ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการ โคเอ็กซ์ หรือ Coex จากสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) หวังยกระดับและขับเคลื่อนธุรกิจอีเวนต์ระหว่าง “ไทย-เกาหลีใต้” เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ สนับสนุนกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ตลอดจนแลกเปลี่ยนบุคลากรเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการจัดงานอีเวนต์และงานประชุมให้ยิ่งใหญ่และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
สำหรับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นศูนย์การประชุมแห่งชาติและแห่งแรกของประเทศไทย ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ขณะที่โคเอ็กซ์เป็นศูนย์การประชุมและนิทรรศการของเกาลีใต้ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโซล ซึ่งทั้งสองศูนย์การประชุมฯ ถือเป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจอีเวนต์ของประเทศ โดยมีความสอดคล้องกันทั้งด้านกายภาพและองค์ประกอบภายใน อาทิ มีพื้นที่ขนาดใหญ่ซึ่งครอบคลุมพื้นที่การจัดอีเวนต์และพื้นที่รีเทล สามารถรองรับการจัดงานได้ในทุกรูปแบบและการใช้ชีวิตในทุกไลฟ์สไตล์
โดย QSNCC โฉมใหม่ มีขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง 5 เท่า บนพื้นที่กว่า 300,000 ตารางเมตร มีฮอลล์ขนาดใหญ่ 8 ห้อง ห้องเพลนารี 4 ห้อง ห้องบอลรูม 4 ห้อง และห้องประชุม 50 ห้อง พร้อมพื้นที่จำหน่ายสินค้า ส่วน Coex มีพื้นที่จัดแสดงงานและสินค้า 36,007 ตร.ม. และมีพื้นที่รวมกันทั้งหมด 4 ชั้นกว่า 460,000 ตร.ม. ห้องนิทรรศการ 4 ห้อง สามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็น 9 ส่วนแยกกัน และพื้นที่ห้องประชุม 100 ห้อง สามารถรองรับการประชุมหรืองานเลี้ยงที่ใหญ่ขึ้น หรือสามารถแบ่งเป็นห้องขนาดเล็กสำหรับการจัดงานประเภทต่างๆ ที่รองรับคนได้ถึง 7,000 คน
นอกจากนี้ทั้งสองศูนย์ฯ ยังมีทำเลที่ตั้งใจกลางเมือง มีเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมโยงการเดินทางสะดวก ทั้งยังรายล้อมด้วยศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงแรม มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก และให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ด้วยเป้าหมายที่มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมอีเวนต์และไมซ์พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไปพร้อมกัน
มร.อี ดงกิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมและนิทรรศการโคเอ็กซ์ เผยว่า “เรามุ่งหวังว่าการลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ จะเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยทลายขีดจำกัดความสามารถในการแข่งขันของทั้งโคเอ็กซ์และศูนย์ฯ สิริกิติ์ ทำให้ทั้งสองฝ่ายพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมจัดงานอีเวนต์และงานประชุมได้อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันความร่วมมือนี้จะช่วยเปิดประตูสู่ความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมการจัดนิทรรศการและการประชุมในทั้งสองประเทศ ผ่านการค้นพบโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจที่หลากหลายยิ่งขึ้น นอกเหนือจากที่ศูนย์การประชุมทั้งสองฝั่งเคยมีประสบการณ์มาก่อน”
ด้าน นายสุทธิชัย บัณฑิตวรภูมิ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์ฯ สิริกิติ์ กล่าวว่า
“สำหรับลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการสร้างพันธมิตรที่จะมาเติมเต็มและช่วยยกระดับศักยภาพด้านการจัดงานหลากรูปแบบเกิดการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุนการจัดงานที่ยั่งยืน ดึงดูดอีเวนต์ใหม่ๆ จากผู้จัดงานเกาหลีใต้ เพื่อสร้างโอกาสให้กับธุรกิจไมซ์และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทยให้เติบโตแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมการจัดงานที่เกาหลี ที่สามารถผลักดันการจัดงานด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ คอนเสิร์ต อี-สปอร์ต และเกมมิ่ง จนได้รับความนิยมและขยายตัวออกสู่ตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง”
ตัวอย่างอีเวนต์ที่น่าสนใจที่จัดขึ้นที่ Coex ในปีนี้ ได้แก่ “COSMOBEAUTY SEOUL 2023, HEALTH INDUSTRY EXPO 2023”, "The 8th ‘Plastic Art Seoul(PLAS)" , "2023 TEA WORLD FESTIVAL" , "INTERNATIONAL SLEEP TECH & HEALTHCARE EXPO 2023", "AGRI & FOOD TECH START-UP RISING EXPO 2023 (AFRO 2023)" , "VEGENOMICS K-VEGAN FAIR IN SEOUL 2023" และ "SEDEX (SEMICONDUCTOR EXHIBITION)" เป็นต้น
“ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายศักยภาพของ ‘อีเวนต์แพลตฟอร์ม’ ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญและโอกาสต่างๆ ร่วมกับโคเอ็กซ์ เพื่อยกระดับศักยภาพของศูนย์ประชุมฯ และขับเคลื่อนธุรกิจอีเวนต์ระหว่างประเทศ ผ่านความร่วมมือใน 3 มิติ ประกอบด้วย การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านบริการพื้นฐาน อาทิ การบริหารจัดการ การแลกเปลี่ยนบุคลากรในธุรกิจอีเวนต์ การให้ข้อมูลการประมูลสิทธิ์จัดงาน จัดงานทั้งในอดีตและปัจจุบัน สนับสนุนข้อมูลการประมูลงาน และการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน รวมถึงการดำเนินกิจกรรมทางการตลาด เป็นต้น”