ประวรา เอครพานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มีแนวคิดในเรื่องของเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy โดยสนับสนุนให้ใช้สิ่งของหรือทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งแนวคิดดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของทุกอุตสาหกรรมและยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับประเทศ
ทั้งนี้การนำขยะที่เหลือจากกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรม นำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เพื่อลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในระดับโลก ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง จึงเป็นที่มาของโครงการ A’MAZE green society by BTNC: Create your own happiness โดยมีเป้าหมายในการร่วมมือกับพันธมิตรและคู่ค้าในการร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ Green Industry ตามที่ไทยได้ประกาศร่วมพันธกิจโลก ภายหลังการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2564 หรือ COP26
อีกทั้งพบว่าในกระบวนการผลิตเสื้อผ้านั้น จะได้ชิ้นงานหรือสินค้าประมาณ 80% ที่เหลืออีก 20% จะเป็นผ้าส่วนเกิน บริษัทจึงมองหาคู่คิดที่จะมาช่วยทำการ upcycle หรือนำผ้าส่วนเกินมาพัฒนาให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่และการนำผ้าส่วนเกินกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีก จึงได้ร่วมมือกับแบรนด์ ‘ลฤก’ เป็นที่มาของผลิตภัณฑ์ ‘ระลึกรักษ์’ และเดอะแพคเกจจิ้ง ที่ช่วยต่อยอดผ้าส่วนเกินให้กลายเป็น Mimi (มีมี่) กระเป๋ารักษ์โลก
อย่างไรก็ตามบริษัทมีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนโครงการ AMAZE Green Society ให้เป็นโครงการระยะยาวอย่างต่อเนื่อง โดยมีหน่วยงานหรือองค์กรใดที่ต้องการร่วมเป็นพันธมิตรคู่คิดที่จะเดินหน้าลดปริมาณขยะสิ่งทอไปด้วยกัน เชื่อว่าการมีพันธมิตรมากขึ้นจะสามารถขยาย Fabric Zero Waste Alliance เป็นวงกว้างขึ้นได้
นนทิกานต์ อัศรัสกร ผู้ก่อตั้งแบรนด์ลฤก กล่าวว่า บริษัทเป็นแบรนด์พวงหรีดที่มุ่งเน้นในเรื่องการช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยดำเนินธุรกิจโดยวางแนวทางการลดขยะให้เป็นศูนย์ (Zero waste) ซึ่งพวงหรีดลฤก ประกอบด้วย เสื่อ 1 ผืน และอาสนะ 1 ชิ้น ซึ่งวัสดุที่ใช้ทำจากพลาสติกรีไซเคิล 100% และเป็นพวงหรีดที่วัดสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ การร่วมกับบูติคนิวซิตี้ ในการผลิตดอกไม้ผ้าส่วนเกินจากอุตสาหกรรม จึงเป็นที่มาของระลึกรักษ์เพื่อนำมาใช้ประดับตกแต่งพวงหรีด ซึ่งนอกจากให้ความสวยงามและเกิดคุณค่าทางจิตใจแล้ว ยังเป็นการนำทรัพยากรกลับมาใช้ซ้ำ ที่สำคัญยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะปลายทางที่นำไปสู่การกำจัดอีกด้วย
ภุชชงค์ วนิชจักร์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะแพคเกจจิ้ง จำกัด ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก กล่าวว่า บริษัทดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบายที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมร่วมผลักดัน Zero Waste เพื่อเป็นการหยุดยั้งปัญหาที่ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นทางแทนการกำจัดปัญหาขยะที่ปลายทาง โดยเฉพาะเม็ดพลาสติก ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ดังนั้นการนำเศษพลาสติกที่เหลือจากกระบวนการผลิตและไม่มีสิ่งปนเปื้อน กลับมาใช้ซ้ำภายในโรงงานทั้งหมดหรือผสมกับเม็ดพลาสติกใหม่ในอัตราส่วนต่างๆ ส่งผลให้ไม่มีขยะเหลือเป็นของเสียในอุตสาหกรรม
ทั้งนี้การนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่หรือการรีไซเคิล นอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกแล้ว ยังเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และทำให้พลาสติกที่ผ่านการใช้งานแล้วไม่เป็นขยะอีกต่อไป จึงเป็นการช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม