Hop Inn สยายปีก ปักหมุดแดนซามูไร เปิด 4 สาขารวด

15 Jan 2024

 

โรงแรมฮ็อป อินน์ (Hop Inn) ผู้นำโรงแรมระดับบัดเจ็ทที่มีการดำเนินงานอยู่ทั่วประเทศไทยและฟิลิปปินส์ในเครือเอราวัณ กรุ๊ป บุกตลาดท่องเที่ยวญี่ปุ่น เปิดตัว 4 โรงแรมพร้อมกันอย่างเป็นทางการใน 2 เมืองใหญ่อย่างโตเกียวและเกียวโต

 

ปัจจุบันเครือข่ายโรงแรมบัดเจ็ทสัญชาติไทยมีสาขามากกว่า 58 โรงแรม ภายใต้การดูแลของบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป โดยในเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ได้เปิดให้บริการสาขาแรกที่ประเทศญี่ปุ่น คือ  เกียวโต และในเดือนมกราคม 2567 เปิดให้บริการอีก 2 สาขาในโตเกียว

และในเดือนเมษายน 2567 นี้จะเปิดสาขาอุเอโนะ โตเกียว  อีกทั้งยังมีแผนการลงทุนเพิ่มอีกหมื่นล้านบาท เพื่อขยายสาขาของโรงแรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มุ่งเป้าขับเคลื่อนเปิดโรงแรมฮ็อป อินน์มากกว่า 150 สาขา 14,000 ห้องพัก ครอบคลุมทั่วภูมิภาค ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มรายได้ถึง 4 เท่า ภายในปี 2573

 

พิชานันท์ บุญพร้อมกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า

“ฮ็อป อินน์เชื่อมั่นถึงโอกาสการเติบโตของการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นและฐานลูกค้าภายในประเทศ  ซึ่งนี่ก็ถือเป็นโอกาสและการวางรากฐานในการขยายสาขาในประเทศญี่ปุ่น ทั้ง 4 สาขา ตั้งอยู่บนทำเลที่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองโตเกียวและเมืองเกียวโต ตอกย้ำให้มั่นใจได้ว่า แบรนด์ฮ็อป อินน์ สามารถตอบสนองทุกความต้องการเดินทางท่องเที่ยว ราคาสบายกระเป๋าและคงมาตรฐานการบริการได้อย่างดี"

 

"โดยในอีก 5 ปีข้างหน้า ฮ็อป อินน์ ยังตั้งเป้าขยายให้ครอบคลุมสาขาในเมืองหลักของประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ การขยายธุรกิจไปยังประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกที่เราตั้งวิสัยทัศน์ HOP INN 2030 เอาไว้ เพื่อขึ้นเป็นผู้นำโรงแรมบัดเจ็ทในเอเชียแปซิฟิก

ฮ็อป อินน์มั่นใจในความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจโรงแรมและฐานลูกค้าในปัจจุบันที่แข็งแกร่ง จะสามารถผลักดันการเติบโตอย่างมีศักยภาพในประเทศอื่นๆ ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่อไป”

 

 

ทั้งนี้ โรงแรมฮ็อป อินน์ เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อปี 2557 เน้นทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ตอบโจทย์ความสะดวกในการเดินทาง และคุณภาพของโรงแรมที่มีมาตรฐานเดียวกัน ทั้งเรื่องความสะอาดและการบริการมาตรฐานในราคาเข้าถึงได้ ทำให้ได้รับการตอบรับและสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างมาก

สำหรับโรงแรมฮ็อป อินน์สาขาแรกในญี่ปุ่น คือ โรงแรมฮ็อป อินน์ เกียวโต ชิโจ โอมิยะ (Hop Inn Kyoto Shijo Omiya) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเกียวโต ให้บริการห้องพัก 136 ห้อง โดยการออกแบบโรงแรมยังคงอนุรักษ์ความเป็นญี่ปุ่นแบบท้องถิ่นสะท้อนศิลปวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม

รวมถึงมีห้องพักประเภททาทามิ และห้องอาบน้ำแบบ Sento ไว้คอยให้บริการ เดินทางสะดวกเพียง 3 นาที จากสถานีรถไฟชิโจ โอมิยะ  ยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางมรดกโลกยูเนสโกภายในเมืองเกียวโต เช่น ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha) อาราชิยาม่า-ป่าไผ่ (Arashiyama)  วัดคินคะคุจิ-วัดทอง (Kinkakuji Temple)

 

 

โรงแรมฮ็อป อินน์ โตเกียว อิดาบาชิ (Hop Inn Tokyo Iidabashi) เป็นสาขาที่ 2 ในญี่ปุ่น เพื่อเอาใจสายคอนเสิร์ตและสายอีเว้นท์เพราะอยู่ใกล้โตเกียวโดม กรุงโตเกียว

ให้บริการห้องพัก 50 ห้อง ใช้เวลาเดินทางเพียง 3 นาทีจากสถานีรถไฟอิดาบาชิ  และสามารถเดินทางสู่ย่านคากุระซากะ (Little Paris)ย่ านท่องเที่ยวเก่าแก่ของโตเกียวที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นผสมผสานกับฝรั่งเศส พร้อมทั้งร้านอาหารที่ได้รับรางวัลดาวมิชลิน คาเฟ่ริมน้ำ ร้านขนมอบสไตล์ฝรั่งเศส

เมื่อลองตรวจสอบราคาในเว็บไซต์ของฮ็อป อินน์ (ณ เวลา 15.45 น. วันที่ 15 เมษายน 2567) พบว่าห้องเซมิเตียงใหญ่ (double bed) ขนาดห้อง 11 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น เตียงขนาดใหญ่ 140 เซนติเมตร, อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง Wi-Fi, โทรทัศน์ขนาด 50 นิ้ว, เครื่องปรับอากาศ, เครื่องทำความร้อน, ตู้เย็น, กาแฟและชา, โต๊ะทำงาน, ฝักบัวพร้อมอ่างอาบน้ำ ของใช้ภายในห้องน้ำและชุดนอน สามารถเข้าพักได้สูงสุด ผู้ใหญ่ 2 ท่าน / เด็กและทารก นับเป็นผู้ใหญ่ 1 ท่าน

สำหรับการจองในวันที่ 26-27 มีนาคม 2567 (วันแรกที่มีการคาดการณ์ว่าซากุระจะบานที่โตเกียว) มีราคาโปรโมชั่นอยู่ที่ 19,751 เยน/คืน (ราว 4,746 บาท/คืน) แต่สำหรับการจองในวันที่ 4-5 มีนาคม 2567 มีราคาโปรโมชั่นอยู่ที่ 9,875 เยน/คืน (2,368 บาท/คืน) และถ้าเป็นช่วงฤดูร้อนของโตเกียวซึ่งถือเป็นโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวที่นั่น สำหรับการจองในวันที่ 28-29 กรกฎาคม 2567 มีราคาสมาชิกอยู่ที่ 6,930 เยน/คืน (1,660 บาท/คืน) เท่านั้น

 

 

สาขาล่าสุดที่จะเปิดให้บริการคือ โรงแรมฮ็อป อินน์ โตเกียว อาซากุสะ (Hop Inn Tokyo Asakusa) ตั้งอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ที่มาโตเกียวไม่ควรพลาด คือ วัดเซ็นโซจิ (Senso-ji) ใช้เวลาเพียง 2 นาทีจากสถานีรถไฟอาซากุสะ สามารถเดินเชื่อมต่อไปยังสวนสุมิดะ ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวในเทศกาลฮานามิ ฤดูกาลแห่งการชมดอกไม้ของญี่ปุ่น

ที่นี่ให้บริการห้องพัก 115 ห้อง มีห้องพักให้เลือกหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นห้องพักประเภทครอบครัว  ห้องพักสำหรับการเดินทางเป็นกลุ่มหรือห้องประเภท Connecting Rooms โดยในบางห้องสามารถมองเห็นวิววัดเซ็นโซจิ (Senso-ji) และโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) ได้อีกด้วย

 

 

ส่วนสาขาที่จะเปิดให้บริการในต้นเดือนเมษายน 2567 คือ โรงแรมฮ็อป อินน์ โตเกียว อุเอโนะ (Hop Inn Tokyo Ueno) ระยะทางเพียง 150 เมตรจากสถานีรถไฟอุเอโนะ ซึ่งเป็นรถไฟสายตรงจากสนามบินนาริตะ สะดวกในการเดินทาง

โรงแรมตั้งอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในย่านอุเอโนะ เช่น ร้านอิซากายะ แหล่งแฮงก์เอาท์กินดื่มสไตล์ญี่ปุ่น แหล่งช็อปปิ้งในตลาดอะเมโยโกะ ยังสามารถเดินเชื่อมต่อไปยังบริเวณสวนอุเอโนะ และพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

 

เพื่อเป็นการฉลองเปิดตัวอย่างเป็นทางการของโรงแรมฮ็อป อินน์ ในประเทศญี่ปุ่น ทางโรงแรมมอบส่วนลดห้องพักสูงสุด 40% ให้กับลูกค้าที่จองห้องพักในช่วงเวลาพิเศษนี้

  • โรงแรมฮ็อป อินน์ เกียวโต ชิโจ โอมิยะ เริ่มต้น 4,950 เยน (ราว 1,187 บาท)
  • โรงแรม  ฮ็อป อินน์ โตเกียว อิดาบาชิ เริ่มต้น 6,600 เยน (ราว 1,583 บาท)
  • โรงแรมฮ็อป อินน์ โตเกียว อาซากุสะ เริ่มต้น 6,930 เยน (ราว 1,662 บาท)

สามารถจองห้องพักได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มกราคม 2567 เข้าพักได้ถึง 31 มีนาคม 2567 รวมทั้งสามารถสมัครสมาชิก HOP INN REWARD เพื่อรับส่วนลด member rate 10% ทุกการจองห้องพักในทุกโรงแรมของฮอป อินน์ ในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

 

 

ทั้งนี้ จากข้อมูลขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) ระบุข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 11 ธันวาคม 2566 ว่าจำนวนนักเดินทางต่างชาติโดยประมาณที่เดินทางไปญี่ปุ่นในเดือนตุลาคม 2566 อยู่ที่ 2,516,500 คน (+0.8% เมื่อเทียบกับปี 2562) ซึ่งเกินช่วงเดือนเดียวกันของปี 2562 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 และหากนับตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 2566 ญี่ปุ่นมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือน 19,891,080 คน (ครั้ง)

เมื่อพิจารณาจำนวนนักเดินทางต่างชาติไปญี่ปุ่นแยกตามประเทศ/ภูมิภาคในเดือนตุลาคม 2566 พบว่า 5 อันดับแรกได้แก่ เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และไทย ตามลำดับ ขณะที่สมาคมไทยบริการท่องเที่ยวคาดว่าจำนวนคนไทยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นจะสูงถึง 1.5 ล้านคนในปี 2567 เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของทั้งนักเดินทางอิสระและนักเดินทางแบบหมู่คณะ

โดยคนไทยส่วนใหญ่เลือกมาเที่ยวญี่ปุ่นซ้ำเพื่อสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติม กอปรกับค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง และราคาตั๋วเครื่องบินที่เริ่มลดลงเนื่องจากมีสายการบินเปิดเส้นทางระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำนวนคนไทยเดินทางเยือนญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น

 


#HopInn #ฮอปอินน์ #ธุรกิจโรมแรม #การท่องเที่ยวญี่ปุ่น #MarketPlusDaily #MarketPlusUpdate

[อ่าน 693]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ออริจิ้น เสนอขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ 3 ชุด ดอกเบี้ย 4.25-5.00% วันที่ 9-13 พฤษภาคม นี้
GSK รณรงค์การสร้างภูมิคุ้มกันโรคในผู้ใหญ่ สู่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน
บีเทรนด์ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ชวนอัพเดทไอเทมสุดอาร์ต “บีเทรนด์ อาร์ต สเตชั่น 2024”
นันยาง เปิดแคมเปญ “พอดีไม่เหมือนกัน” ชวนนักเรียน “เลิกกดดันตัวเอง”
“อย่าเพิ่งสั่ง! ถ้ายังไม่เปิดเมนูใหม่” เพิ่มความหลากหลาย พร้อมน้ำจิ้ม GON กระทะ
Gentle Monster ‘Jentle Salon Pop-Up’ ป็อปอัปเจาะกลุ่ม Gen Z
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved