่อความยั่งยืนมาแรงฉุดไม่อยู่ จ่อเร่งสปีดขยาย “กรีนโปรดักส์” เพิ่มขึ้นในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารเพื่อความยั่งยืน ปั้นยอดขายเติบโตกว่า 2 เท่าในปี 2569

 

ชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) ผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) เปิดเผยว่า

 

"เทรนด์ผู้บริโภคในไตรมาสแรกของปี 2566 มีการปรับเปลี่ยนไป เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคหลังโควิด-19 ที่ความรุนแรงของโรคลดลงอย่างมาก ทำให้ผู้บริโภคเริ่มกล้าดำเนินชีวิตและรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น

 

อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคคนไทยยังคงเอาใจใส่ และให้ความสำคัญกับการเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มีความปลอดภัย ควบคู่กับการมีไลฟ์สไตล์รักษ์โลกมากขึ้น

 

ทั้งความต้องการสนับสนุนและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ที่มีแนวทางเพื่อความยั่งยืน มีการใช้วัตถุดิบและกระบวนการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ซึ่งกระแสดังกล่าวเป็นไปตามเทรนด์ตลาดทั่วโลกที่ต่างก็หันไปในทิศทางนี้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นในปีนี้"

 

 

ทั้งนี้ ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับการปรับลดปริมาณขยะจากอาหาร (Food waste) ที่รับประทานไม่หมด หรือ กินเหลือ มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีรายงานระบุว่าในช่วงที่ผ่านมา เศษอาหารสร้างมลพิษทั่วโลกได้ถึง 8-10% และมีแนวโน้มจะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต

 

“กระแสตลาดทั่วโลก ตอกย้ำว่าโลกมุ่งหน้าไปสู่เทรนด์ธุรกิจเพื่อความยั่งยืน เมื่อผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์รักษ์โลกที่เห็นชัดเจน ทั้งการเลือกใช้ของที่ผลิตจากวัสดุที่ยั่งยืน คงทนและแข็งแรง เพื่อลดความถี่ในการซื้อใหม่ หรือ เปลี่ยนบ่อยๆ

 

อีกหนึ่งกระแสที่กำลังมาแรงและเริ่มเห็นมากขึ้น คือ เทรนด์แยกประเภทขยะ และการใช้ของรีไซเคิล นำของที่ใช้แล้ว กลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง เป็นต้น”

 

สำหรับ “เอกา โกลบอล” นอกเหนือจากความมุ่งมั่นจะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตสู่เป้าหมายเป็นเบอร์ 1 ใน 5 (Top 5) ของบริษัทผู้ผลิตนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารในตลาดโลกแล้ว ในเรื่องของ “ความยั่งยืน” ก็ผลักดันอย่างเต็มกำลัง

 

โดยนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อย่างสมบูรณ์ กำหนดเข้ากับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กร ทั้งการปรับปรุงการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน ลดการใช้ทรัพยากรที่ฟุ่มเฟือย และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ฯลฯ เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth) ให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว

 

ชัยวัฒน์ กล่าวว่า จากความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญและทุ่มงบลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาสินค้า (R&D) มากกว่า 2% ของงบการตลาด ด้วยความเข้าใจในความท้าทายของตลาดโลกและความสำคัญของนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน

 

โดยบริษัทฯ ปรับเป้าหมายมุ่งไปสู่นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น จากเดิม ผลิตภัณฑ์ “เอกา โกลบอล” สามารถรีไซเคิลได้ 100% ขยายผลสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม

 

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมให้เลือก 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ Bioplastic (PLA) บรรจุภัณฑ์ Biodegradable ที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมดและสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล (PCR) หรือ เรซิน รีไซเคิล

 

ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่หยุดนิ่ง สร้างสรรนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อมอบทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น และเพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทั่วโลกที่เปลี่ยนไป

 

โดยตั้งเป้าหมายจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยหนึ่งผลิตภัณฑ์ต่อปีในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า และเพิ่มความสามารถของผลิตภัณฑ์ในการยืดอายุการเก็บรักษาโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็นให้ยาวนานขึ้นจากเดิม 2 ปี เป็น 3-5 ปี

 

 

“ในฐานะผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี บริษัทฯ ตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการคิดค้นและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค

 

ซึ่งเชื่อว่า บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติช่วยยืดอายุการเก็บรักษา จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความยั่งยืนและยังทำให้คุณภาพชีวิตของผู้บริโภคดีขึ้น เพราะมีส่วนช่วยลดปริมาณขยะจากเศษอาหารและขยะพลาสติกได้

 

ขณะเดียวกัน บรรจุภัณฑ์ “เอกา โกลบอล” ยังมีคุณสมบัติช่วยรักษาคุณภาพอาหาร คงรสชาติ และมีความปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยปิดจุดอ่อนของธุรกิจอาหารได้ดี และง่ายต่อการจัดส่งด้วย”

 

ผู้บริหาร “เอกา โกลบอล” กล่าวปิดท้ายว่า ตลอดระยะเวลาของดำเนินธุรกิจกว่าสองทศวรรษ บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด มียอดขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 25% และมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

 

ดังนั้นมั่นใจว่ายอดขายของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2569 โดยมีกลยุทธ์สำคัญ คือ การพัฒนานวัตกรรมและบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารเพื่อความยั่งยืนใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพความแข็งแกร่ง

 

รวมถึงการลงทุนโรงงานใหม่ในประเทศอินเดีย และการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก ฯลฯ

[อ่าน 515]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
GSK รณรงค์การสร้างภูมิคุ้มกันโรคในผู้ใหญ่ สู่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน
บีเทรนด์ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ชวนอัพเดทไอเทมสุดอาร์ต “บีเทรนด์ อาร์ต สเตชั่น 2024”
นันยาง เปิดแคมเปญ “พอดีไม่เหมือนกัน” ชวนนักเรียน “เลิกกดดันตัวเอง”
“อย่าเพิ่งสั่ง! ถ้ายังไม่เปิดเมนูใหม่” เพิ่มความหลากหลาย พร้อมน้ำจิ้ม GON กระทะ
Gentle Monster ‘Jentle Salon Pop-Up’ ป็อปอัปเจาะกลุ่ม Gen Z
“Rock on The Beach 2024” เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ กระตุ้นเศรษฐกิจระยอง เม็ดเงินสะพัดกว่า 150 ล้านบาท
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved