‘ฟิเดลิตี้ อินเตอร์เนชันแนล’ (Fidelity International) คือ บริษัทให้บริการโซลูชันและบริการด้านการลงทุน และให้คำปรึกษาการวางแผนเกษียณให้กับลูกค้ากว่า 2.8 ล้านคนทั่วโลก โดยเป็นบริษัทเอกชนที่ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมาย และดำเนินธุรกิจมากว่า 50 ปี จึงให้ความสำคัญกับอนาคตและลงทุนเพื่อผลในระยะยาว ฟิเดลิตี้ อินเตอร์เนชันแนล มีสำนักงานมากกว่า 25 แห่ง และมีสินทรัพย์รวม 728.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ 

 

ทั้งนี้ลูกค้าของฟิเดลิตี้อินเตอร์เนชันแนลประกอบไปด้วยธนาคารกลาง กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ บริษัทขนาดใหญ่ สถาบันการเงิน ผู้รับประกันภัยและผู้จัดการความมั่งคั่ง รวมถึงบุคคลธรรมดา ธุรกิจด้านสุขภาพการเงินส่วนบุคคล รวมถึงมีโซลูชั่นที่ให้บริการโดยบุคคลที่สาม การบริการจัดการและให้คำแนะนำเรื่องบำนาญ เมื่อรวมกับธุรกิจโซลูชันและบริการด้านการลงทุนของบริษัทแล้ว ฟิเดลิตี้ อินเตอร์เนชันแนลบริหารสินทรัพย์รวมมูลค่ากว่า 524.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับลูกค้า 

ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) กล่าวว่า  ธนาคารกรุงไทยมีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาตลาดทุนไทย และช่วยให้คนไทยสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในทุกจังหวะของตลาดผ่านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย บนช่องทางดิจิทัลที่ทุกคนเข้าถึงได้สะดวก

 

ทั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และ Krungthai NEXT ได้อย่างครอบคลุม และทั่วถึง ทั้งนี้ธนาคารกรุงไทยเดินหน้านำนวัตกรรมและเทคโนโลยี มาพัฒนาบริการด้านการบริหารสินทรัพย์ หรือ Wealth Tech เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่ม Wealth ให้เติบโต 100% ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันธนาคารมีลูกค้ากลุ่มนี้ที่มีสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) ตั้งแต่ 2,000,000 บาทขึ้นไป จำนวนกว่า 200,000 ราย 
 

อีกทั้งเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ และนำเสนอโซลูชันทางการเงินที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ธนาคารจึงร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก คือ ฟิเดลิตี้ อินเตอร์เนชันแนล โดยความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการผสานจุดแข็งของ 2 องค์กรชั้นนำทางการเงินที่มีประสบการณ์ทำธุรกิจมาอย่างยาวนาน โดยธนาคารกรุงไทยเป็นผู้นำในการปฏิวัติพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนในประเทศ มีความรู้ ความเข้าใจด้านตลาดการเงินและลูกค้าในประเทศอย่างลึกซึ้ง โดยมีฐานลูกค้าทั่วประเทศมากกว่า 40 ล้านราย 

ขณะที่ ฟิเดลิตี้ อินเตอร์เนชันแนล มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนในตลาดโลก มีทีมผู้จัดการกองทุน และนักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการสินทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ สินทรัพย์ผสมและอสังหาริมทรัพย์ พร้อมวิเคราะห์แนวโน้มการลงทุนในตลาดหลักของโลก ซึ่งจะแลกเปลี่ยนมุมมอง งานวิจัยอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอแบบเรียลไทม์กับผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนของธนาคาร ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจลงทุนได้อย่างแม่นยำ ยกระดับการลงทุนไปถึงเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

ผยง ศรีวณิช กล่าวถึงความร่วมมือเบื้องต้นว่า ธนาคารกรุงไทย ,ฟิเดลิตี้ อินเตอร์เนชันแนลและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย (KTAM) จะร่วมกันจัดตั้งกองทุนรวมที่เข้าลงทุนกระจายในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลกใหม่ 3 กองทุน โดยแยกตามเป้าหมายผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงที่ลูกค้ารับได้สำหรับลูกค้าธนาคารกรุงไทยโดยเฉพาะ ซึ่งกองทุนนี้จะได้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญ และความสามารถในการบริหารพอร์ตการลงทุน การวิเคราะห์สภาวะตลาดทั่วโลกเชิงลึกอย่างแม่นยำ มีประสิทธิภาพ 

 

อีกทั้งรวมถึงกลยุทธ์ต่างๆ เช่น การจัดสรรสินทรัพย์  การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมืออาชีพ ผนวกกับความเข้าใจในเป้าหมายการดูแลบริหารความมั่งคั่งของลูกค้าไทยอย่างลึกซึ้ง จากทั้ง 3 องค์กรพันธมิตรและการประเมินทิศทางการลงทุนที่เท่าทันการเปลี่ยนแปลงในทุกสภาพตลาด  

 

ราจีฟ มิตตัล กรรมการผู้จัดการ ฟิเดลิตี้ อินเตอร์เนชันแนล ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) กล่าวว่า บริษัทเห็นถึงศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งของเอเชียอย่างก้าวกระโดด จึงมุ่งเน้นขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของบริษัท ซึ่งได้ให้บริการลูกค้าในภูมิภาคนี้มานานกว่า 20 ปี การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้บริษัทนำประสบการณ์การบริหารการลงทุนทั่วโลกที่สั่งสมมานานได้ใช้กับหนึ่งในตลาดที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค 
 

อีกทั้งด้วยความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนในระดับโลกของบริษัทรวมกับเครือข่ายที่กว้างขวางและความเข้าใจในตลาดและลูกค้าไทยอย่างลึกซึ้งของธนาคารกรุงไทย ทำให้คาดหวังว่าจะสามารถส่งมอบบริการและโซลูชันที่หลากหลายมากขึ้นให้กับธนาคารกรุงไทย โดยบริษัทจะให้การสนับสนุนธนาคารกรุงไทยครอบคลุมในหลายด้าน เช่น การนำเสนอด้านผลิตภัณฑ์การลงทุน ช่วยให้ลูกค้าธนาคารเข้าถึงผลิตภัณฑ์และสินทรัพย์หลากหลายทั่วโลก ด้านการให้คำแนะนำการลงทุน ช่วยให้คำแนะนำลูกค้าเกี่ยวกับการจัดสรรพอร์ตเงินลงทุนอย่างเหมาะสมตามเป้าหมายผลตอบแทน
 

ทั้งนี้ยังรวมถึงด้านการให้ความเห็นเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและกองทุนที่แนะนำ การจัดการสินทรัพย์ การแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและบทวิเคราะห์สภาวะเศรษฐกิจมหาภาค รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมบุคลากร ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการลงทุนให้กับผู้ดูแลแนะนำการลงทุนของธนาคาร ในหัวข้อที่เกี่ยวกับการลงทุนและการบริหารพอร์ต เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักลงทุนไทย

 

ราจีฟ มิตตัล มองว่า ธนาคารกรุงไทยมีลูกค้าหลากหลายกลุ่มซึ่งเป็นข้อดี เนื่องจากเทรนด์การลงทุนในกลุ่มเวลธ์ของเอเชียจะสนใจกลุ่มกลางมากขึ้น เนื่องจากตลาดในกลุ่มบนค่อนข้างมีมูลค่าสูงหลายคนจึงหันมาทำตลาดในกลุ่มกลางให้มีฐานที่กว้างขึ้นเพื่อเติบโตสู่กลุ่มบน ในขณะเดียวกันตลาดในกลุ่มล่างมักถูกมองข้ามและไม่มีการเสนอการลงทุนของเวลธ์ในกลุ่มนี้ แต่บริษัทมองว่าลูกค้ากลุ่มล่างมีกำลังในการลงทุนเช่นกัน ซึ่งเริ่มต้นจะต้องสร้างความรู้และความเข้าใจในเรื่องโอกาสการลงทุนให้เกิดขึ้นในกลุ่มนี้ก่อน ทั้งนี้มองว่าเมื่อลูกค้ากลุ่มล่างเริ่มเข้าใจและสนใจลงทุนจะทำให้ฐานการลงทุนในส่วนกลุ่มกลางกว้างขึ้นไปด้วย 

 

ทั้งนี้ธนาคารกรุงไทยมีศักยภาพและเข้าใจความต้องการของลูกค้ากลุ่มล่างได้ดีที่สุด อีกทั้งในลูกค้ากลุ่มกลางธนาคารกรุงไทยก็ทำได้ดี การสร้างความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่การเข้ามาช่วยหรือเติมเต็มสิ่งที่ธนาคารขาดหายไป แต่เป็นการทำธุรกิจร่วมกันในเชิงกลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้ากลุ่มล่างสู่กลุ่มกลางอย่างมีความเข้าใจ