“บลูทรี ภูเก็ต” ผลักดันแนวคิด “ESG” สู่การเป็น ‘Entertainment Hub’ อย่างยั่งยืน
05 Jun 2023

 

ต้อนรับวันสิ่งแวดล้อมโลก (5 มิถุนายนของทุกปี) “บลูทรี ภูเก็ต” พร้อมเป็นอีกหนึ่งองค์กรในการผลักดันแนวคิด ESG ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาองค์กรได้อย่างยั่งยืน

เนื่องจากปัจจุบันเราทุกคนกำลังเผชิญอยู่ในโลกที่เข้าขั้นวิกฤตรอบด้าน ทั้งภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็น 8 ปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์โลกเท่าที่มีการบันทึก ส่งผลให้การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลและอุณหภูมิมหาสมุทรแตะระดับสูงสุด เช่นเดียวกับระดับผลกระทบต่อผืนดิน แผ่นน้ำและชั้นบรรยากาศโลกที่เกิดจากก๊าซเรือนกระจก

ทั้งภาวะฉุกเฉินด้านภูมิอากาศ (Climate Emergency), ทรัพยากรเสี่ยงขาดแคลน (Loss of Nature) รวมถึงสังคมเกิดความเหลื่อมล้ำ (Social Inequality) ดังนั้นแนวคิด ESG เป็นนโยบายที่ทุกบริษัทให้ความสำคัญ และนำมาปรับใช้ในการพัฒนาธุรกิจเพื่อการเติบโตในระยะยาว 

“บลูทรี ภูเก็ต” ศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจร ภายใต้สโลแกน “Entertainment Hub, Thrill & Chill, Day & Night” ที่มีพื้นที่ประมาณ 140 ไร่ (226,624 ตารางเมตร) ได้แก่ โซนที่เป็นไฮไลท์โดดเด่นอย่างบลูทรี ลากูน ที่มีขนาดใหญ่กว่า 17,000 ตารางเมตร และโซนที่เป็นพื้นที่สีเขียวประมาณ 180,000 ตารางเมตร

โดยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนโดยนำแนวคิดเกี่ยวกับ ESG ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ด้าน Environmental (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม)และ Governance (ธรรมาภิบาล) เข้ามาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความยั่งยืนอย่างถาวร

 

 

โยฮัน วาเลียน ผู้จัดการทั่วไป บลูทรี ภูเก็ต กล่าวว่า “บลูทรี เราตระหนักในเรื่องของการดูแลสิ่งแวดล้อมมาเป็นอันดับแรก ตั้งแต่การวางระบบโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งเรื่องการใช้พลังงานทดแทน, การใช้เทคโนโลยีจัดการน้ำ, การแยกขยะและลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง การจัดสรรทรัพยากรภายใน รวมถึงการให้ความรู้สู่พนักงานและชุมชนรอบข้างให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน”

โดยนำหลักแนวคิด ESG มาปรับใช้ให้สอดคล้องกับองค์กร เพื่อตอกย้ำการเป็นแลนด์มาร์กด้านความบันเทิงแห่งใหม่ในจังหวัดภูเก็ต ภายใต้ 3 แกนหลักๆ ในการพัฒนาความยั่งยืน

 

 

Energy – การประหยัดและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงใช้พลังงานไฟฟ้าแทนพลังงานน้ำมัน

มีการรณรงค์ภายในองค์กรเพื่อการประหยัดพลังงานและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ได้มีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ขนาด 185 กิโลวัตต์ บนหลังคาตึกในโซน Lifestyle Village โดยคิดเป็น 8.5% ของการใช้พลังงานทั้งหมด และมีแผนจะติดตั้งเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ยัง มีการใช้รถตุ๊กๆ ไฟฟ้า (EV) สำหรับรับ-ส่งลูกค้า และใช้รถบัคกี้ไฟฟ้าสำหรับหน่วยงานภายใน เพื่อลดมลภาวะทางควันและลดการใช้พลังงานน้ำมัน และมีแผนติดตั้งจุดชาร์จรถไฟฟ้าที่ลานจอดรถของ Lifestyle Village ภายในปี 2566 นี้

 

Water – เทคโนโลยีการจัดการน้ำ เพื่อลดการใช้ทรัพยากร และปลอดภัยจากสารเคมี

อีกหนึ่งจุดเด่นของบลูทรี ภูเก็ต คือโซน บลูทรี ลากูน ที่มีขนาดขนาดใหญ่กว่า 17,000 ตารางเมตร จึงมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาใช้ อาทิ หุ่นยนต์ช่วยทำความสะอาดใต้น้ำ ซี่งเป็นไปตามหลักความยั่งยืน เพราะเป็นการลดทรัพยากรคนและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งมีระบบบำบัดน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงทำให้ใช้สารเคมีน้อยกว่าสระแบบปกติถึง 100 เท่า ตลอดจนระบบกรองที่ประหยัดพลังงานกว่า 98% เมื่อเทียบกับระบบปกติ (Crystal Lagoon Technology) ทั้งนี้ในส่วนของการเลือกใช้อุปกรณ์แบบประหยัดน้ำ บลูทรี ยังมีการติดตั้งระบบเซ็นเซอร์สำหรับฝักบัวและอ่างล้างมือในบริเวณที่ให้บริการ รวมไปถึงการขุดสระเพื่อกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้สำหรับรดน้ำต้นไม้ในบริเวณพื้นที่สีเขียวทั้งหมดอีกด้วย 

Waste – การคัดแยก การแปรรูปขยะ ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

บลูทรี ภูเก็ต มีนโยบายที่จริงจังเกี่ยวกับการแยกขยะ โดยจัดให้มีการแยกขยะในพื้นที่สาธารณะแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ขยะรีไซเคิล และขยะทั่วไป ซึ่งขยะรีไซเคิลที่เก็บได้จะนำไปขายและนำรายได้คืนกลับให้พนักงานในทุกๆ ปี รวมทั้งยังมีการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์สำหรับใส่อาหารแบบที่ย่อยสลายได้ อาทิ กล่องอาหารและหลอดจากชานอ้อย ช้อนส้อมไม้ ทั้งนี้ พื้นที่ห้องอาหารภายในบลูทรี ยังรณรงค์ให้งดใช้ขวดน้ำพลาสติก และในส่วนของเศษอาหารก็จะส่งต่อให้ฟาร์มเลี้ยงสัตว์เพื่อใช้เป็นอาหารต่อไป ซึ่งในอนาคตมีแผนจะแบ่งเศษอาหารไว้สำหรับทำปุ๋ยเองด้วย รวมทั้งสนับสนุนการสร้างเรือพลาสติกร่วมกับองค์กร Oceans For All เพื่อเก็บขยะในท้องทะเลรอบๆ พื้นที่เกาะภูเก็ตด้วย

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Precious Plastic ซึ่งเป็นการนำพลาสติกเหลือใช้มาเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีค่ามากขึ้น เช่น การรีไซเคิลฝาขวดน้ำเป็นที่รองแก้ว พวงกุญแจ ตะขอแขวนรูปแบบต่างๆ การตัดเย็บกระเป๋ารูปทรงต่างๆ จากผืนไวนิลที่ใช้แล้ว โดยทางโครงการฯ มีเป้าหมาย ในการกระจายความรู้สู่ชุมชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการ เกี่ยวกับมลพิษจากพลาสติก ผลกระทบของขยะที่มีต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนจากภายในสู่ภายนอกองค์กร

ทั้งนี้ บลูทรี ภูเก็ต ได้จัดฝึกอบรมให้ความรู้และจัดกิจกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนให้กับพนักงานอย่างสม่ำเสมอ โดยพนักงานจะได้รับถุงผ้าและกระบอกน้ำใช้ซ้ำ เพื่อนำมาเติมน้ำดื่ม แทนการพลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมทำความสะอาดขยะต่างๆ ที่ร่วมกับชุมชนทั้งภายในและภายนอกพื้นที่อีกด้วย

จากการใส่ใจและให้ความสำคัญในเรื่องของการแยกขยะ ทำให้บลูทรี ภูเก็ต ได้รับการประเมินจากโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme : LESS) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) ด้าน “การคัดแยกขยะเพื่อการรีไซเคิล” ว่าสามารถลดได้ 38.315 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า พร้อมเข้าร่วมโครงการ “Establish Thailand to be sustainable tourism destination ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อวางแผนลด Carbon Footprint ในอนาคตต่อไป

“บลูทรี ยังให้ความสำคัญกับองค์ประกอบด้านการใช้วัสดุธรรมชาติ โดยมีการใช้ไม้ไผ่เป็นส่วนประกอบหลักในการตกแต่งพื้นที่เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอาคารต่างๆ เก้าอี้ชายหาด หรือจุดพักผ่อนต่างๆ ก็ล้วนมีไม้ไผ่เป็นส่วนประกอบอีกทั้งการออกแบบยังเน้นการเปิดโล่งเพื่อเพิ่มช่องลมให้อากาศถ่ายเทได้ดีทำให้สามารถประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ดีอีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนให้ชาวบ้านมีรายได้อีกทางหนึ่ง เนื่องจากบริเวณภูเก็ต-พังงา-กระบี่ มีการปลูกไม้ไผ่

รวมไปถึงอีกหนึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกวันเสาร์อย่าง “Wansao Picnic In The Park” ก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสในการเปิดพื้นที่ให้ชาวบ้านเข้ามาเปิดร้านขายของ พร้อมเปิดโลก และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ความสามารถกันในงานนี้ได้ ตอกย้ำแนวคิด ESG ในด้านการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนเอย่างยั่งยืน” โยฮัน กล่าวเพิ่มเติมว่า

ทั้งหมดมั้งมวลจะเห็นได้ว่าตอนนี้บลูทรี ภูเก็ต พร้อมที่จะมุ่งสู่การผลักดันแนวคิด ESG และเป็นอีกหนึ่งก้าวเล็กๆ ในการขับเคลื่อนองค์กร ชุมชม สู่ความยั่งยินระดับประเทศให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 076-602435 หรือคลิก www.bluetree.fun

[อ่าน 391]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘แอสเซทไวส์’ ผนึก ‘เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์’ ให้บริการขนย้ายพร้อมติดตั้งระดับพรีเมียม
ออริจิ้น แบ็คล็อกแกร่ง 45,900 ล้าน ทริสเรทติ้ง เชื่อมั่นให้อันดับเรตติ้งองค์กร BBB+ 3 ปีซ้อน
PTG เปิดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจ บ.ย่อย “โกลัค” ปั้น “ซับเวย์” ขึ้นแท่น TOP 3 ตลาด QSR ภายใน 3 ปี
เทศกาลดนตรีริมทะเลที่ร็อกที่สุดในภาคตะวันออก Rock on The Beach 2024!!
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 36.60-37.30 ลุ้นท่าทีเฟดและข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ
วันทรัพย์สินทางปัญญาโลก: OPPO ยังคงรักษาอันดับ IP จากทั่วโลก ไว้ที่ TOP10
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved