เป็นการกลับมาของเส้นทางที่คนไทยหลายคนน่าจะเฝ้ารอคอยมากที่สุดเส้นทางหนึ่ง สำหรับเส้นทาง ‘กรุงเทพฯ-ซัปโปโร’ ของสายการบินราคาประหยัด ‘ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์’ หลังจากที่ต้องระงับเส้นทางบินไปตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2558 จากปัญหาการติดธงแดงขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) 

         ซึ่งหลังจากการประกาศปลดธงแดงเมื่อเดือนตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา หลายฝ่ายก็เฝ้าจับตามองว่าทางไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จะกลับมาเปิดเส้นทางบินนี้อีกครั้งเมื่อไหร่ เพราะฮอกไกโดก็ถือเป็น Golden Route ที่คนไทยให้ความนิยมมากเป็นอันดับ 2 รองจากโตเกียวเท่านั้น และที่สำคัญยังไม่มีสายการบินราคาประหยัดรายอื่นเข้ามาทำตลาดบินตรงในเส้นทางนี้

         นัตดา บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่า “การเปิดให้บริการเส้นทางดอนเมือง-ซัปโปโร เมืองหลวงของเกาะฮอกไกโด ถือเป็นการเปิดเส้นทางแรกของไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ หลังจากประเทศไทยได้รับการปลดธงแดงจาก ICAO ซึ่งพวกเราก็ดีใจมากที่ได้กลับมาเปิดเส้นทางนี้อีกครั้งเสียที เพราะฮอกไกโดเป็นจุดหมายปลายทางที่มีศักยภาพสูงและได้รับความนิยมอย่างมากจากชาวไทย”

         สำหรับการเปิดตัวเส้นทางบินตรงซัปโปโรของสายการบินไทยแอร์เอเชี เอ็กซ์ มาพร้อมคอนเซปต์ ‘กินปู ดูหมี เล่นสกี ชมลาเวนเดอร์’ โดยจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2561 ในราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 3,990 บาท/เที่ยว และที่นั่งพรีเมี่ยมแฟลตเบดราคาเริ่มต้นที่ 12,900 บาท/เที่ยว เริ่มเปิดให้จองตั้งแต่วันที่ 18-28 มกราคม 2561 ผ่านทางเว็บไซต์ www.airasia.com

         “แต่อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของเส้นทางนี้อยู่ที่ช่วงฤดูร้อนและฤดูอื่นๆ ที่ไม่ใช่ฤดูหนาว เพราะคนไทยส่วนใหญ่จะชอบไปเที่ยวฮอกไกโดแค่ช่วงฤดูหนาว ไปเล่นสกี ดูหิมะ ซึ่งเราก็ต้องมีโปรโมทอย่างต่อเนื่องเพื่อบอกให้คนไทยรู้ว่าฮอกไกโดสามารถเที่ยวได้ทั้งปี เพราะทุกฤดูมีเสน่ห์และความสวยงามแตกต่างกัน อีกทั้งยังมีกิจกรรมที่หลากหลาย และมีจุดเด่นเรื่องอาหารทะเล โดยเฉพาะปูยักษ์ทาราบะ ขณะเดียวกันเราก็ต้องรักษาความสมดุลของเส้นทางด้วยการประชาสัมพันธ์ให้คนญี่ปุ่นเข้ามาเที่ยวในไทยมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งภายในสิ้นปีเราได้ตั้งเป้าอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) ในเส้นทางนี้ไว้ไม่ต่ำกว่า 80%” นัตดากล่าว

         ปัจจุบัน ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิดให้บริการทั้งหมด 3 ประเทศ 5 เส้นทาง ได้แก่ ดอนเมือง-โซล ประเทศเกาหลี (3 เที่ยวบิน/วัน) ดอนเมือง-โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (2 เที่ยวบิน/วัน) ดอนเมือง-โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น (2 เที่ยวบิน/วัน) ดอนเมือง-เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน (1 เที่ยวบินต่อวัน) และล่าสุด ดอนเมือง-ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น (1 เที่ยวบิน/วัน) โดยในปี 2561 ทางสายการบินได้ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนเครื่องบิน A330 เพิ่มอีก 3 ลำ รวมเป็น 9 ลำ ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อรองรับเส้นทางบินใหม่ๆ ที่กำลังจะเปิดในอนาคต

         “ซัปโปโรเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเราในปีนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเรากำลังศึกษาเส้นทางบินใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นและมีศักยภาพในการทำตลาดอีกราว 2-3 เส้นทาง โดยจะเน้นไปที่แถบเอเชียเหนือ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งเรามีความแข็งแกร่งในตลาดนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะในจีนยังมีเมืองใหญ่ๆ ที่ใช้เวลาบินมากกว่า 4 ชั่วโมงที่สายการบินไทยแอร์เอเชียบินไปไม่ถึงอยู่อีกหลายเมือง” นัตดากล่าว

         ทั้งนี้ สายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้ตั้งเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารในปี 2561 ไว้ที่ 2.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีจำนวนผู้โดยสารราว 1.6 ล้านคน ขณะที่เป้าหมายด้านรายได้อยู่ที่ 12,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีกำไรต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งหากเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ก็อาจมีการพิจารณานำไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์

         สำหรับสถิตินักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นในปี 2560 มีจำนวน 980,0000 คน เติบโต 9.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเมืองที่คนไทยชอบไปเที่ยวมากที่สุดอันดับ 1 คือ โตเกียว คิดเป็นสัดส่วนราว 25% ตามมาด้วยฮอกไกโด 16% โอซาก้า 15% และเมืองอื่นๆรวมกัน 44%