Sushi Koge ร้านโอมากาเสะสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมระดับพรีเมียม แบรนด์น้องใหม่ในเครือ Kabocha Sushi ร้านอาหารญี่ปุ่นพรีเมียม ที่เสิร์ฟความอร่อยมากว่า 10 ปี โดดเด่นด้วยคอนเซปต์ “Signature omakase to reach a new level of culinary journey”

นำเสนอ “โอมากาเสะในฝัน ผ่าน 18 คอร์สเมนู” ที่ไม่เพียงคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศส่งตรงจากแหล่งที่ดี ที่สุดของญี่ปุ่น มารังสรรค์เป็นซูชิสไตล์เอโดะอย่างพิถีพิถัน เสิร์ฟด้วยความละเมียดละไม ในราคาเข้าถึงได้ ยิ่งจับคู่กับสาเกพรีเมียม ยิ่งเพิ่มอรรถรสให้มื้อพิเศษนี้ อิ่มเอมไปด้วยรสชาติโอมากาเสะแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ผสานกับบรรยากาศร้านที่ออกแบบอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้าน แสง หรือเสียงเพลงในร้าน ชวนให้ รู้สึกเหมือนได้ลัดฟ้าไปฟินกับโอมากาเสะถึงญี่ปุ่น

พัฒนชัย สุระวัฒนาพงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้าวปั้น เอโดะ จำกัด เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น “Kabocha Sushi” และ “Sushi Koge” กล่าวว่า

ด้วยความชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นเป็นทุนเดิม บวกกับเห็น Pain Point ในตลาดโอมากาเสะที่ยังมีช่องว่างในเรื่องความคุ้มค่าและความเต็มอิ่มด้านรสชาติ จึงอยากยกระดับประสบการณ์รับประทานโอมากาเสะแบบเดิมๆ ด้วยการสร้างร้านโอมากาเสะในฝัน ที่พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดผ่านมื้ออาหาร เสมือนว่าได้เดินทางไปเข้าร้านโอมากาเสะที่ญี่ปุ่น

ด้วยเหตุนี้ “Sushi Koge” จึงให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด ตั้งแต่การออกแบบร้าน การเลือกวัตถุดิบพรีเมียม การคัดเลือกเชฟ การออกแบบคอร์สเมนูที่ลงตัว เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า สัมผัสได้ถึงรสชาติที่อร่อยทุกคำ ในราคาที่เข้าถึงได้

“ด้วยความที่อยู่ในธุรกิจอาหารมาร่วม 10 ปี ทำให้เรามีคอนเน็กชั่น สามารถเข้าถึงวัตถุดิบชั้นยอดของญี่ปุ่น สามารถคัดสรรจากแหล่งที่ดีที่สุดในแต่ละฤดูกาล หรืออย่างข้าวที่ใช้ เราก็คัดเลือกอย่างดีจนได้ข้าวที่เหมาะสม จากแหล่งปลูกข้าวที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น นำมาหุงด้วยน้ำแร่ เพื่อให้ข้าวทุกคำเป็นคำพิเศษ มีรสชาติที่ละเมียดละไม

ในส่วนของการออกแบบคอร์สเมนู ที่เราจัดเต็มให้ถึง 18 คอร์ส เรามีการทำการบ้านอย่างหนัก ทั้งตระเวนชิมร้านโอมากาเสะดังๆ ทั่วญี่ปุ่น โดยเฉพาะโอซาก้าและโตเกียว และยังพัฒนาเมนูร่วมกับเชฟของร้านซึ่งเป็นเชฟคนไทย ที่มีประสบการณ์ทำงานมากว่า 15 ปี รวมถึงเคยเป็นเชฟที่โตเกียว และเคยทำงานในร้านอาหารชื่อดังอย่างร้าน Morimoto นอกจากนี้ ยังผ่านการฝึกอบรมจากวิทยาลัยด้านอาหารญี่ปุ่น วาโชกุ โตเกียว คอลเลจ มาร่วมสร้างสรรค์เมนูและรังสรรค์อาหารในทุกคำให้รสชาติแบบต้นตำรับของญี่ปุ่น”

เมนูไฮไลท์ที่เสิร์ฟในคอร์ส

• White Fujisan Salmon ทีเด็ดอยู่ที่การเสิร์ฟแซลมอน เนื้อสีขาว อายุ 1 ปี ที่เลี้ยงในแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติของภูเขาไฟฟูจิ จากจังหวัดชิซูโอกะ ที่มีอุณหภูมิ 11 องศาตลอดทั้งปี จึงให้รสชาติอ่อนโยนและเบา แต่แน่นไปด้วยรสชาติที่หรูหรา และมีไขมันส่วนเกินเล็กน้อย
• Ama ebi กุ้งหวานญี่ปุ่นจากฮอกไกโด มีเนื้อสัมผัสเด้งสู้ฟันและให้รสหอมหวานในคำเดียว โดยรสหวานละมุนมาจากตัวกุ้ง ส่วนความหอมหวานมาจากผิวส้มยุสุ
• Hotate Isobe Yaki หอยเชลล์ คัดพิเศษจากฮอกไกโดนำมาย่างให้หอมห่อด้วยสาหร่ายย่าง เสิร์ฟคู่กับมัสตาร์ดบดญี่ปุ่นและงาสามสี หอยเป่าฮื้อ
• Awabi จากจังหวัดเอะฮิเมะ นำไปนึ่งกับสาเกเป็นเวลา 3 ชั่วโมง เพื่อให้เนื้อหอยมีความนุ่ม และหอมกลิ่นสาเก เสิร์ฟคู่กับซอสตับหอยเป่าฮื้อสูตรพิเศษของทางร้าน
• Uni Zuwaikani Ankake หอยเม่น (อูนิ) สายพันธุ์บาฟุนจากฮอกไกโด เสิร์ฟคู่กับเนื้อปู Zuwai ราดด้วยซอส Akake สูตรพิเศษ พร้อมไข่ปลาแซลมอน เสริมทัพด้วยเมนูซุปและของหวานสูตรพิเศษของทางร้าน

ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความอร่อยให้ประสบการณ์โอมากาเสะน่าจดจำยิ่งขึ้น ทางร้านยังคัดเลือกสาเกพรีเมียมจากญี่ปุ่นกว่า 10 แบรนด์ ที่ทดสอบแล้วว่าเมื่อนำมา Pairing กับเมนูในคอร์สแล้วยิ่งเพิ่มความอูมามิ อาทิ

• Fukuju Jinnah Ginjo สาเกที่ใช้เสิร์ฟในพิธีแจกรางวัลโนเบล และเสิร์ฟเฉพาะสายการบิน Japan Airline ระดับ First class เท่านั้น
• Yuki no Bosha Hiden Yamahai Junmai Ginjo สาเกที่หลายคนหลงรักในรสชาติที่กลมกล่อมและสะอาดๆ การันตีด้วยรางวัลเหรียญเงินในงาน International Wine Challenge 2020 Kamotsuru สาเกจากเมืองฮิโรชิม่า ที่ดื่มแล้วรสชาติสดชื่นเหมือนดื่มน้ำแร่ เข้ากันได้ดีกับเมนูอาหาร โดยเฉพาะซาซิมิ ปกติเสิร์ฟในโรงแรมระดับ 4-5 ดาว ของญี่ปุ่น

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Sushi Koge ที่ตั้งใจให้แตกต่างจากร้านโอมากาเสะอื่นๆ คือ แทนที่จะให้เชฟเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวผ่านมื้ออาหาร ทางร้านใช้วิธีร้อยเรียงรสชาติของเมนูทุกคำและออกแบบบรรยากาศของร้านตามปรัชญา “มูซาซิ” หรือคัมภีร์ 5 ห่วง ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ และความว่างเปล่า ซึ่งเป็นหลักพื้นฐาน แห่งความสมบูรณ์ ที่สืบทอดมานานหลายศตวรรษ

นำเสนอภายใต้คอนเซปต์ “Touch the nature Through the taste of season” ที่สะท้อนผ่านทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าในร้าน ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส 

“นอกจากความพิเศษของการนำเสนอวัตถุดิบตามฤดูกาล และเมนูแต่ละคอร์สที่เรารังสรรค์ขึ้น เรายังใส่ใจไปถึงรายละเอียดของการเสิร์ฟแต่ละคอร์สเพื่อให้ลูกค้าสัมผัสถึงผลงานศิลปะที่ละเอียดละออ เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ เราเลือกจะเสิร์ฟแต่ละคอร์สในภาชนะเครื่องปั้นดินเผาสุดคราฟต์ ฝีมือดีไซเนอร์ไทย ทำมือทุกชิ้น

ขณะที่การตกแต่งร้าน เราตั้งใจออกแบบให้รู้สึกเหมือนไปนั่งทานโอมากาเสะอยู่ในบ้าน ขุนนางญี่ปุ่นสมัยเอโดะที่สงบนิ่งและอบอุ่นตามวิถีแห่งเซน ด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และวัสดุจากไม้และหิน มีการออกแบบแสงให้แต่ละพื้นที่สว่างไม่เท่ากัน ราวกับอยู่ในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เพิ่มบรรยากาศด้วยเสียงเพลงแนว Koto Jazz ที่ผสมผสานความร่วมสมัยของพิณญี่ปุ่น 13 สาย เข้ากับเสน่ห์ของเพลงแจ๊ซ ทำให้ชั่วโมงของการดื่มด่ำโอมากาเสะ เป็นเหมือนการเดินทางที่น่าประทับใจ”

Sushi Koge พร้อมแล้วที่จะชวนทุกคนมาสัมผัสกับซิกเนเจอร์โอมากาเสะสุดพรีเมียมตามสไตล์ เอโดะ ท่ามกลางบรรยากาศที่รังสรรค์มาให้เหมือนได้เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นจริงๆ ณ ชั้น B วานิชวิลเลจ อารีย์ (Vanit Village Aree) ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) เปิดให้บริการ 4 รอบบริการต่อวัน 12.00/13.30/18.00/19.30 โดยแต่ละรอบใช้เวลาในการเสิร์ฟรอบละ 1.30 ชั่วโมง จำกัด 12 ที่นั่งต่อรอบ สำหรับ Standard Course (18 Course) ราคารวมค่าเครื่องดื่ม 2900++ บาท 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม www.instagram.com/sushi.koge หรือสำรองที่นั่ง https://lin.ee/CdamYNj โทร. 099-003-9039