Back to Top
โรงพยาบาล พญาไท 2 ชวนระวัง ! อาการ “ปวดหัวไม่รู้เป็นอะไร” จนกลายเป็นเรื่องใหญ่
24 Oct 2023

 

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่นอนไม่ค่อยหลับ สายตาสั้นหรือยาวผิดปกติ และมีการรับประทานยาบางชนิดเป็นประจำ หรือ มีอาการปวดหัวเรื้อรัง อย่านิ่งนอนใจจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ อาการปวดศีรษะ หรือ ปวดหัว เป็นอาการป่วยที่เกิดได้บ่อยที่สุด นับเป็นโรคยอดฮิตของทุกเพศทุกวัย ในขณะเดียวกันก็สร้างความทุกข์ทรมานให้ผู้ที่เป็นได้มากเช่นกัน อาการปวดหัวเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายในสมอง ปัจจัยภายนอก อาการปวดแต่ละส่วนสามารถแยกออกเป็นโรคได้อีกหลายชนิด เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพ เราจึงควรรู้เกี่ยวกับลักษณะอาการปวดหัวที่พบได้บ่อย เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลตนเองให้ห่างไกลจากอาการปวดหัว และ ไม่ปล่อยให้ตัวเองปวดหัวเรื้อรัง  

กลุ่มที่ควรระวังมากเป็นพิเศษหากมีอาการปวดหัว ได้แก่ ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะแบบเฉียบพลันโดยที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย,  ผู้สูงอายุ 50 ปี ขึ้นไป, ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น มะเร็งเต้านม และกลุ่มคนไข้ที่ติดเชื้อเอดส์

 

สาเหตุของอาการปวดหัว แบ่งได้เป็น 2 สาเหตุหลักๆ คือ

1 .  การปวดศีรษะที่มีสาเหตุจากในสมอง เช่น เนื้องอกในสมอง เลือดออกในสมอง ความดันสมองเพิ่มผิดปกติ ภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น โดยสามารถตรวจได้จากการตรวจร่างกายทางสมอง ซักประวัติผู้ป่วย รายละเอียดของการปวดศีรษะ ลักษณะการปวดและความรุนแรง เมื่อพบข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนอาจตรวจเพิ่มเติมด้วยการใช้คลื่นสนามแม่เหล็ก (MRI), การตรวจคอมพิวเตอร์สมอง (CT Scan) หรือการเจาะน้ำไขสันหลังเพื่อหาสาเหตุของโรคต่อไป

 

2.  การปวดศีรษะแบบไม่พบสาเหตุชัดเจน ปวดหัวแบบตึงตัว (Tension type headache) เป็นโรคปวดศีรษะที่พบได้บ่อยที่สุด มักเกิดกับบุคคลซึ่งมีความเครียด เหนื่อย ทำงานหนัก ลักษณะการปวดมักเป็นแบบแน่นๆ หรือ รัดทั้งสองข้างของศีรษะและต้นคอ โดยอาการปวดมักมีความรุนแรงน้อยถึงปานกลาง ซึ่งอาจมีการปวดของกล้ามเนื้อบริเวณศีรษะ คอ ไหล่ ร่วมด้วยได้ อาการปวดชนิดนี้ไม่แย่ลงจากกิจวัตรประจำวัน และมักไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย

 

  • ปวดศีรษะไมเกรน (Migraine headache) เป็นโรคที่พบได้บ่อย และมักได้รับการวินิจฉัยที่ผิดพลาด โดยโรคนี้มักพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยทำงาน ลักษณะการปวดมักทำให้เกิดอาการปวดศีรษะรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก ซึ่งอาการปวดดังกล่าวจะแย่ลงได้จากสิ่งกระตุ้นภายนอก ทั้งแสง เสียง หรือกลิ่น ผู้ป่วยบางรายมักมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ไมเกรนส่วนใหญ่มักจะปวดนานตั้งแต่ 4 ชั่วโมงขึ้นไป ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดนานถึง 3 วัน

 

  • ปวดศีรษะแบบกลุ่ม (Cluster headache) เป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อย แต่ก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานได้หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง อาการปวดชนิดนี้มักเกิดในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โดยมักมีอาการปวดที่รุนแรงจนทำให้ผู้ป่วยกระสับกระส่าย มักเกิดทันที ระยะเวลาที่ปวดประมาณ 15 นาทีถึง 3 ชั่วโมง ตำแหน่งที่ปวดมักปวดรอบดวงตาหรือบริเวณขมับ มักเป็นข้างเดียว ผู้ป่วยจะมีอาการของระบบประสาท Parasympathetic ร่วมด้วย เช่น มีตาแดง มีน้ำตาไหล มีน้ำมูก มีเหงื่อออกบริเวณใบหน้าด้านที่มีอาการปวดหัว

 

  • ปวดศีรษะแบบเรื้อรังทุกวัน (Chronic daily headache) ผู้ป่วยชนิดนี้มักมีอาการปวดเรื้อรังมากกว่า 15 วันต่อเดือน อย่างน้อย 3 เดือน ซึ่งผู้ป่วยอาจมีอาการปวดแบบ tension หรือแบบไมเกรนก็ได้ แต่ผู้ป่วยจะมีอาการเรื้อรังมากกว่า ในผู้ป่วยกลุ่มนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นโรคปวดศีรษะจากการใช้ยาเกิน ซึ่งเกิดจากการซื้อยากินเอง การใช้ยาแก้ปวดบ่อยๆ ซึ่งทำให้มีอาการปวดเรื้อรังมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุอื่นที่สามารถทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้อีก เช่น ภาวะไซนัสอักเสบ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง โรคมะเร็ง เป็นต้น ทั้งนี้การวินิจฉัยต้องอาศัยการซักประวัติ ตรวจร่างกายอย่างละเอียด รวมถึงการตรวจเพิ่มเติม เช่น การทำ MRI เป็นต้น เพื่อช่วยวินิจฉัยแยกโรคที่ก่อให้เกิดอันตรายออกไป

 

แนวทางการรักษา กรณีปวดศีรษะ และตรวจพบพยาธิสภาพของโรคต่างๆ แพทย์จะดำเนินการรักษาโดยขึ้นอยู่กับว่าตรวจพบอะไร เช่น เนื้องอกในสมอง โรคหลอดเลือดโป่งพอง อาจจะต้องผ่าตัด เป็นต้น กรณีปวดศีรษะที่ไม่ก่ออันตราย หากตรวจไม่พบพยาธิสภาพ แพทย์จะรักษาตามลักษณะอาการ ซึ่งมีหลายวิธีได้แก่..

  • รักษาด้วยยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาคลายเครียด พร้อมทั้งแนะนำการปฏิบัติตัวเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น

 

  • การฉีดยารักษาอาการปวดด้วยการ block เส้นประสาทใช้ในการรักษาอาการปวดศีรษะอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ มีประสิทธิภาพ และสามารถลดอาการปวดได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถบรรเทาอาการโรคปวดศีรษะได้หลายชนิด เช่น โรคไมเกรน โรคปวดศีรษะแบบ cluster โรคปวดศีรษะจากการใช้ยาแก้ปวด

 

  • การฉีดยาลดการทำงานของเส้นประสาท และการฉีดยารักษาไมเกรนด้วย Botox ช่วยยับยั้งปลายประสาทที่ส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมองด้วย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มันเกิดอาการ สามารถช่วยลดความรุนแรงและความถี่ของอาการปวดศีรษะได้

 

  • การทำกายภาพบำบัด การนวด การยืดกล้ามเนื้อเมื่อมีอาการปวดหัวผิดปกติอย่านิ่งนอนใจ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียด กับ โปรแกรมตรวจหาสาเหตุอาการปวดศีรษะ สามารถตรวจได้ครบเพื่อวิเคราะห์อาการอย่างแม่นยำ อาทิ ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจการทำงานของไต ตรวจสมรรถภาพการทำงานของตับ ตรวจระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ตรวจระดับไขมันในเลือด (ไขมันชนิดดี) ตรวจระดับไขมันในเลือด(ไขมันชนิดไม่ดี) การตรวจที่มีการบ่งบอกว่ามีการอักเสบ ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด

 

สอบถามเพิ่มเติม ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลพญาไท 2 ชั้น 4 อาคาร  A โทร 02-617-2444 ต่อ 7451,4484  หรือ Call Center 1772 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

[อ่าน 788]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การเคหะแห่งชาติ MOU มูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา
ไรเดอร์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ คว้ามาตรฐาน ISO 27001:2022 ยกระดับความมั่นคงข้อมูล พร้อมเดินหน้าสู่ผู้นำ InsurTech ไทย
เอพี ไทยแลนด์ – มิตซูบิชิ เอสเตท ฉลอง 12 ปีพันธมิตรยั่งยืน ร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยผ่านการพัฒนาโครงการอสังหาฯ
กรุงไทย–แอกซ่า ร่วมใจบริจาคโลหิต เนื่องในวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 24
เวียตเจ็ทไทยแลนด์เปิดบินตรง ภูเก็ต – มุมไบ ตั๋วโปรฯ เริ่มต้น 0 บาท
FWD ประกันชีวิต ผนึก ทรู คอร์ปอเรชั่น ส่งมอบสิทธิพิเศษ ฟรีประกันภัยการเดินทางต่างประเทศให้ลูกค้าที่ใช้บริการโรมมิ่ง GO Travel
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved