ประพันธ์ ผดุงเกียรติสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อายลิ้งค์ วิชั่น จำกัด กล่าวว่า
"บริษัทยังคงเดินตลาดในเชิงรุกมุ่งเน้นแว่นตาแนวฟังก์ชั่นนอลเป็นอันดับ 1 เพราะมีความเชี่ยวชาญในการจัดจำหน่ายในประเทศไทยมานานกว่า 20 ปี และได้รับลิขสิทธิ์ในการจำหน่ายแว่นตาฟังก์ชั่นนอลมากเป็นอันดับ 1 ของไทย โดยจากประสบการณ์ที่ยาวนานของบริษัทและจำนวนแบรนด์ที่บริษัทได้นำเข้าและจัดจำหน่าย ทำให้สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดแว่นตาฟังก์ชั่นนอลในประเทศไทยเกิน 80% ของตลาดรวม
ทั้งนี้อายลิงค์แบ่งประเภทสินค้าออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแว่นตาแฟชั่น และกลุ่มแวนตาฟังชั่นนอล ปัจจุบันมีการจำหน่ายแบรนด์ ic!berlin (ไอซี!เบอร์ลิน) ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ทำรายได้ในสัดส่วน 60% จากแบรนด์ทั้งหมดที่นำเข้ามาจำหน่าย ส่วนแบรนด์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ แบรนด์ Dior (ดิออร์), Givenchy (จีวองชี่), Silhouette (ซิลลูเอท) และ Kenzo (เคนโซ่)
อีกทั้งในไตรมาส 3 ของปีนี้ มีการนำเข้าแบรนด์ดังจำนวน 6 แบรนด์ ซึ่ง 3 แบรนด์จะเป็นกลุ่มแว่นตาแฟชั่นสตรีทไฮเอนระดับโลก คือ Off White (ออฟไวท์) Palm Angels (ปาล์ม แองเจิล) และ Porsche Design (พอร์ช ดีไซน์) และอีก 3 แบรนด์เป็นกลุ่มแฟชั่นนอล
ขณะที่งบประมาณการลงทุนทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็น โซเชียลมีเดีย สื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ รวมถึงทีมการตลาดเข้ามาทำงานร่วมกับดีลเลอร์ งบประมาณการลงทุนในปีนี้สูงกว่าปีที่แล้ว 50% หรือประมาณ 50 ล้านบาท โดยจะทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น แม้คู่แข่งจะมีไม่มากแต่ประมาทไม่ได้ที่สำคัญต้องการขยายฐานลูกค้าจากที่มีอยู่แล้วให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม เพิ่มความหลากหลายให้กับกลุ่มผู้บริโภค เพศ และ อายุที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้น"
ทั้งนี้ใช้กลยุทธ์แอมบาสเดอร์ โดยมี แอลลี่ อชิรญา นิติพน เชื่อมั่นว่าสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นที่ชื่นชอบแบรนด์แฟชั่นระดับพรีเมี่ยมและให้ความสนใจแบรนด์ ic!berlin มากขึ้น โดยคอลเลคชั่นใหม่มีสีสันและสไตล์เหมาะกับวัยรุ่นผู้หญิงมากขึ้น ส่วนตลาดกลุ่มผู้ชายนั้นแบรนด์แอมบาสเดอร์ยังคงเป็นหมาก ปริญ สุภารัตน์ นอกนี้มีการปรับกลยุทการโปรโมทที่เน้นโซเชียลมีเดีย เพิ่มสื่อโฆษณาในแหล่งวัยรุ่น ร่วมมือกับดีลเลอร์และตัวแทนจำหน่ายปรับภาพลักษณ์ หรือจุดขายภายในร้าน เปลี่ยนตู้โชว์ ic!berlin ให้มองเห็นสินค้าเด่นชัดขึ้น
กรรมการผู้จัดการ บริษัท อายลิ้งค์ วิชั่น จำกัด กล่าวต่อว่า สำหรับปี 2565 ที่ผ่านมาบริษัทมีผลประกอบการอยู่ที่ 350 ล้านบาท มีอัตราเติบโตต่อเนื่อง 5% และมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 20% ทั้งนี้จากภาพรวมตลาดขายปลีกแว่นตาปี 2565 มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 7,000 ล้านบาท ทำให้ในปีนี้คาดว่าภาพรวมตลาดขายปลีกจะเพิ่มขึ้นอีก 10-15% หรือประมาณ 8,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามหลายคนมักสงสัยว่าทำไมช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือการผ่านช่วงเวลาของโรคระบาดอย่าง โควิด-19 มานั้น บริษัท อายลิ้งค์ วิชั่น กลับทำยอดขายเพิ่มขึ้นและมีกำไรจากการจำหน่ายแว่นตาที่ถูกมองว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ทั้งนี้จากการที่บริษัททำยอดขาย ic!berlin สูงสุดในเอเชียตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปีที่แล้วบริษัทมียอดเติบโตเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดทั้งแว่นกันแดดและกรอบแว่นสายตา
ทั้งนี้เนื่องจากผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อไม่ได้สนใจสิ่งเร้ารอบข้าง ที่สำคัญคือชื่นชอบในแบรนด์ ic!berlin อยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้มีการเปิดประเทศยิ่งทำให้เกิดการใช้จ่าย โดยพันธมิตรทางธุรกิจคือ บริษัท กรุงไทย ออพติค จำกัด หรือ KT OPTIC ยังคงสนับสนุนการตลาดทุกรูปแบบอย่างสม่ำเสมอ
ชัชวาลย์ วณิชไพสิฐ กรรมการบริหาร บริษัท กรุงไทย ออพติค จำกัด กล่าวว่า
"ปัจจุบัน KT OPTIC มีจำนวน 160 สาขาทั่วประเทศและเตรียมเปิดเพิ่ม 6-8 สาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดที่มีต่อเนื่อง โดยปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัททำยอดขายได้ 850 ล้านบาท และในปี 2565นี้ ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 900 ล้านบาท หรือเติบโต 8% โดยเน้นทำตลาดในกลุ่มแว่นตาพรีเมี่ยม มีคุณภาพและเหมาะกับชีวิตประจำวัน"
ทั้งนี้ กลยุทธ์ในการขายคือมีสินค้าเป็นที่รู้จักในระดับโลก ทั้งแบรนด์แฟชั่นและฟังก์ชันนอลและมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง โดย KT OPTIC และ อายลิ้งค์ วิชั่น เป็นพาร์ทเนอร์ชิพต่อเนื่องและยาวนาน ซึ่งฐานลูกค้าของ KT OPTIC ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบนที่ค่อนข้างมีกำลังซื้อสูง
โดยมียอดการใช้จ่ายต่อคนต่อครั้งไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท และจากการสำรวจพบว่า ผู้บริโภคคนไทยจะมีแว่นตาไว้ในครอบครองต่อคนไม่ต่ำกว่า 15 อัน ทั้งแว่นกันแดดและแว่นสายตา ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่ายอดขายของบริษัทจะเป็นไปตามเป้าหมายแน่นอน
สำหรับแว่นตา ic!berlin คอลเลคชั่น 2023 มีชื่อว่า Silk pure Collection ดีไซน์ใหม่โฉบเฉี่ยวเพรียวบาง หรูหรา ฟังก์ชันนอลตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ด้วยระบบบานพับที่บางเบาที่สุด แข็งแรงที่สุดเท่าที่ ic!berlin เคยผลิตมา พร้อมเพิ่มลูกเล่นด้วยกรอบและขาแว่นสีสันสดใสสไตล์วัยรุ่นหญิงและวัยรุ่นชาย ตัวแว่นผลิตจากวัสดุสแตนเลสสตีลพรีเมี่ยมเกรดเครื่องมือแพทย์
ทั้งนี้มีนวัตกรรมบานพับไร้สกรูลิขสิทธิ์เฉพาะของ ic!berlin โดยคอลเลกชันนี้มีทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ รุ่น Teo, Mea, Lio, Sia และ Lev แต่ละรุ่นจะมีความโดดเด่น แตกต่าง และน่าดึงดูด บ่งบอกเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ ic!berlin ได้ร่วมกับแบรนด์ยนตรกรรมของเยอรมนี Mercedes Benz ผลิตแว่นตารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น