"บลูบิค กวาดรายได้ 9M กว่า 941 ลบ. กำไรนิวไฮแตะ 217 ลบ. มั่นใจผลประกอบการปี 66 โตเกินเป้า 120%"
13 Nov 2023

บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ที่ปรึกษาชั้นนำผู้ให้บริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันครบวงจร เผยผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2566 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิแตะ 217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ในขณะที่รายได้สูงถึง 941 ล้านบาท โต 122% YoY เป็นผลจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริการหลักและแผนยุทธศาสตร์สร้าง Synergy ระหว่างบริษัทในเครือให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น รวมถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่หนุนให้กำไรในไตรมาส 3 ปี 2566 ปรับตัวสูงเป็นประวัติการณ์ สวนทางกับทิศทางเศรษฐกิจชะลอตัว

 

โดยผลประกอบการไตรมาส 3 ประจำปี 2566 กำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทฯ อยู่ที่ 80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) เป็นผลจากการรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูงที่ 53% การควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง 4% และสิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับรายได้ประจำงวดอยู่ที่ 335 ล้านบาท และยังมีงานต่างประเทศที่รอรับรู้รายได้จากไตรมาส 3 ไปไตรมาส 4 อีกด้วย สำหรับมูลค่างาน Backlog (ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566) อยู่ที่ 805 ล้านบาท แบ่งออกเป็นส่วนของบลูบิค 692 ล้านบาท และบริษัทร่วมทุน 113 ล้านบาท โดยเตรียมรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 นี้จากส่วนของบลูบิคมากกว่า 291 ล้านบาท และบริษัทร่วมทุนอีก 113 ล้านบาท และที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2567 – 2571

 

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาของปี 2566 ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก จากปัจจัยลบที่ทวีความรุนแรงตั้งแต่ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Risk) และการลงทุน ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่บลูบิคยังสามารถรักษาการเติบโตของกำไรสุทธิอย่างมีเสถียรภาพตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา และเชื่อมั่นว่าแนวโน้มไตรมาส 4 ยังดีต่อเนื่องจากกลุ่มบริการหลักทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงส่วนแบ่งกำไรที่แข็งแกร่งจากบริษัทร่วมทุน ที่จะหนุนให้ผลประกอบการทั้งปี 2566 โตเกินเป้า 120% ที่เคยวางไว้

 

“ความต้องการลงทุนด้านเทคโนโลยีของภาคธุรกิจยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เพราะองค์กรจำเป็นต้องรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันและลดต้นทุนการดำเนินงาน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเห็นโอกาสสร้างความแข็งแกร่งให้กับรายได้จากศักยภาพและความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ด้วยแผนที่อาจเพิ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ในอนาคต เพื่อตอบโจทย์การทำธุรกิจในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล อาทิ White Label Platform บริการด้าน ERP Implementation และบริการด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity) ที่ครอบคลุมมากขึ้น ตั้งแต่การป้องกันจนถึงการรับมือกับเหตุการณ์ภัยคุกคาม เป็นต้น” นายพชรกล่าว

 

บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าผลประกอบการของบลูบิคยังคงสดใสต่อเนื่องในปี 2567 เป็นผลจากจุดแข็งด้านบริการครบวงจร  ที่ครอบคลุมความต้องการของภาคธุรกิจที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และการรุกขยายตลาดที่มีศักยภาพในต่างประเทศ อย่างอุตสาหกรรมการเงินของประเทศเวียดนาม ที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตจากดิจิทัลดิสรัปชัน รวมถึงประเทศฟิลิปปินส์และมาเลเซียที่มีความตื่นตัวด้านการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน โดยบริการหลักที่พร้อมตอบโจทย์ตลาดเหล่านี้ ได้แก่ บริการพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี (Digital Excellence and Delivery) บริการให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการ (Management Consulting) และบริการด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity)

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ เปิดเผยว่ายังมีปัจจัยบวกอื่นๆ ที่จะเสริมแกร่งให้การเติบโตในปี 2567 เป็นไปตามแผน ได้แก่ สิทธิประโยชน์ด้านภาษีเต็มปีของบริษัท บลูบิค ไททันส์ จำกัด ที่ได้รับอนุมัติในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา และสิทธิประโยชน์ด้านภาษีของบริษัท วัลแคน เดลิเวอรี่ จำกัด (VDD) ที่คาดว่าจะเพิ่มเติมเข้ามาในไตรมาส 4 ผนวกกับการเปิดดำเนินงานเต็มรูปแบบของสองบริษัทร่วมทุน ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ซอส สกิลส์ จำกัด (Sauce Skills) ธุรกิจด้าน Corporate Training ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง และบริษัท อีโคเอ็กซ์ จำกัด (EcoX) ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและ Green Tech ที่เตรียมเดินหน้าเต็มสูบในปีหน้า

 

“แผนยุทธศาสตร์สร้าง Synergy ระหว่างบริษัทในเครือที่แล้วเสร็จในปีนี้ จะสนับสนุนให้การเติบโตของบลูบิคเป็นไปอย่างแข็งแกร่งในปีหน้า ทั้งในแง่ของการลดค่าใช้จ่ายของกลุ่มบริษัทฯ จากการปรับปรุงระบบการดำเนินงานหลังบ้าน  การปรับเพิ่ม Utilization Rate ของพนักงาน และการทำ Cross-Selling และ Up-Selling รวมถึงการส่งต่องานให้แก่กัน เพื่อรองรับขยายบริการไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการรักษาฐานลูกค้าเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถรองรับแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เพิ่มเติมในอนาคตอีกด้วย” นายพชรกล่าวปิดท้าย

[อ่าน 814]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
BEM คว้า 2 รางวัลองค์กรเด่นจาก IAA Awards 2025 ตอกย้ำมาตรฐานบริหารและงานนักลงทุนสัมพันธ์โปร่งใส
SYNNEX เปิดคลังลดแรงส่งท้ายปี กับงาน Synnex Big Bang Sale 2025 วันที่ 14–15 พ.ย. นี้
“โอ๊ตไซด์” จับมือพันธมิตรร้านกาแฟกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ เพิ่มโอกาสเข้าถึงนมโอ๊ตคุณภาพสำหรับทุกคน แบบไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
หมัดเด็ดส่งท้ายปี! MK คุ้มเกินคุ้ม 299 บาท รวมพลังเมนู “ลูกชิ้น MK” ทานได้ไม่อั้น
พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 30 ปี จัดคาราวานตรวจสุขภาพฟรี “Healthy U by Prudential” ส่งเสริมคนไทยใส่ใจสุขภาพ
กองทุนประกันชีวิตเข้าร่วมออกคูหานิทรรศการในงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 20 (Money Expo 2025 CHIANGMAI)
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved