Back to Top
Igloo ปิดดีล 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการระดมทุนรอบพรีซีรีส์ C ประเมินมูลค่าเพิ่มขึ้น 50%
07 Dec 2023
  • อินชัวร์เทคระดับภูมิภาคปิดดีล 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการระดมทุนรอบพรีซีรีส์ C เพื่อใช้ขยายกิจการในภูมิภาคผ่านการเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์ โดยมุ่งเป้าขยายตลาดในประเทศไทยในฐานะตลาดสำคัญที่มีการเติบโต
  • บริษัทได้รับการประเมินมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 50% เนื่องจากมีทิศทางและผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในปี 2566 และคาดการณ์ว่าจะทำกำไรได้ในปี 2567
  • การระดมทุนรอบนี้มีผู้ลงทุนหลักคือ Eurazeo ซึ่งเป็นบริษัทผู้ลงทุนระดับโลกผ่านกองทุนอินชัวร์เทคที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้รับประกันภัยระดับโลกอย่าง BNP Paribas Cardif อีกทั้งยังได้รับเงินทุนจากกองทุน OSV+ ของ Openspace และ La Maison ที่สนใจร่วมลงทุนเพิ่มเติมจากรอบก่อน
  • Igloo จะมุ่งเป้าไปที่การใช้นวัตกรรมและการขยายพันธมิตรในประเทศไทย เพื่อเข้าถึงภาคธุรกิจใหม่ๆ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น การประกันภัยพืชผลทางการเกษตร

 


Igloo อินชัวร์เทคระดับภูมิภาคประกาศปิดดีล 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการระดมทุนรอบพรีซีรีส์ C โดยมี Eurazeo บริษัทผู้ลงทุนระดับโลกเป็นผู้ลงทุนหลักในครั้งนี้ผ่านกองทุนอินชัวร์เทคที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้รับประกันภัยระดับโลกอย่าง BNP Paribas Cardif นอกจากนี้ยังได้รับความไว้วางใจจากทั้ง Openspace และ La Maison ที่เคยร่วมลงทุนกับ Igloo ตั้งแต่รอบซีรีส์ B และ B+ ด้วยความเชื่อมั่นในรากฐานทางธุรกิจอันแข็งแกร่งของบริษัท โดย Eurazeo ได้ร่วมลงทุนผ่านกองทุนอินชัวร์เทคซึ่งให้ความสนใจในเทคโนโลยีที่สร้างนวัตกรรมและไอเดียธุรกิจใหม่ๆ ที่จะดิสรัปต์ธุรกิจการประกันภัย ขณะที่การลงทุนของ Openspace ในรอบนี้เป็นการลงทุนเพื่อผลักดันการเติบโตของธุรกิจในระยะกลางภายใต้กองทุน OSV+ ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่มีเทคโนโลยีที่สร้างการเปลี่ยนผ่านและอยู่ในซีรีส์ C และ D ในอาเซียน

 

"เราได้ติดตาม Igloo มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และประทับใจอย่างมากกับนวัตกรรมใหม่ๆ ที่นำมาใช้ในแพลตฟอร์มการประกันภัยได้หลากหลายแขนง ผ่านช่องทางและผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย ตลาดประกันภัยในอาเซียนยังมีโอกาสอีกมาก และเราเชื่อว่า Igloo มีศักยภาพที่จะลบจุดอ่อนเหล่านี้ และทำให้ประกันภัยกลายเป็นเรื่องที่เข้าถึงและเข้าใจได้ง่ายสำหรับผู้บริโภค" อัลเบิร์ต ชายย์ กรรมการผู้จัดการของ Eurazeo กล่าว

 

การระดมทุนของ Igloo รอบล่าสุดนี้ห่างจากรอบซีรีส์ B+ เพียง 10 เดือน ซึ่งครั้งนั้นมี InsuResilience Investment Fund II ที่บริหารจัดการโดย BlueOrchard เป็นผู้ลงทุนหลัก ปัจจุบันบริษัทได้ระดมทุนไปกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้การระดมทุนรอบพรีซีรีส์ C ของ Igloo ยังได้รับการประเมินมูลค่าบริษัทที่เพิ่มขึ้นจากซีรีส์ B+ เมื่อปี 2565 ถึง 50% และบริษัทใกล้ที่จะทำกำไรได้ในปี 2567 นอกจากนี้การเพิ่มเบี้ยประกันรับรวม (GWP) ของ Igloo เป็น 2 เท่าของปี 2565 ยังเป็นไปตามแผนภายใต้อัตราการเผาเงินทุน (burning rate) ที่ต่ำ อันเป็นผลจากการทุ่มเทด้านวิศวกรรมและข้อมูล จนช่วยปูทางให้บริษัทสามารถทำผลกำไรได้ในปี 2567 ในที่สุด

 

"เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมลงทุนในบริษัทที่เราเคยให้การสนับสนุนเพื่อผลักดันการขยายกิจการในระยะกลาง (mid-stage) ซึ่งการเติบโตและการบรรลุผลกำไรของ Igloo ในอีกไม่นานนี้ทำให้เรามีความมั่นใจในศักยภาพของธุรกิจที่จะสามารถหารายได้และขยายกิจการในตลาดประกันภัยในอาเซียน" เจสซิกา ฮวง โพเลอร์ หุ้นส่วนของ Openspace Ventures กล่าว "ทีมของเราทำงานร่วมกับ Igloo มาโดยตลอด ซึ่งความสัมพันธ์ดังกล่าวทำให้เราสามารถเพิ่มมูลค่าทั้งด้านการดำเนินกิจการและด้านการพาณิชย์ไปพร้อมกับการที่ธุรกิจได้บูรณาการ เพิ่มเติม และเสริมศักยภาพด้านต่างๆ ให้แข็งแกร่ง"

 

ตลาดประกันภัยในเอเชียยังคงเต็มไปด้วยโอกาสอีกมากมาย โดยเฉพาะประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างอินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ซึ่งแม้ปัจจุบันจะมีการทำประกันภัยเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังมีโอกาสอีกมาก ซึ่งโอกาสในการเติบโตนี่เองที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยเฉพาะ Igloo ที่มีความโดดเด่นในฐานะผู้นำเสนอนวัตกรรมการประกันภัยที่เป็นเรื่องใหม่สำหรับตลาด ช่วยขจัดอุปสรรคสำคัญที่เกิดขึ้นในห่วงโซ่คุณค่า (value chain) ของการประกันภัยทั้งสำหรับผู้รับประกันภัย นายหน้า ผู้ค้าปลีก และผู้บริโภค

 

ความสำเร็จล่าสุดของ Igloo ประกอบด้วย 2 เรื่องหลักๆ ได้แก่ การเปิดตัว Ignite by Igloo เมื่อปี 2565 ในฐานะแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพแก่คนกลางและนายหน้าในเวียดนามและอินโดนีเซีย โดยปัจจุบัน Igloo ทำงานร่วมกับคนกลางและนายหน้ากว่า 22,000 ราย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ราย เมื่อมีการขยายระบบไปยังตลาดอื่นๆ ในปี 2566 ทั้งนี้คนกลางและนายหน้าใน Ignite by Igloo นั้น กว่า 60% เป็นผู้หญิง ซึ่งสอดคล้องตามเป้าหมายของ Igloo ในการยกระดับฐานะการเงินแก่กลุ่มบุคคลที่มีโอกาสไม่มาก

 

นวัตกรรมอีกเรื่องหนึ่งก็คือดัชนีภูมิอากาศ (Weather Index Insurance) ของ Igloo ที่เป็นผู้บุกเบิกการประกันภัยแบบอิงตัวแปรบนพื้นฐานของบล็อกเชนเพื่อเกษตรกร ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในเวียดนามและทั่วอาเซียน เพราะมีประโยชน์อย่างยิ่งในภาคการเกษตร ซึ่งแม้จะเป็นภาคธุรกิจที่มีความเก่าแก่ดั้งเดิม แต่ดัชนีภูมิอากาศก็ได้ช่วยคุ้มครองชาวไร่ชาวนาหลายพันคนนับตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่ไร่กาแฟและไร่นามากถึง 125,000 ไร่

 

ที่ผ่านมา Igloo มีส่วนในการส่งมอบกรมธรรม์มากกว่า 500 ล้านรายการ และตั้งเป้าที่จะเพิ่มเบี้ยประกันรับรวมเป็น 2 เท่า ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยในวันนี้บริษัทมีพันธมิตรกว่า 75 ราย ใน 6 ประเทศ และขยายผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทั้งด้านสินเชื่อผู้บริโภค อีคอมเมิร์ซ และโลจิสติกส์ อีกทั้งเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา Igloo ยังได้รับรางวัล 'อินชัวร์เทคแห่งปี' จาก Asia Fintech Awards อีกด้วย

 

เงินลงทุนก้อนใหม่จะใช้ในการควบรวมและเข้าซื้อกิจการทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอน ซึ่งจะช่วยเพิ่มใบอนุญาตดำเนินกิจการคนกลางและนายหน้าทั่วทั้งอาเซียนภายในปีนี้ จากเดิมที่ได้รับใบอนุญาตในอินโดนีเซียไปเมื่อก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังจะใช้เพิ่มจำนวนพนักงานในด้านวิศวกรรม การพาณิชย์ กลยุทธ์ และการประกันภัย ส่วนในด้านผลิตภัณฑ์และห่วงโซ่คุณค่านั้น บริษัทยังได้เตรียมที่จะทุ่มการลงทุนในด้านการประกันภัยรถยนต์ สุขภาพ และที่เกี่ยวข้องกับภูมิอากาศ การรับประกันภัยและการเรียกร้องสินไหมบนระบบดิจิทัล และเทคโนโลยี AI และบล็อกเชน

 

ราวนาค เมห์ตา ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Igloo กล่าวว่า "การสนับสนุนจากนักลงทุนเป็นสิ่งพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การฟื้นตัวแม้ต้องเผชิญกับอุปสรรค และเป็นหลักฐานว่ากลยุทธ์ของเราประสบผลสำเร็จ เราเป็นบริษัทอินชัวร์เทคเพียงรายเดียวในอาเซียนที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และมีช่องทางการกระจายผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม"

 

"เงินทุนเพิ่มเติมดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่ Igloo และปูทางไปสู่การไขว่คว้าโอกาสในการเดินหน้ารุกตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย เพื่อให้เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการประกันภัยที่มีคุณค่าและน่าเชื่อถือให้แก่ผู้บริโภค" เมห์ทากล่าว

 

 

"ตลาดประกันภัยในประเทศไทยยังคงแข็งแกร่ง และได้แรงสนับสนุนจากการรับรู้ถึงความสำคัญของการทำประกันภัย แม้คนไทยจะเริ่มเข้าใจในเรื่องนี้มากขึ้น แต่ยังมีช่องว่างและโอกาสอีกมาก เพราะอัตราการทำประกันภัยในไทยอยู่ที่ 5.5% เท่านั้น" จอห์น เฉิน ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ Igloo กล่าวและเสริมว่า “Igloo วางกลยุทธ์ในการเจาะตลาดประเทศไทยโดยมุ่งเป้าไปที่การใช้นวัตกรรมและการขยายพันธมิตรในประเทศ เพื่อเข้าถึงภาคธุรกิจใหม่ๆ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น การประกันภัยพืชผลทางการเกษตร”

 

Igloo ให้ความสำคัญอย่างมากกับการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในประเทศไทย โดยได้จับมือกับ AIS Insurance Service และ realme เพื่อให้ความคุ้มครองโทรศัพท์มือถือ และร่วมมือกับ AirAsia Ride และ Bolt เพื่อดูแลด้านการประกันภัยอุบัติเหตุและรถยนต์ที่คุ้มครองรถแท็กซี่และไรเดอร์กว่า 60,000 คน อีกทั้งล่าสุดยังได้เปิดตัว Lazada Protect ซึ่งเป็นการประกันภัยกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดอีกด้วย

[อ่าน 732]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทีเส็บเจาะตลาด MI นานาชาติ ชูเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน เปิดตัวทริปสุขภาวะ ขบวนรถไฟเอ็กซ์คลูซีฟ สถานที่จัดงานหลากหลาย
SME D Bank ร่วมแสดงความยินดี กับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAM คนใหม่
THANA ดันบ้านประหยัดพลังงาน “ธนาวิลเลจ บางนา-บางบ่อ” คว้าฉลากเบอร์ 5 จาก กฟผ. เจาะกลุ่ม First Jobber
OR ร่วมกับ บางกอกแอร์เวย์ส นำร่องใช้น้ำมัน SAF ที่ผลิตในไทยเป็นครั้งแรก ยกระดับการบินสู่ความยั่งยืน
ศรีจันทร์ รุกตลาดกันแดด เปิดตัว เซรั่มกันแดดกุหลาบ ตอกย้ำแนวคิด “แดดเมืองไทยไม่มีใครเข้าใจเท่าเรา”
คาเฟ่ อเมซอน ดันกาแฟพรีเมียม “Selected Cup” คว้า “อิ้งค์ วรันธร” เสริมภาพลักษณ์ผู้นำตลาด
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved