บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เผยแผนสร้างสมดุลพอร์ทธุรกิจ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำเสริมเสถียรภาพองค์กร เร่งผลักดันธุรกิจเทรดดิ้ง สร้างโอกาสจากตัวแทนจำหน่ายสู่ผู้ร่วมลงทุน พร้อมต่อยอดธุรกิจอาหาร ขยายสาขาร้าน “วาคิว ยากินิคุ” (WaQ Yakiniku) บุฟเฟต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นระดับพรีเมียมในราคาจับต้องได้ ล่าสุดคว้าทำเลทอง เปิดสาขาใหม่ที่เอเชียทีคฯ
สุรช ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ล็อกซเล่ย์ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจจากผู้ประกอบธุรกิจที่มีความหลากหลาย พยายามตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกเรื่อง
มาเป็นการให้ความสำคัญใน 5 กลุ่มธุรกิจหลักที่มีความชำนาญ ได้แก่ ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจเน็ตเวิร์คโซลูชั่นส์ ซึ่งเหล่านี้ดำเนินงานธุรกิจในลักษณะงานโครงการเป็นหลัก และอีก 2 ธุรกิจคือ ธุรกิจบริการ และธุรกิจเทรดดิ้ง ที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring)
“ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า รายได้ของล็อกซเล่ย์ส่วนใหญ่มาจากงานโครงการ ซึ่งมีความไม่แน่นอน เพราะมีความเสี่ยงอันเนื่องจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ บริษัทฯ จึงมีนโยบายสร้างความมั่นคงในเรื่องรายได้ และการสร้างความสมดุลของพอร์ทธุรกิจ โดยพยายามเพิ่มสัดส่วนของรายได้ประจำให้มากขึ้น
ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สายธุรกิจเทรดดิ้งมียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยปีที่แล้วธุรกิจเทรดดิ้งมีรายได้ 4,831 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 38% ของรายได้รวม 13,220 ล้านบาท สืบเนื่องจากการขยายธุรกิจเดิมที่มีอยู่ และสร้างธุรกิจใหม่ที่ส่งเสริมหรือเกื้อหนุนธุรกิจหลักที่ทำอยู่”
ทั้งนี้ ในสายธุรกิจเทรดดิ้ง มีบริษัทหลักที่สำคัญ คือ บริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด ดำเนินธุรกิจหลักเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเราพยายามสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยการปรับบทบาทจากการเป็นตัวแทนจำหน่าย สู่การเป็นผู้ร่วมลงทุน
นอกจากนี้ยังมีอีก 2 บริษัทคือ บริษัท แอล ฟู้ดโซลูชันส์ จำกัด ให้บริการด้านร้านอาหาร และบริษัท สยามสมุทรวาริน จำกัด ดำเนินธุรกิจนำเข้าวัตถุดิบอาหารเพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่ม HoReCa (โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง)
“บริษัท แอล ฟู้ดโซลูชันส์ จำกัด เป็นผู้ให้บริการร้านอาหารไทยฟิวชั่นส์ แบรนด์ “ตำรับกูร์” จำหน่ายเฉพาะออนไลน์ และร้านวาคิว ยากินิคุ (WaQ Yakiniku) บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยม ซึ่งเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 11 ปี นับตั้งแต่ปี 2555 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั้ง 3 สาขาได้แก่ สาขาเอสพลานาด รัชดา, สาขาดิ เอ็กซ์เพลส กาญจนาภิเษก และสาขาเดอะ การ์เด้น คลองเตย (ข้างอาคารล็อกซเล่ย์ คลองเตย)
และเพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จ ล่าสุดได้เปิดสาขาใหม่ที่ ศูนย์การค้าเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ (Asiatique The Riverfront) เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบเมนูบุฟเฟต์ปิ้งย่างในย่านเจริญกรุงและพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เริ่มกลับมา หลังจากสถานการณ์โควิดที่ค่อนข้างผ่อนคลาย” ซีอีโอล็อกซเล่ย์ กล่าว
“ร้านวาคิว ยากินิคุ สาขาเอเชียทีค” ตั้งอยู่บริเวณข้างหอนาฬิกา หน้าโกดัง 3 ตกแต่งในสไตล์โคซี่ คุมโทนด้วยสีแนวเอิร์ทโทน ดูอบอุ่นสบายตา เข้ากันกับดีไซน์ร้านที่แฝงความโมเดิร์นไม่ตกยุค สามารถรองรับสาวกปิ้งย่างได้สูงสุดถึง 80 ที่นั่ง พร้อมเสิร์ฟให้ทุกคนได้อิ่มเอมไปกับวัตถุดิบคุณภาพ “สวรรค์ของคนรักเนื้อ” สามารถลิ้มลองแบบไม่อั้นในราคาที่คุ้มค่า โดยร้านเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้
นอกจากเมนูที่มีให้เลือกหลากหลายแล้วร้าน WaQ Yakiniku ทั้ง 4 สาขายังคงส่งมอบการสั่งอาหารที่ปลอดภัยและสะดวกสบายกับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ด้วยการสแกน QR Code ผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อดูเมนูและเลือกอาหารจากอุปกรณ์ของตนเอง โดยลูกค้าสามารถสั่งอาหารได้อย่างสะดวกและไร้สัมผัส อีกทั้งยังเป็นส่วนตัวอีกด้วย
เป็นอีกการบาลานซ์การเติบโตที่จะช่วยสร้างรายได้แบบยั่งยืนในระยะยาว