ไทยไฟเขียวนำเข้าอะโวคาโด จากรัฐเวสเทิร์น ประเทศออสเตรเลีย ผ่านการฑูต กระชับความสัมพันธ์ทางการค้าด้านสินค้าเกษตร อะโวคาโดพันธุ์แฮส (Hass) จากออสเตรเลีย
ได้รับการอนุญาตนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ภายหลังการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เรื่อง เงื่อนไขการนำเข้าผลอะโวคาโดสดจากเครือรัฐออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 โดยอะโวคาโดพันธุ์แฮส (Hass) สดจากออสเตรเลีย เกรดพรีเมียม ที่มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพสูง มีเนื้อเข้มข้น รสมันเนย ครีมเนียนอ่อนนุ่ม เมื่อกินแทบไม่ต้องเคี้ยว ละมุนลิ้น มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย
ดร. แอนเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย กล่าวชื่นชมความสำเร็จของการดำเนินความร่วมมือระหว่างหลายภาคส่วนในช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะกระทรวงการเกษตรของไทยและออสเตรเลีย ทูตพาณิชย์และการลงทุนอาวุโสออสเตรเลียประจำประเทศไทย และสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ซึ่งความพยายามในการส่งเสริมความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้ผู้บริโภคชาวไทย มั่นใจได้ว่าอะโวคาโดออสเตรเลียมีคุณภาพและได้มาตรฐานตามเงื่อนไขการนำเข้าสินค้าเกษตรของไทย
“ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินความร่วมมือที่ทั้งไทยและออสเตรเลียต่างได้รับประโยชน์” เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย กล่าวเน้นย้ำ “ช่วยให้เกษตรกรชาวออสเตรเลียสามารถขยายโอกาสในการส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น ในขณะที่ผู้บริโภคชาวไทยมีทางเลือกที่เพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าเกษตรคุณภาพสูงซึ่งสอดคล้องกับความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มาจากแหล่งผลิตที่มีความปลอดภัยและยั่งยืน”
ฯพณฯ แจ็คกี้ จาร์วิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร อาหาร ป่าไม้ และธุรกิจขนาดย่อม รัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย กล่าวถึงแนวทางความร่วมมือและการบูรณาการห่วงโซ่อุปทานของเกษตรกรผู้ปลูกอะโวคาโด ในรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลียควบคู่ไปกับการมีเทคโนโลยีคัดแยกที่ทันสมัยและสถานที่ในการบรรจุสินค้าที่ได้มาตรฐานจากส่วนกลาง ซึ่งช่วยรับประกันคุณภาพและความสดใหม่ของอะโวคาโดกว่า 50,000 ลูกต่อปี โดยเป็นไปตามมาตรฐานการส่งออกที่เข้มงวดก่อนออกสู่ตลาดไทย นอกจากนี้ สภาพภูมิอากาศของรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย ยังเอื้อต่อการปลูกอะโวคาโดตลอดทั้งปี โดยมีพื้นที่เพาะปลูกอะโวคาโดกว่า 5,000 เฮกตาร์
ไมเคิล เฮลเลแมน ทูตพาณิชย์อาวุโสและอัครราชทูตที่ปรึกษา (การพาณิชย์) ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ในแต่ละปีคนไทยจำนวนมากเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศออสเตรเลียและได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอาหารออสเตรเลีย ที่มีอะโวคาโดเป็นส่วนประกอบหลักในเมนูอาหารเช้าและบรันช์ ซึ่งความสนใจที่มีต่อเทรนด์อาหารทั่วโลกจะทำให้ผู้บริโภคชาวไทยชื่นชอบการนำอะโวคาโดไปรังสรรค์เมนูการทำอาหารใหม่ ที่แปลกใหม่และหลากหลาย
“เราเชื่อมั่นว่าอะโวคาโดของรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลียจะเป็นที่นิยมของผู้บริโภคชาวไทยอย่างแน่นอน”
นอกจากนี้ ได้มีการกำหนดกิจกรรมการตลาดและการส่งเสริมการขายที่จะเริ่มต้นในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทของผู้ปลูก ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรม รัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย และสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย โดยจะมุ่งเน้นไปที่การสื่อสารและทำความเข้าใจผู้ค้าปลีก ซูเปอร์มาร์เก็ต ผู้นำเข้า และสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับวิธีการรับประทานอะโวคาโดพันธุ์แฮส เกรดพรีเมียม ซึ่งคาดว่าแฮส อะโวคาโดจะเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดไทยเนื่องจากเป็นผลิตผลที่มีคุณภาพสูง
แบรด โรเจอร์ส ประธานเกษตรกรผู้ปลูกอะโวคาโดออสเตรเลีย และเป็นผู้ปลูกจากรัฐเวสเทิรน์ ออสเตรเลีย กล่าวแสดงความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมแบ่งปันผลผลิตอะโวคาโดสดจากออสเตรเลีย ที่มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพที่สูงและมีเนื้อครีมเข้มข้นโดยใช้ระบบการเพาะปลูกที่เน้นความยั่งยืน
“จากนี้ไปผู้บริโภคชาวไทยจะได้มีโอกาสสัมผัสกับรสชาติอะโวคาโดเข้มข้นในชีวิตประจำวันได้แล้ว”
จอห์น ไทยาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Avocados Australia กล่าวย้ำถึงศักยภาพของตลาดในประเทศไทย โดยคาดการณ์ว่าจะสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ปลูกอะโวคาโดในรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย ถึงสิบล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ภายในปี พ.ศ. 2569 ซึ่งอะโวคาโดจะให้ผลผลิตออกสู่ตลาดได้ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนมีนาคม จึงมีแผนที่จะครองตลาดในช่วงนี้
“ในส่วนของกลยุทธ์ในการพัฒนาตลาดจะมุ่งเน้นไปที่การให้ความรู้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับมาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตรที่ปลอดภัย การจัดหาวัตถุดิบอย่างมีจริยธรรม (Ethical Sourcing) และวิธีนำแฮสอะโวคาโดไปรังสรรค์เมนูอาหารอันหลากหลาย”
ทั้งนี้ อะโวคาโด จากออสเตรเลีย จะมีเนื้อเข้มข้น รสมันเนย ครีมเนียนอ่อนนุ่ม เมื่อกินแทบไม่ต้องเคี้ยว ละมุนลิ้น หากเอาน้ำผึ้งมาใส่ในอะโวคาโดนิดหน่อย จะเพิ่มรสชาติในการทานให้อร่อยมากยิ่งขึ้น สำหรับประโยชน์จากอะโวคาโดมีมากมายหลายอย่าง ช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดไขมันในเส้นเลือด ชะลอความชราภาพลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง ลดความดันโลหิต บำรุงสายตา แก้อาการเหน็บชา ป้องกันหวัด และป้องกันโรคหัวใจ และที่สำคัญสารแคโรทีนนอยด์ 11 ชนิด พบมากบริเวณเนื้อสีเขียวเข้มที่ติดกับใต้เปลือก มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยให้สุขภาพดี แข็งแรง
การเก็บรักษาอะโวคาโดให้เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องจนกว่าอะโวคาโดจะสุกเต็มที่ โดยทั่วไปจะใช้เวลา 4-7 วันเมื่ออะโวคาโดที่แข็งอยู่สุกเต็มที่แล้ว ให้เก็บไว้ในตู้เย็น โดยใส่ไว้ในถุงพลาสติก จะช่วยรักษาสภาพของอะโวคาโดไว้ได้อีก 3-5 วัน และเคล็ด (ไม่ลับ) เก็บอะโวคาโดที่หั่นเป็นชิ้นแล้ว ด้วยการห่อพลาสติกให้มิดชิด
อะโวคาโดที่หั่นแล้วจะทำปฏิกิริยาออกซิไดซ์อย่างรวดเร็วและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แต่ไม่ได้หมายความว่าจะรับประทานไม่ได้ การพรมน้ำมะนาวเล็กน้อยบนเนื้ออะโวคาโดจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนสีได้
วิธีดูอะโวคาโดว่าสุกหรือดิบให้ดูที่ขั้ว