บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต เผยภาพการลงทุนในตลาดหุ้นไทยใกล้ถึงจุดพลิกฟื้นตัวขึ้นแล้ว  หลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เสร็จสมบูรณ์  มองตลาดหุ้นไทยจะค่อยๆ ฟื้นตัว และจะให้ผลตอบแทนที่ดี ในไตรมาส 4 ปีนี้ จนถึงปีหน้า 2024 พร้อมนำเสนอ “ZEAL –บริการวางแผนการลงทุน” ดึงดูดนักลงทุน พิสูจน์ความแข็งแกร่งด้วยผลตอบแทนจริง ที่สูงถึง  46 % ในช่วง 3 ปีครึ่ง

อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า

ภาพการลงทุนในตลาดหุ้นไทยใกล้ถึงจุดพลิกฟื้นตัวขึ้นแล้วหลังจากผ่านช่วงย่ำแย่มา 1-2 ปี  โดย ปัจจุบันมีปัจจัยสนับสนุนทั้งภายใน โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ที่เน้นนโยบายทุนนิยม ลบภาพการเมืองที่คลุมเครือ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนหุ้นไทย และสนับสนุนให้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสามารถเดินหน้าได้ โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องยนต์หลัก

ขณะที่ปัจจัยภายนอก แรงกดดันเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงแล้ว ทำให้การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา (Fed )ใกล้จบลงแล้ว และภาพเศรษฐกิจโลกไม่ได้เลวร้ายอย่างที่นักลงทุนเคยกลัว นอกจากนี้ในส่วนมูลค่าของตลาดหุ้นไทย ยังคงต่ำกว่าตลาดหุ้นโลกอยู่มาก และด้วยผลตอบแทนปี 2023 ที่อ่อนแอ หลักทรัพย์ธนชาตมองว่าตลาดหุ้นไทยจะค่อยๆฟื้นตัว และจะให้ผลตอบแทนที่ดี ในไตรมาส 4 ปีนี้ จนถึงปีหน้า 2024

โดยหลักทรัพย์ธนชาต เข้าใจนักลงทุนดีว่า ในการลงทุนนักลงทุนต่างก็คาดหวังผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ เพื่อสร้างความมั่นคงในการใช้ชีวิต เพื่อให้มีอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง แต่ด้วยภารกิจในชีวิตประจำวันที่ทำให้นักลงทุนอาจไม่มีเวลาศึกษา หรือรับคำปรึกษาจากผู้แนะนำการลงทุนที่เพียงพอ รวมทั้งภาวะตลาดมีความผันผวนมาก แต่การลงทุนจำเป็นต้องได้รับการดูแล วิเคราะห์ และการตัดสินใจอย่างใกล้ชิดและทันท่วงที หลักทรัพย์ธนชาต จึงออกแบบและพัฒนา “ZEAL- บริการวางแผนการลงทุน” ที่จะเป็นตัวช่วยในการลงทุน  

ซึ่งสามารถพิสูจน์ความแข็งแกร่งด้วยผลตอบแทนจริง ที่สูงถึง 46 % ในช่วง 3 ปีครึ่ง หรือคิดเป็น 11.4 % ต่อปี ด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่มุ่งหาผลตอบแทนเป็นบวกในทุกสภาวะตลาด และบริหารโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์สูง พร้อมข้อมูลอย่างรอบด้านด้วย Style การลงทุนที่ “มุ่งมั่น” ไม่เหมือนใคร  แถมยังได้รับรางวัลคุณภาพหลายปีซ้อนอีกด้วย 

ทั้งนี้ “ZEAL  “  มีแผนการลงทุน 4 แผน ที่สามารถตอบโจทย์ทุกเป้าหมายการลงทุน  ประกอบด้วย

1. ZEAL Sustain เน้นรักษาเงินต้น ลงทุนหุ้นปันผลสูง ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง เป้าหมายผลตอบแทน 3 - 5% ต่อปี เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย

2. ZEAL Quality เน้นลงทุนหุ้นขนาดใหญ่พื้นฐานแข็งแรง ปันผลพอประมาณ เป้าหมายผลตอบแทน 5 - 7% ต่อปี เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้พอประมาณ

3. ZEAL Dynamic เน้น Trading หุ้นพื้นฐานที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีปัจจัยบวกหนุน เป้าหมายผลตอบแทน 7-9% ต่อปี เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง

4. ZEAL Target เน้นลงทุนระยะยาว บริษัทที่อยู่ในรอบอุตสาหกรรมขาขึ้น เป้าหมายผลตอบแทน 10+% ต่อปี เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง

ซึ่งทุกแผนของ  “ ZEAL” มีความยืดหยุ่นสูง ใน การป้องกันความเสี่ยงขาลง (Protect Downside)  สามารถนําเงินหมุนไปลงในสินทรัพย์เสี่ยงตํ่า หรือเงินสด ในช่วงตลาดขาลงได้อย่างเต็มที่ โดยเลือกหลักทรัพย์ลงทุนเฉพาะที่มั่นใจ ไม่มากตัวเกินไป  มีการวิเคราะห์เชิงลึกด้วยข้อมูลที่รอบด้าน และ ติดตามได้อย่างไกล้ชิดได้ในทุกๆตัวการลงทุน  มีการบริหารการลงทุนด้วยความโปร่งใส สามารถติดตามการลงทุนได้ทุกวันผ่าน Application Think+ และมีค่าธรรมเนียมตํ่า Advisory Fee ฟรี Performance Sharing Scheme แต่ไม่คิด Front End Fee

หลักทรัพย์ธนชาตยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลตอบแทนของผู้ลงทุนก้าวไปได้ไกลกว่า และเหมาะสมกับสไตล์การลงทุนที่หลากหลาย เพราะเราเข้าใจความสําคัญของ “เวลา” เราจึงอยากให้นักลงทุนสบายใจในการลงทุน และได้ใช้เวลากับช่วงสําคัญๆในชีวิตของนักลงทุนทุกคน