คอมมี่ รีแบรนด์ใหญ่รอบ 30 ปี ทวงบัลลังก์ผู้นำอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟน
29 May 2023

 

คอมมี่ (COMMY) เดินเกมบุกทวงแชมป์ผู้นำอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนประเทศไทย ทุ่มงบการตลาดกว่า 100 ล้านบาท 

อรปรียา มโนวิลาส รองประธานกรรมการ บริษัท คอมมี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า แบรนด์ "คอมมี่" (COMMY) ถือเป็นแบรนด์ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบตเตอรี่และอุปกรณ์ไอทีสัญชาติไทย ที่อยู่ในตลาดมายาวนานกว่า 30 ปี ด้วยจุดเริ่มต้นในปี 2532 ซึ่งเป็นยุคแรกของโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทย แต่ตลาดยังขาดอุปกรณ์เสริมอย่าง แบตเตอรี่ สายชาร์จ และเครื่องชาร์จ

บริษัทฯ จึงได้นำเข้าอุปกรณ์ดังกล่าวมาจัดจำหน่ายในรูปแบบค้าปลีก ส่งให้แก่ร้านค้าและกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อโดยตรง ด้วยความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องประกอบกับการพัฒนาเทคโนโลยีของโทรศัพท์เคลื่อนที่ บริษัทฯ จึงได้ตัดสินใจเปิดโรงงานประกอบแบตเตอรี่ขึ้น พร้อมสร้างแบรนด์ภายใต้ชื่อ “คอมมี่” (COMMY) เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจและความต้องการของกลุ่มลูกค้า จนประสบความสำเร็จและเป็นแบรนด์ที่กลุ่มลูกค้าทั่วประเทศไทยรู้จัก

 

 

“หัวใจสำคัญที่ส่งผลให้คอมมี่ประสบความสำคัญมาถึงปัจจุบัน คือแนวคิดการทำธุรกิจที่คำนึงถึง “คุณภาพ” (Quality) เป็นหลัก พร้อมทั้งพัฒนาด้วย “นวัตกรรม” (Innovation) ที่เป็นเลิศ

โดยปัจจุบันคอมมี่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกความต้องการแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ อุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟน (Mobile Gadget) ได้แก่ เครื่องตัดฟิล์มกันรอย, ฟิล์มกันรอย, หัวชาร์จ, สายชาร์จ, แบตเตอรี่, แบตเตอรี่สำรอง, หูฟัง, หูฟังบลูทูธ, ลำโพงบลูทูธ และเคสมือถือ และได้มีการต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ใน กลุ่มสุขภาพ (Health Product) อาทิ เครื่องฟอกอากาศทั้งแบบพกพาและใช้ในรถยนต์, หน้ากาก N95 และเครื่องวัดหรือทำออกซิเจน”

สำหรับภาพรวมของตลาดอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าตลาดราว 14,000 ล้านบาท สวนกระแสตลาดสมาร์ทโฟนที่ลดลง จากข้อมูลสำนักวิเคราะห์ Canalys ชี้ในช่วงไตรมาสแรกปี 2566 ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟน Sell-in shipment ทั่วโลกลดลงกว่า 12% อยู่ที่ 269.8 ล้านเครื่อง โดยยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในประเทศไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 13 ล้านเครื่องต่อปี

คาดว่าเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค มีการตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ช้าลง นิยมหันมาซ่อมแซม และใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อป้องกันยืดอายุการใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าประเภท แบตเตอรี่ เคส และฟิล์มกันรอย

 

 

ดังนั้นเพื่อเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำของตลาด ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมดิจิทัลในปัจจุบันและอนาคตที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค คอมมี่จึงทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ปรับแผนการตลาดโดยยึดแนวคิดความต้องการของลูกค้า (Customer-centric) มาใช้พัฒนาธุรกิจ 3 ด้าน ได้แก่

Re-Branding เนื่องจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าไอทีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ก้าวข้ามจากรุ่นสู่รุ่น ดังนั้นแบรนด์จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป โดยการวางตำแหน่งแบรนด์คอมมี่ครั้งนี้ จะมุ่งไปที่กลุ่มคนที่ชื่นชอบสินค้าไอทีที่มีเอกลักษณ์และมีคุณภาพ เน้นการออกแบบสินค้าที่ตอบโจทย์ Personalization 

ต่อมาคือ Hero Product โดยพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มฟิล์มกันรอย เพื่อเจาะตลาดฟิล์มกันรอยในประเทศไทยที่มีมูลค่ากว่า 6,500 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าภายในปีนี้จะมียอดจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 1.1 ล้านชิ้น ซึ่งปัจจุบันคอมมี่ถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายฟิล์มกันรอยโทรศัพท์ระดับพรีเมียม

โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาพบว่า ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฮโดรเจลฟิล์มได้รับความนิยมจากตลาดผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีจุดเด่นที่เนื้อฟิล์มมีความบางเพียง 0.15 มิลลิเมตร ให้สัมผัสที่เรียบลื่นเป็นธรรมชาติกว่าแบบกระจก กระจายแรงกระแทกได้ดี ไม่แตกเหมือนฟิล์มกระจกซึ่งแก้ Pain Point ของลูกค้าในการใช้งานและสามารถยืดหยุ่นเข้าได้กับหน้าจอทุกประเภททั้งแบบจอธรรมดา จอโค้ง หรือจอพับ และนวัตกรรม Self-healing ซึ่งสามารถสมานรอยได้ภายในไม่กี่นาทีเมื่อเกิดรอยขีดข่วน

 

 

คอมมี่จึงได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ฟิล์มกันรอย “คอมมี่ ซูเปอร์ ไฮโดรเจล ฟิล์ม” (Commy Super Hydrogel Film) เจ้าแรกของประเทศไทย ด้วยการเพิ่มเนื้อเจลมากยิ่งขึ้น พร้อมพัฒนาเทคโนโลยี Self-healing ในเนื้อฟิล์มทำให้สมานรอยขีดข่วนได้เอง ภายใน 30 วินาที สำหรับรอยข่วนขนาดเล็ก หรือไม่เกิน 2 นาที สำหรับรอยขนาดใหญ่ขึ้น

สุดท้ายคือ Hybrid Channel การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในทุกมิติเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและให้ความสะดวกสบายในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ โดยแบ่งออกเป็น ช่องทางออนไลน์ จำหน่ายผ่าน COMMY Official Store สามารถสั่งซื้อสินค้าและไปรับบริการที่ร้านค้าตัวแทนใกล้บ้านได้ทันที และสามารถสั่งผ่านอีมาร์เก็ตเพลสต่างๆ อย่าง Lazada และ Shopee

ซึ่งที่ผ่านมามียอดจำหน่ายเติบโต เนื่องจากผู้บริโภคนิยมซื้อไปติดเองมากขึ้น ส่วนช่องทางจำหน่ายแบบออนกราวด์ จะมีทั้งในส่วนตัวแทนจำหน่าย และการจำหน่ายผ่าน 7-Eleven, TG Fone, Jaymart รวมถึงการวางแผนจะมีการจัดตั้ง kiosk ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำภายในสิ้นปีนี้

 

“คอมมี่ยังได้เตรียมปูพรมด้านการสื่อสารและการขยายการรับรู้ไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ โดยในปีนี้จะเริ่มด้วยการทำ On Ground Activity เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงคุณภาพและทดลองใช้ผลิตภัณฑ์โดยตรง พร้อมทั้ง Online Activity สร้างการสื่อสารผ่านกลุ่ม Influencer รวมถึงการทำ Entertainment Marketing เพื่อตอกย้ำการรับรู้ด้านผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น

ซึ่งคอมมี่เชื่อว่าจากการดำเนินงานตามแผนดังกล่าวนี้ ภายในสิ้นปี 2566 บริษัทฯ จะสามารถสร้างรายได้มากกว่า 100%” อรปรียา กล่าวปิดท้าย

[อ่าน 8,298]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“BVAX Master” โดย “หอแว่น Better Vision” ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาของคนทุก Generation
แอสเซนด์ มันนี่ ปักธง Virtual Bank อย่างเป็นทางการ! พร้อมเปิดมิติใหม่การเงินเพื่อคนไทยทุกคน
ไมเนอร์ โฮเทลส์ คว้า 26 รางวัลทรงเกียรติ จาก T+L Luxury Awards Asia Pacific ประจำปี 2025
ทรู หนุนสร้างที่ทำงานปลอดภัย เปิดกว้างทุกความหลากหลาย ผ่านคลับ “Bring Your Best” ในงาน “True Colors”
กรุงเทพประกันภัยเร่งจ่ายเคลมสินไหมจากเหตุแผ่นดินไหว สร้างความเชื่อมั่นด้วยการดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่
เอไอเอ ประเทศไทย จัดพิธีมอบรางวัล “สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools” ปีที่ 3 เชิดชูโรงเรียนทั่วประเทศ
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved