ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลากหลายแบรนด์จึงให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในวงกว้างมากขึ้น ปัจจุบันความยั่งยืนจึงกลายมาเป็นกระแสหลักในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่ในอุตสาหกรรมความงาม  อีฟ โรเช มุ่งมั่นพัฒนาให้เป็นแบรนด์แห่งความงามอย่างยั่งยืน ที่ก้าวไปอีกขั้นด้วยการเป็นแบรนด์ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างแท้จริง  ถือเป็นหัวใจสำคัญในกลยุทธ์ของแบรนด์อีฟ โรเช ที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ดีขึ้น แบรนด์ของเรามีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นในการที่ตั้งใจที่จะนำผู้คนกลับเข้าสู่ธรรมชาติ  อีฟ โรเช ถือหลักปฏิบัตินี้กว่า 64ปี นับจากวันที่แบรนด์ถือกำเนิดขึ้น ผ่านการสร้างสรรค์สินค้า ตลอดไปจนถึงกิจกรรมต่างๆ ที่มีผลต่อผู้คนและโลกใบนี้ ทั้งหมดนี้ถือเป็นหัวใจหลักใน DNA ของอีฟ โรเช อันนำมาซึ่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพจากธรรมชาติอย่างแท้จริง ที่ไม่เพียงดีต่อคุณเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อโลกของเราอย่างยั่งยืน

Yves Rocher (อีฟ โรเช) แบรนด์ความงามอันดับ 1 จากประเทศฝรั่งเศส  ก่อตั้งโดย คุณอีฟ โรเช นักพฤกษศาสตร์ผู้หลงใหลในธรรมชาติ จากเมืองลา กาซิลลี่ (La Gacilly) เมืองเล็กๆ ในแคว้นบริตทานี (Brittany) ประเทศฝรั่งเศส เป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับสมดุลของธรรมชาติมาตั้งแต่วันแรกที่ทำธุรกิจ ด้วยแพสชันในการทำธุรกิจความงามที่เติบโตจากพลังธรรมชาติ พร้อมยึดมั่นในการเคารพและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ทำให้ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของอีฟ โรเช รังสรรค์ขึ้นในทุกกระบวนการด้วยความรักที่มีต่อธรรมชาติ ใส่ใจในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำจนกระทั่งปลายน้ำ ในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ของอีฟ โรเช จะคำนึงถึงระบบนิเวศตั้งแต่การเพาะปลูกจวบจนกระทั่งถึงการผลิต แบรนด์อีฟ โรเช ตั้งใจส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์จากธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่สุดของแคว้นบริตทานี ประเทศฝรั่งเศส มาสู่มือของทุกคน ด้วยกระบวนการที่รักษาสิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรอย่างเป็นประโยชน์มากที่สุดเพื่อความงดงามอย่างยั่งยืน

คุณอีฟ โรเช ผู้ก่อตั้งแบรนด์อีฟ โรเช มีความเชื่อมั่นว่าพืชมีความสำคัญต่อการอยู่รอดของมนุษย์ แบรนด์อีฟ โรเช จึงอยากให้ความรู้ อนุรักษ์ และถ่ายทอดพลังของพืช ตั้งแต่ปี 1959 โดยอยู่เคียงข้างพนักงานของเราทุกคน และเลือกที่จะลงมือทำสิ่งดีๆ ไปด้วยกัน ภายใต้วิสัยทัศน์ในการเชื่อมต่อผู้คนเข้าสู่ธรรมชาติ อีฟ โรเช มุ่งสร้างสรรค์โลกที่มีความรับผิดชอบต่อผู้อื่นและสิ่งแวดล้อม และด้วยสิ่งนี้เองกลุ่มบริษัทของอีฟ โรเช ได้ให้สัญญาที่จะเชื่อมต่อทุกคนกลับคืนเข้าสู่ธรรมชาติ สิ่งนี้ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของเรา ในฐานะผู้นำด้านเครื่องสำอาง สกินแคร์ และความงามส่วนบุคคลที่มีลูกค้ากว่า 30 ล้านคนทั่วโลก อีฟ โรเชยืนหยัดลงมือทำ เพื่อสิ่งที่ดีต่อโลกและดีต่อคุณ

ในฐานะที่อีฟ โรเช เป็นแบรนด์บิวตี้อันดับ 1 ของประเทศฝรั่งเศส ทางแบรนด์เชื่อว่าเราสามารถเป็นตัวแทนที่พูดได้ดังที่สุด และเชื่อว่าอีฟ โรเช สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในตลาดบิวตี้ได้ จึงได้ตั้งโจทย์ในการทำแคมเปญรักษ์โลกด้วยการมองในมุมมองที่แบรนด์อื่นคาดไม่ถึงและพูดในสิ่งที่แบรนด์อื่นไม่กล้าพูด อีกทั้งยังเลือกที่จะหันไปให้ความสำคัญกับการทำเพื่อโลก ลงมือทำเพื่อสิ่งแวดล้อมและสร้างผลลัพธ์อันยิ่งใหญ่ โดยการทำงานของอีฟ โรเชตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันให้ความสำคัญกับ 3 เสาหลักสำคัญที่ยึดมั่นในการเป็นแบรนด์บิวตี้ที่คิดและทำเพื่อโลก ได้แก่

ความเชี่ยวชาญด้านพฤกษศาสตร์เพื่อความงาม สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติอันมีประสิทธิภาพ จากหมู่บ้าน ลา กาซิลลี่ – La Gacilly

อีฟ โรเช เชี่ยวชาญด้านการนำพลังพฤกษาพรรณธรรมชาติมาใช้ ได้ค้นคว้าและทดลองเกี่ยวกับสรรพคุณ และความมหัศจรรย์จากธรรมชาติ แม้ในระยะหลังจะมีอีกหลากหลายแบรนด์ที่ร่วมในกระแสความงามแบบธรรมชาติ อย่างไรก็ดีแบรนด์ อีฟ โรเชเป็นแบรนด์แรกๆ ที่บุกเบิกความเชี่ยวชาญของศาสตร์ในด้านนี้ และมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างให้แบรนด์ อีฟ โรเชเป็นต้นแบบในความเชี่ยวชาญของเราให้กับในอุตสาหกรรมความงาม

สวนพฤกษศาสตร์ของเราที่หมู่บ้านลา กาซิลลี่ (La Gacilly) เป็นแหล่งความรู้ความเชี่ยวชาญที่นักพฤกษศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ของเราได้รับแรงบันดาลใจในการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ และความรู้ด้านการรักษาความหลากหลายด้านชีวภาพ โดยสวนพฤกษศาสตร์นี้สร้างขึ้นในปี 1979 มีพืชพรรณกว่า 5,000 ชนิดที่ได้ปลูกที่นี่ เพื่อศึกษาถึงวิธีการเพาะปลูก และไขความลับในพลังความงามแห่งพฤกษาพรรณเพื่อผลลัพธ์ในการบำรุงผิวและเส้นผม

สารสกัดอันทรงพลังความงามจากพืชพรรณจากแคว้นบริตตานี ในฝรั่งเศส มีพืชพรรณหลากหลายชนิดที่ได้รับการคัดสรร โดยอิงจากคุณสมบัติในการให้ผลลัพธ์ที่ดีแก่ผิวพรรณ อีฟ โรเชยังร่วมกับเกษตรกรในท้องถิ่นในการวางแผนการเพาะปลูกในวิถีนิเวศน์ยั่งยืน ซึ่งส่งผลในทางบวกกับสภาพดิน คุณภาพของน้ำ และการฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ รวมไปถึงการสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วย

ห่วงโซ่คุณค่าที่ยั่งยืนแห่งนิเวศน์ทางการเกษตร – the Fields, Agroecology

อีกหนึ่งความสำคัญที่แบรนด์อีฟ โรเช นับเป็นจุดเริ่มต้นของห่วงโซ่ นั่นก็คือ “พืช” ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจและเป็นหัวใจหลักของวิสัยทัศน์ในวันข้างหน้า ห่วงโซ่คุณค่าที่ยั่งยืนของแบรนด์ หรือที่เราเรียกว่า
 

The Herbarium –  หลักปฏิบัติทั้ง 5 ภาคส่วน อันประกอบไปด้วย

• ภาคการผลิต (The Production sector) อันเกี่ยวกับผลิตวัตถุดิบ พืชพันธุ์ และสารสกัดในชั้นน้ำที่ได้จากการสกัดด้วยไอน้ำจากกระบวนการสกัดน้ำมันหอมระเหย ซึ่งเป็นผลิตผลพลอยได้ที่เป็นของเหลว อันจำเป็นต่ออุตสาหกรรมความงามทางพฤกษศาสตร์
• ภาคนวัตกรรมของการเพาะปลูกพืชพันธุ์ ( The Plan Innovation sector) ว่าด้วยการการทดสอบ และพัฒนาพืชพันธุ์
• ภาคพฤกษศาสตร์ ( The Botanical sector) เกี่ยวกับความรู้ถึงแก่นแท้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของพืชพันธุ์ ธรรมชาติ การให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญชองอีฟ โรเช และ ศาสตร์การใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ
• ภาคความหลากหลายทางชีวภาพ และความยั่งยืน (The Biodiversity and sustainable commitment sector) ว่าด้วยการศึกษาเกี่ยวกับระบบนิเวศน์วิทยาโดยองค์รวม สิ่งมีชีวิต ตลอดจนพลวัตบนดินแดน ลากาซิลี่
• ภาควิชาชีวิต (The life Pedagogy sector) เกี่ยวกับการแบ่งปัน ความรู้ ทั้งภายใน และภายนอก เพื่อที่จะ/เชื่อมผู้คนเข้าสู่ธรรมชาติ

กิจกรรม CSR

การจัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อส่งต่อความรู้ สร้างความตระหนัก และมีส่วนร่วมเกี่ยวกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและความสำคัญของพืชให้กับผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งกิจกรรมระดับ Global และ Local เช่น Yves Rocher foundation – Plant for life program กิจกรรมที่ปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 120 ล้านต้นทั่วโลก, โครงการ Act Beautiful to Make a Sustainable Difference  ลดการใช้พลาสติกครั้งเดียว นอกจากนี้ยังมีอีกหลายภาคส่วนที่อีฟ โรเช ได้ร่วมพันธมิตรในกิจกรรม CSR ต่างๆ เพื่อสร้าง Collective  Action ผนึกหลายกำลังเล็กๆ เพื่อผลแห่งความยั่งยืน อาทิ

ลูกกอล์ฟ - คณาธิป สุนทรรักษ์ ผู้มีแนวทางในการใช้ชีวิตแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังกระตุ้นให้กับ ผู้คนรอบข้าง โดยลูกกอล์ฟ  เป็นจุดเชื่อมโยงให้อีฟ โรเชได้ทำกิจกรรมดีดีกับอีกหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น

• ECOLIFE แพลทฟอร์มที่ช่วยให้การรักษ์โลกรู้สึกง่ายขึ้น ด้วยวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการขวดพลาสติกเพื่อนำไปรีไซเคิลอย่างเหมาะสม
• Chula Zero Waste หน่วยงานบริหารจัดการของเสียภายใต้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ดำเนินการครบวงจรตั้งแต่การสร้างความตระหนักรู้ถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม การสร้างพฤติกรรมที่ลดการใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น และการบริหารจัดการขยะของเสียต่างๆ ด้วยวัตถุประสงค์ร่วมกันในการลดการใช้พลาสติกครั้งเดียว จึงเป็นที่มาของโครงการตู้กดน้ำที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นพร้อมรองรับการใช้งานในโรงอาหารหลัก 7 แห่งของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
• Little Big Green กลุ่มคอมมิวนิตี้ในโซเชียลที่ตั้งใจอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมจากพฤติกรรมประจำวัน ด้วยวัตถุประสงค์ในการนำเสนอวิธีการนำแนวคิดวิถีชีวิตแบบยั่งยืนมาปรับใช้เป็นกิจวัตรประจำวันง่ายๆ ผ่าน Social Influencer นำทีมโดยลูกกอล์ฟ - คณาทิป สุนทรรักษ์ ด้วยกิจกรรมที่ทำได้จริงแล้วแชร์ต่อในโลกโซเชียลในคอนเซปท์ #คุ้มยัง ทั้งการใช้สิ่งของที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าก่อนที่จะทิ้งให้กลายเป็นขยะ และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการคิดค้นพัฒนาไปจนถึงมือผู้ใช้ก็ไม่ส่งผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม
• CirPlas บริษัทจัดการปัญหาขยะพลาสติกที่มุ่งมั่นจะช่วยลดจำนวนขยะพลาสติกที่ถูกกำจัดโดยฝังกลบ ผ่านการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) เพื่อชุบชีวิตและเพิ่มมูลค่าให้กับขยะพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง ที่คอยรับบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้ว จากร้าน อีฟ โรเช ไปนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล เพื่อทำให้ขวดพลาสติกเหล่านั้นสามารถนำกลับมาใช้ได้ไม่รู้จบ

การได้รับรางวัล NO.1 Beauty Brand in France ที่อีฟ โรเช ในครั้งนี้นั้นมาจากการรับรองของ Kantar Worldpanel ที่ได้ทำสำรวจกับ ผู้บริโภคเพศหญิง ในประเทศฝรั่งเศส ในช่วงปี 2022 (ข้อมูล ณ วันที่ 12/25/2022) โดยในรายละเอียดของการรับรองได้ระบุว่า อีฟ โรเช คือแบรนด์อันดับ 1 ในด้านของจำนวนการขายสินค้า และยอดขายในตลาดความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล (ตามรายละเอียดในจดหมายรับรองที่แนบมาในท้ายข่าว) รางวัลนี้นับเป็นเครื่องการันตีว่าที่ผ่านมา อีฟ โรเช ได้คิดและทำตามปรัชญาของอีฟ โรเช ที่มุ่งทำให้โลกของเราดีขึ้นโดยยั่งยืนขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอด โดยเส้นทางเดินกว่า 64 ปี สู่การขึ้นมาเป็นแบรนด์บิวตี้อันดับ 1 ของประเทศฝรั่งเศส ได้รับรางวัลมาอย่างต่อเนื่อง  

เริ่มจากปี 1996 ได้รับรางวัลบริษัทที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อมจากองค์กรนิเวศวิทยาของประเทศฝรั่งเศส ในปี 2007 ได้รับรางวัลแบรนด์คอสเมติกอันดับ 1 ของประเทศฝรั่งเศส ถัดมาปี 2015 อีฟ โรเช ได้รับรางวัลแบรนด์บิวตี้อันดับ 1 ของประเทศฝรั่งเศส และล่าสุดในปี 2022 ตอกย้ำความสำเร็จด้วยรางวัลแบรนด์บิวตี้อันดับ 1 ของประเทศฝรั่งเศสอีกครั้ง ซึ่งสิ่งสำคัญกว่ารางวัลที่ได้รับนั้น อีฟ โรเช ยังคงยึดมั่นในการให้ความสำคัญเรื่องของการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับความยั่งยืนของโลกเหมือนตั้งแต่วันแรกและต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน

สำหรับอีเวนท์ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ช่วย ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 ของอีฟ โรเช ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ด้วยกระบวนการที่รักษาสิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรอย่างเป็นประโยชน์มากที่สุดเพื่อความงดงามอย่างยั่งยืน กับ Event for the World ‘ Better Word, Better You’ ที่มุ่งเน้นการร่วมงานอย่างกลมกลืนไปกับธรรมชาติ เพื่อให้สัมผัสกับการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างโลกที่ดีขึ้นจากตัวเราในเวอร์ชั่นที่งดงามขึ้นกว่าเดิม ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกที่หมุนไปทุกวัน

อีฟ โรเช อยากเป็นผู้ขับเคลื่อนเรื่องรักษ์โลกอย่างแท้จริง พร้อมเปิดตัว Friend of Yves Rocher คนใหม่ที่สะท้อนภาพลักษณ์ของคนที่ใส่ใจเรื่องการรักษ์โลกอย่าง ยิปโซ-อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์ ผู้หญิงที่มีแนวคิดและมีการใช้ชีวิตในการขับเคลื่อนเรื่องการรักษ์โลก อีฟ โรเช เล็งเห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ตรงกันในการขับเคลื่อนเรื่องการรักษ์โลก จึงได้ ยิปโซมาเป็นผู้ถ่ายทอดแคมเปญรักษ์โลกนี้ให้อิมแพ็คมากขึ้น พร้อมกันนี้ได้ปล่อยหนังโฆษณาที่ได้ ยิปโซ Friend of Yves Rocher มาร่วมถ่ายทอด

แคมเปญ Better World, Better You ดีต่อโลก ดีต่อคุณ เรียกได้ว่ากระแสตอบรับดีอย่างล้นหลาม ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่จะสื่อสารกับโลก เป็นตัวแทนให้ผู้บริโภคได้สัมผัสถึงความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งที่จริงใจกับโลก และทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้โลกดีขึ้นอย่างยั่งยืน

Yves Rocher (อีฟ โรเช) แบรนด์บิวตี้ที่คิดและทำสิ่งดี ดีเพื่อโลกและคุณ แบรนด์บิวตี้อันดับ 1 ของฝรั่งเศสที่ได้รับการยอมรับว่าดีต่อโลก ทั้งเรื่องการไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิต ไม่ทำลายระบบนิเวศ ย่อยสลายได้เองโดยไม่ตกค้าง ที่สำคัญคือทุกผลิตภัณฑ์ของอีฟ โรเช ผลิตจากส่วนผสมจากธรรมชาติ และอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ไม่รู้จบ

#ดีต่อโลกดีต่อคุณ

#No1BeautybrandinFrance

#YvesRocherTH